| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
เดินหน้าชน : เรียนดีมีความสุข
ถูกจับตามองตั้งแต่มีชื่อ “ครูอุ้ม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าจะขับเคลื่อนการศึกษาไทยไปในทิศทางใด เพื่อยกระดับการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม
สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา “ครูอุ้ม” ได้เริ่มเข้าไปปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นทางการ ได้ประชุมกับผู้บริหารระดับสูง ศธ.พร้อมมอบนโยบายเป็นครั้งแรก
โดยชูนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เน้นใน 2 เรื่องใหญ่ ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา 4 ด้าน
1.ปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดขั้นตอนมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ด้วยการปรับระบบการประเมินวิทยฐานะที่เน้นตามสภาพจริง ลดการทำเอกสาร-ขั้นตอนการประเมิน ไม่ซับซ้อนและเป็นธรรม
2.ครูคืนถิ่น สามารถโยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง พร้อมสำรวจครูขาดแคลนในแต่ละพื้นที่
3.แก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการวางแผนการใช้เงินและการเก็บออมเงิน เร่งช่วยเหลือกลุ่มหนี้เสียโดยเร่งด่วน
4.จัดหาอุปกรณ์การสอนและสวัสดิการ 1 ครู 1 แท็บเล็ต
ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง 6 ด้าน
1.เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 1 นักเรียน 1 Tablet
2.1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ ด้วยการจัดให้มีการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพต้นแบบอย่างน้อย 1 โรงเรียนในแต่ละอำเภอหรือเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อนำร่องการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ
3.ระบบแนะแนวการเรียน และเป้าหมายชีวิต ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีทักษะที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
4.การจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ ผู้เรียนสามารถเรียนเพิ่ม เพื่อรับประกาศนียบัตรในการประกอบอาชีพ ด้วยการนำหน่วยกิตที่สะสมมาใช้เทียบคุณวุฒิ
5.การจัดทำระบบวัดผลเทียบระดับการศึกษา และประเมินผลการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนในระบบ
6.มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงาน ด้วยการจัดการอาชีวศึกษาระดับวิชาชีพอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาสมรรถนะกำลังคนระดับเทคนิค โดยมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน
นโยบายดังกล่าวที่ “ครูอุ้ม” ประกาศออกมาเป็นความคาดหวังที่จะขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม หลายเรื่องเป็นปัญหาที่สะสมกันมาอย่างช้านานในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา รอการสะสางแก้ไข
ทั้งเรื่องปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ถือว่าสาหัสเอาการ ครู 9 แสนกว่าคน มีหนี้สินรวม 1.4 ล้านล้านบาท หลายคนมีเงินเหลือใช้ไม่ถึง 30% ในแต่ละเดือนหลังจากหักภาระหนี้สิน
แนวทางที่ “ครูอุ้ม” ประกาศจะช่วยเหลือด้วยการจ่ายดอกเบี้ยให้ในช่วง 3 ปีแก่ครูที่มีหนี้ไม่เกิน 1 ล้านบาท การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการวางแผนการใช้เงินและการเก็บออมเงิน น่าจะช่วยบรรเทาเยียวยาได้ และป้องกันการก่อหนี้ในอนาคต
อย่างไรก็ดี ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย “ครูอุ้ม” ในประเด็นการปฏิรูปการศึกษา ที่รัฐบาลได้แถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาไว้แล้ว ว่าจะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ
ที่ผ่านมาแม้จะมีการขับเคลื่อนแผนปฏิรูปการศึกษา แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ดีขึ้นกว่าที่เป็น ใกล้เคียงมาตรฐานประเทศที่จัดการศึกษาได้ดี การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่แม้มีอัตราการเข้าเรียนและจบการศึกษาในสัดส่วนที่สูง แต่ความเหลื่อมล้ำของเด็กในเมืองและต่างจังหวัดยังมีอยู่ ความเหลื่อมล้ำเด็กรวยและเด็กยากจน จนส่งผลต่อคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่ต่างกัน
ตลอดระยะเวลา 4 ปีจากนี้ถือเป็นภารกิจที่ท้าทาย ที่จะขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้บรรลุเป้าหมาย “เรียนดี มีความสุข”
