บทนำ : ฝ่ายค้านเชิงรุก
นอกจากความเคลื่อนไหวของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เปิดเกมรุกด้านการบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่ได้รับตำแหน่งแล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่ประกาศที่จะเดินหน้าฝ่ายค้านเชิงรุก ภายใต้การนำของนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยล่าสุด นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกลคนใหม่ ได้กางแนวทางการทำงานให้ปรากฏ
โฆษกพรรคก้าวไกลคนใหม่ย้ำความตั้งใจของพรรคก้าวไกลที่จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกด้วยแนวทาง Policy watch หรือการจับตานโยบายและการทำงานของรัฐบาลและนำมาวิเคราะห์ ซึ่งหลังจากวิเคราะห์แล้วหากเห็นว่าตอบโจทย์ก็สนับสนุน แต่ถ้าพบเห็นจุดบกพร่องก็จะเสนอแนะให้รัฐบาล หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง ซึ่งโฆษกพรรคก้าวไกลระบุว่า วิธีการเช่นนี้พรรคก้าวไกลเริ่มต้นแล้ว
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีแนวทางเพิ่มบทบาท ส.ส. โดยแบ่งการขับเคลื่อนออกเป็น 15 ประเด็น ครอบคลุมกับปัญหาของประชาชน ประกอบด้วย 1.พัฒนาเศรษฐกิจ 2.เกษตร-ประมง 3.ที่ดิน 4.แรงงาน-สวัสดิการ 5.ท่องเที่ยว 6.เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 7.พัฒนาการเมือง 8.ความหลากหลาย 9.ทหาร-ตำรวจ 10.กระจายอำนาจ-ราชการ 11.สาธารณสุข 12.การศึกษา 13.คมนาคม 14.สาธารณูปโภค และ 15.สิ่งแวดล้อม
โฆษกพรรคก้าวไกลยังบอกว่า ฝ่ายค้านจะทำงานควบคู่ไปกับกลไกสภา ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมาย 27 ร่างที่จะเปลี่ยนประเทศเข้าสู่สภาแล้ว นอกจากนี้ยังมีกลไกของกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ซึ่งจะไม่มองเฉพาะปลายเหตุ แต่จะมุ่งสร้างความโปร่งใสตั้งแต่ต้นน้ำ คือที่มาของงบประมาณ
หากการทำงานของรัฐบาลเข้มแข็ง และการตรวจสอบจากพรรคฝ่ายค้านก็เข้มแข็ง กระบวนการประชาธิปไตยจะเข้มข้นมากขึ้น แม้ขณะนี้พรรคก้าวไกลจะต้องเผชิญหน้ากับพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลที่ใช้เหตุแห่งมติขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 เป็นเกมรุก แต่ก็ไม่น่าจะกระทบภาพรวมการทำงานของฝ่ายค้าน ซึ่งถ้าสามารถทำงานเชิงรุกได้ตามที่ประกาศ ประชาชนจะมีตัวแทนที่ดีทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบด้วย
