หมายเหตุ – ความเห็นนักวิชาการกรณีข้อเสนอพรรคประชาชนพร้อมโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่มีเงื่อนไขเป็นรัฐบาลชั่วคราว เพื่อไม่ให้การเมืองถึงทางตัน หากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคปชน.ระบุว่าการโหวตไม่ได้ยึดติดกันตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง แต่ต้องเป็นการสร้างทางออกให้กับประเทศได้
โอฬาร ถิ่นบางเตียว
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากไม่นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รอให้ศาลวินิจฉัยจะเป็นผลดีต่อ น.ส.แพทองธาร ทักษิณ ชินวัตรอยากให้ น.ส.แพทองธารมีตำแหน่งใน ครม. นั่งตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม เพื่อมีบทบาทใน ครม. แต่ปัญหาจะตามมาหากศาลวินิจฉัยว่าคุณสมบัติของ น.ส.แพทองธารมีปัญหาจริยธรรมร้ายแรงจากคลิปหลุด จะส่งผลให้ ครม.ชุดนี้ล้ม เพราะแต่งตั้งคนขาดคุณสมบัติ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า น.ส.แพทองธารไม่ผิด ทุกอย่างปกติ
หาก น.ส.แพทองธารตัดสินใจลาออก แล้วเพื่อไทยตกลงกับพรรคประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ มองว่าเป็นไปได้ เพราะความสัมพันธ์เพื่อไทยกับพรรคประชาชนมีข้อสังเกตมาตั้งแต่ต้น หลายคนมองว่าอาจเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว หากความขัดแย้งมาถึงจุดแตกหักระหว่างทักษิณกับฝ่ายอนุรักษนิยม เป็นศัตรูของพรรคส้มหรือพรรคประชาชน มองได้ว่าพรรคประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ว่าจะประคอง น.ส.แพทองธารหรือนายชัยเกษม นิติสิริ จะเป็นวิธีต่อสู้กับเครือข่ายอำนาจเก่า
กลุ่มอำนาจเก่ากับพรรคเพื่อไทยมีเวลาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับฝั่งไหนจะปิดเกมเร็วกว่ากัน ฝ่ายอนุรักษนิยมหรือกลุ่มอำนาจเก่ามีกลไกองค์กรอิสระ หรือนิติสงคราม ในการปิดเกม ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งพรรคเพื่อไทย มีเวลาพอกันจะเป็นพันธมิตรกับพรรคประชาชน การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เลือกตั้งครั้งหน้า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ เพื่อไทยและพรรคประชาชนจะมีคะแนนสูงมากในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หากนายชัยเกษม นิติสิริ ขึ้นมาเป็นนายกฯ จะยืดเวลาออกไป น.ส.แพทองธารอยู่ต่ออีก 6 เดือน นายชัยเกษมอยู่ต่ออีก 6 เดือน พอจะทำให้เพื่อไทยกอบกู้สถานการณ์วิกฤตได้ ขับเคลื่อนนโยบายประชานิยม โครงการต่างๆ ปรับรัฐมนตรีให้มีบทบาทกับข้าราชการประจำให้เป็นคนของเพื่อไทย หากนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรีจะประวิงเวลาไปได้หน่อยหนึ่ง ก่อนยุบสภา
ถามว่าทำไมเพื่อไทยไม่จับมือกับพรรคประชาชน เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางการเมือง มองว่ายังทำไม่ได้ในตอนนี้ เพราะสัญญาณยังไม่ชัดว่าจะสามารถประนีประนอมกับฝั่งอำนาจเก่าได้แค่ไหน อำนาจเก่ายังไม่ไว้ใจทักษิณ ถึงเวลาแล้วที่ทักษิณและเพื่อไทยจะต้องแสดงจุดยืนชัดเจน หักหลังกลุ่มอำนาจเก่า มาร่วมมือกับพรรคประชาชน
การที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พยายามกล่าวนำหากร่วมกับเพื่อไทย การเมืองจะเดินหน้าได้ไกล เท้ง หรือนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนอย่างเป็นทางการ ทำหน้าที่กลางๆ เท่านั้น แต่หัวใจของพรรคประชาชนอยู่ที่นายธนาธร เหมือนเพื่อไทยมีทักษิณ อยู่ที่นายธนาธรกับนายทักษิณจะตกลงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการเมืองกันอย่างไร ที่เห็นอยู่ขณะนี้ ตีความได้ว่า พรรคประชาชนพยายามรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อไทยเอาไว้ เพื่อหวังผลระยะยาว
พรรคประชาชนพยายามประคับประคองรัฐบาล ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ไม่ค้านให้เพื่อไทยเดินต่อไม่ได้ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านบนหลักการ เพื่อรอยุบสภา จากนั้นจะกลับมาตั้งรัฐบาลร่วมเพื่อไทยกับพรรคประชาชน
ส่วนการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยังไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รักษาผลประโยชน์ของเครือข่ายอำนาจเก่าเอาไว้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของอำนาจเก่า ในทางการเมืองจึงไม่ง่ายจะยกเลิกรัฐธรรมนูญ
หลังจากนี้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน จะสร้างการสื่อสารอย่างไรให้ลื่นไหลในบทบาทของแต่ละพรรค อีกด้านหนึ่งพยายามตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤต
เชื่อว่าเป็นละครการเมือง คนอยู่เบื้องหลังจะตัดสินใจอย่างไร นายณัฐพงษ์ นายอนุทิน พูดกันเพื่อสื่อสารอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้าย พรรคภูมิใจไทยอยู่ที่นายเนวิน ชิดชอบ พรรคประชาชนขึ้นกับนายธนาธร เพื่อไทยอยู่ที่นายทักษิณ รัฐบาลฐานเสียงปริ่ม จะอยู่นานแค่ไหน เชื่อว่ารัฐบาลคิดไม่ไกล น.ส.แพทองธารไปต่อได้แค่ไหนแค่นั้น ช่วงนี้ต้องทำนโยบายประชานิยม ปรับเปลี่ยนข้าราชการ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง พร้อมดีลกับพรรคประชาชน หาก น.ส.แพทองธารเปลี่ยนเป็นนายชัยเกษม ก็พยายามเดินหน้าการเมืองให้ถึงที่สุด แค่ไหนแค่นั้น แต่จะไปต่อยาวๆ ยากมาก
ทางออกของ ครม.ชุดใหม่ ต้องประเมินว่าหลังถวายสัตย์ ดูศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร หาก น.ส.แพทองธารไม่มีปัญหาจริยธรรมการเมืองร้ายแรง ก็จบ จากนั้นต้องรีบทำนโยบายประชานิยมให้เต็มที่ กดดันดีเอสไอเร่งคดีฮั้ว ส.ว. นำไปสู่ยุบพรรคภูมิใจไทย ดีลลับกับพรรคประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อไทยกับพรรคประชาชนก็ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ยุทธพร อิสรชัย
อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
มองว่าเป็นการวางเงื่อนไขขึ้นมา เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง เพราะเงื่อนไขของพรรคประชาชนคือ การยุบสภาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการโหวตให้ใครเป็นนายกฯ แต่ครั้งนี้หากยุบสภา แน่นอนว่าการเลือกตั้งต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาก็ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 และกฎหมาย อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะทำให้รูปโฉมการเมืองจะกลับมาคล้ายๆ เดิมหลังการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนั้นก็คงคล้ายๆ เดิม
พรรคประชาชนยังเสี่ยงอาจถูกยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ช่วงหลังเลือกตั้ง
หรือแม้กรณี 44 ส.ส. ยังคงมีปัญหาค้างคาอยู่ใน ป.ป.ช. พอเงื่อนไขแบบนี้ออกมา
พรรคประชาชนได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งยุบสภาเพื่อเลือกตั้ง มีโอกาสจะกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งอีก ขณะเดียวกันได้เรื่องการยื่นเงื่อนไข การแก้กติการัฐธรรมนูญ 2560 ต้องตั้ง ส.ส.ร.ทำตามกฎหมายเรื่องนิรโทษกรรม เป็นประเด็นข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน
เป็นยุทธศาสตร์ของพรรคประชาชน ไม่ว่าจะไปจับขั้วกับพรรคใด ไม่ว่าจะโหวตให้ เพื่อไทย แคนดิเดตคนต่อไปของเพื่อไทย หาก น.ส.แพทองธารพ้นตำแหน่ง หรือจะไปโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตพรรคภูมิใจไทยก็ตาม
เงื่อนไขนายกฯชั่วคราว เป็นนายกฯชั่วคราวที่ถาวร เพราะรับปากกันว่าจะเป็นนายกฯชั่วคราว ไม่มีสิ่งใดยืนยันการันตีได้ว่า นายกฯผู้นั้นจะไม่อยู่ถาวร สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ยึดอำนาจโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน สุดท้ายพลเอกประยุทธ์อยู่ 9 ปี ไม่เชื่อว่าใครจะมาเป็นนายกฯชั่วคราว
แน่นอนว่า ก็ต้องยื่นเงื่อนไขนายกฯชั่วคราว เพราะพรรคประชาชนต้องอาศัยจังหวะนี้ ได้เปรียบการเมือง มีสิ่งที่พรรคประชาชนเคยแสดงจุดยืนว่าจะไม่ร่วมกับภูมิใจไทย หรืออาจไม่โหวตให้ใครเป็นนายกฯเลยในสถานการณ์เช่นนี้ เลยออกมาเป็นเงื่อนไขนายกฯชั่วคราว
เงื่อนไขการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว จะตรงกับนายกฯชั่วคราว เพราะพรรคประชาชนบอกว่าจะต้องเลือกตั้ง หากต้องมีการเลือกตั้งภายในปีนี้ เหลือไม่ถึง 6 เดือน กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม จะทันหรือไม่ ตรงนี้มีเงื่อนไขหลายอย่าง ไม่มั่นใจว่าถ้ายุบสภา จะคืนอำนาจให้ประชาชนจริงหรือไม่
เรื่อง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เช่นเดียวกันว่า ต้องใช้ระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน ตามไทม์ไลน์คือ ต้องยุบสภาปีนี้ จัดทำทันหรือไม่ รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น ในช่วงเวลา 4 เดือน ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย หาก น.ส.แพทองธาร ไม่ลาออก ท้ายที่สุดจะเหลือเวลาประมาณไม่เกิน 3 เดือน จนถึงสิ้นปี
หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาว่า น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อไทยตกอยู่ที่นั่งลำบาก ต้องเผชิญหลายอย่าง ได้แก่ 1.โจทย์ของความเชื่อมั่น ต้องเรียกคืนมา ไม่ใช่เรื่องง่าย ความเชื่อมั่นของเพื่อไทยต่อประชาชน เป็นปัญหาใหญ่ของพรรคและนายกฯ 2.การเผชิญของแรงต้านจากม็อบ หรือเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนในสังคมเองก็ดี 3.นิติสงคราม ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร หากดูมติ 7:2 ก็น่ากังวลสำหรับนายกฯ ท้ายที่สุดอาจถูกถอดถอน
4.พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ปัญหาแต่ละพรรคนำไปสู่ภาพใหญ่ได้ ยกตัวอย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อต้องโหวตนายกรัฐมนตรีใหม่ เสียงเดิมเหล่านี้ยังจะเกาะอยู่หรือไม่ กรณี ครม.ลุยไฟ คนที่มี 10 เขาก็จะเรียก 100 นั่นเอง และ 5.ท่าทีฝ่ายค้าน การจับมือพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคอื่นๆ ของฝ่ายค้าน จะมีพลังต่างๆ มากขึ้น ปัญหากัมพูชา สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะเคลื่อนไหวอะไรอีกหรือไม่ เป็นโจทย์เยอะมากเพื่อไทยต้องเผชิญ
ตรีเนตร สาระพงษ์
อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
นี่คือฉากทัศน์ของรัฐบาลชั่วคราว กับหมากใหม่ทาง การเมือง รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้มีรัฐบาลชั่วคราว
หากเป็นที่ยอมรับของเสียงข้างมากในสภา รัฐบาลอาจมีอายุไม่กี่เดือนเพื่อภารกิจบริหารชั่วคราว เตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคประชาชนไม่เพียงแต่เสนอช่วยโหวต หากแต่ต้องการขีดเส้นใต้แนวทางการคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง และประชามติว่าด้วยการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นไปได้หรือไม่ต้องพิจารณาดังนี้
1.ปัจจัยแห่งความเป็นไปได้ ตั้งคำถามว่านี่คือโอกาสหรือกับดักของแนวทางรัฐบาลชั่วคราว แม้ข้อเสนอของพรรคประชาชนจะฟังดูชัดเจน แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายประการต้องชั่งน้ำหนัก ในแง่มุมสนับสนุนหลักการนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ หากแนวคิดนี้ช่วยให้เพื่อไทยโหวตนายกฯใหม่โดยไม่ร่วมรัฐบาล 2.ความชอบธรรม รัฐบาลชั่วคราวตั้งขึ้นจะแก้ทางตัน ได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐบาลเข้ามาคลี่คลายวิกฤต ไม่ใช่ครองอำนาจถาวร แต่หากเข้ามาแล้วยื้ออำนาจนาน เพราะถ่วงเวลา อาจเป็นการลากตั้ง แทนจะเป็นเลือกตั้ง สร้างแรงต้านจากประชาชนได้
3.จังหวะเวลาทางการเมือง แนวคิดนี้มาถูกเวลา ประเทศไทยต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ช่วงเวลาสำคัญ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลเผชิญความเปราะบางในสภา การยุบสภาอาจใกล้เข้ามา การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีกลางเทอมโดยไม่มีการเลือกตั้ง อาจไม่มั่นคงหากขาดฉันทามติจากสังคม หรือเจตนาชัดเจน หรือความจริงใจสื่อสารออกมาว่าเป้าหมายแท้จริงคือการนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่และการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวบุคคล แต่คงโครงสร้างอำนาจเดิม
4.ท่าทีของพรรคประชาชน ช่วงนี้ไม่เพียงจะช่วยโหวตเท่านั้น แต่ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล เป็นเพียงสะพานเชื่อม ท่าทีน่าสนใจมาก ต่างจากพรรคการเมืองในระบบ แต่อีกมุมยอมรับว่าพรรคประชาชนมีจำนวน ส.ส.ไม่มากพอกำหนดทิศทางได้ลำพัง ต้องอาศัยแรงหนุนจากพรรคอื่น
4.ข้อเสนอเรื่องประชามติและ ส.ส.ร. หากจะให้รัฐบาลชั่วคราวนี้มีเป้าหมายชัดเจนและมีพลัง ข้อเสนอประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. เป็นหัวใจสำคัญ แต่ในเชิงกฎหมายและกลไกรัฐ กลับยังไม่มีกฎหมายลูก หรือขั้นตอนรองรับการตั้ง ส.ส.ร.ในเวลาสั้น หากไม่ชัดเจน อาจกลายเป็นเพียงคำสัญญาสร้างความหวังชั่วคราว
นี่คือท่าทีน่าสนใจต่างจากพรรคเดิมๆ อาจจะไม่คุ้มค่าในสายตาของนักการเมืองระบบอุปถัมภ์ แต่ในเชิงกลยุทธ์ พรรคประชาชนวางตัวเองในฐานะผู้รักษาหลักการ มากกว่าผู้แย่งเก้าอี้ อาจไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ได้งบประมาณ ไม่ได้อำนาจกำหนดนโยบายระยะสั้น แต่ได้เครดิตทางคุณธรรม พื้นที่ทางการเมืองเชิงอุดมการณ์ วันที่พรรคใหญ่เลือกเดินเกมการเมืองแบบปิดดีลเพื่ออำนาจ พรรคประชาชนกลับยืนในจุดไม่ร่วม แต่ไม่ขวาง ยอมยื่นมือช่วย เป็นทางออกคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชามติ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวนายกฯ หากเริ่มเกมเปลี่ยนกติกา เป็นจุดยืนอยู่ถูกที่ ยืนอยู่ในวันพรรคใหญ่เสื่อมถอยทางความเชื่อถือ แต่พรรคประชาชนยืนบนหลักการสม่ำเสมอ ไม่แสวงหาผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ดอกผลคือการเติบโตทางการเมืองในระยะยาว