เหตุปัจจัยก่อให้สถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม มีความอ่อนไหวและสร้างความหวาดผวาเป็นอย่างสูง
คำตอบคือ “มวลชน”
การปรากฎขึ้นของ 1 กกล.รส.ทั้ง 4 กองทัพภาค 1 มาตรการ 7 มาตรการจากกระทรวงมหาดไทย ประสานเข้ากับ 1 แผนกรกฎ 52 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
คือ รูปธรรมสะท้อนความตื่นตัวอย่างเป็นพิเศษของ 1 คสช.และ 1 รัฐบาล
เป้าหมาย คือ ไม่ห้าม แต่ไม่อยากให้มาที่หน้าศาล
ทำไมทั้งคสช.และรัฐบาลจึงเกิดความวิตกกระทั่งต้องออกมาตรการ”ป้องปราม”ระลอกแล้วระลอกเล่า
คำตอบอยู่ที่”ลักษณะพิเศษ”ของ “มวลชน”
ต้องยอมรับว่าการเล่นงานต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผลพวง จากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
โดยรวมศูนย์ที่กรณี”จำนำข้าว”
เริ่มต้นจากเล่นงานทาง “การเมือง” ผ่านกระบวนการถอดถอนจากป.ป.ช.ไปยังสนช.
ตามมาด้วยเล่นงานทาง “กฎหมาย”
ทาง 1 ส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง
ทาง 1 ใช้มาตรา 44 สร้างทางสะดวกเรื่องยึดทรัพย์
การพิจารณาคดีจากปี 2558 เรื่อยมาจนถึงปี 2560 รวมแล้ว 16 นัดเด่นชัดอย่างยิ่งว่าได้ก่อให้เกิด “มวลชน”จำนวนหนึ่งบริเวณ หน้าศาล
เป็น “มวลชน” มาให้”กำลังใจ”
ทำไม 16 นัดจึงไม่มี”ปัญหา” แล้วนัดที่ 17 กลับกลายเป็นปัญหา กลับกลายเป็นประเด็น
ความอ่อนไหวเป็นอย่างมากของ “ปรากฏการณ์ 25 สิงหาคม” คือ การแสดงพลังของ “มวลชน” ไม่ว่าจะ “มาก” ไม่ว่าจะ”น้อย”
แต่ที่สุดแล้วนี่คือ การเคลื่อนไหวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อเดือนตุลาคม 2516 หรือเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ที่สำคัญ คือ เป็นการเคลื่อนไหวโดยไม่มี “หัวหน้า”
เป็นในลักษณะเป็นไปเองและมีเป้าหมายเพื่อ”กำลังใจ”