สกู๊ปหน้า 1 : หอมกลิ่นเลือกตั้ง จับเข่าคลื่นใหม่ ทายาท’บิ๊กวิน’

หลายคนสงสัยว่าบุรุษข้างกาย “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในทุกครั้งที่ผู้ว่าฯลงพื้นที่ไปแก้ปัญหาในเมืองกรุง จะเห็นภาพเด็กหนุ่มเดินอยู่ข้างกายตลอดเวลา

หนุ่มที่หน้าตาละม้าย พล.ต.อ.อัศวินŽ เขาคนนั้นคือ ร.ต.ท.พงศกร ขวัญเมือง รองสารวัตรเอิร์ทŽ บุตรชายคนกลางผู้ว่าฯนั่นเอง

รองสารวัตรเอิร์ทเป็นรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทุ่งมหาเมฆ ปัจจุบันได้ลาราชการเพื่อศึกษาต่อปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการปกครองและการบริหารจัดการภาครัฐ การดำเนินนโยบายและการเมือง ที่มหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน (The University College London : ULC) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และกำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้

ตอนนี้เดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการจัดนโยบายของกรุงเทพมหานคร และกำลังเตรียมตัวบินไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพราะสอบได้ทุนรัฐบาลอังกฤษ (Chevening Schollarship) เพื่อศึกษาปริญญาโท สาขานโยบายสาธารณะ (Public Policy)

Advertisement

รองสารวัตรเอิร์ทเปิดโอกาส มติชนŽ สัมภาษณ์เปิดใจ พร้อมเกริ่นนำว่า ตอนนี้ต้องกลับมาเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์ให้สมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ยังใช้เวลาช่วงนี้ศึกษางานในกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะกลับไปเรียนต่อยังมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หลังจากสอบทุนจากรัฐบาลอังกฤษ ในสาขานโยบายสาธารณะได้ เป้าหมายที่เลือกศึกษาต่อสาขานโยบายสาธารณะนั้น มองว่า นโยบายŽ เป็นหัวใจของการทำงานทุกองค์กรและทุกภาคส่วน จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปยังทิศทางที่ควรจะเป็น เปรียบเทียบกับการเดินทาง หากไม่รู้เส้นทาง ไม่มีแผนที่ ไม่ตั้งเป้าหมาย ก็ไม่อาจทำให้สู่เป้าหมายได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

จะนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับงานของคุณพ่ออย่างไรบ้าง

ก็นำมาประยุกต์ใช้ตลอดเวลา มองว่า การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนŽ เป็นเรื่องสำคัญ ผมเป็นอีกคนที่สามารถสะท้อนแนวคิด มุมมองของคนรุ่นใหม่ที่ผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจ ยกตัวอย่าง การเข้าถึงสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งคนที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ยังไม่ค่อยเข้าใจโลกโซเชียลมีเดียเท่าที่ควร แม้เริ่มมีการเรียนรู้ แต่ความเข้าใจและการเข้าถึงนั้น ยังทำได้ยาก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่จะช่วยแนะนำต่อการทำงานของคุณพ่อ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แต่ยังคงมีแนวทางปฏิบัติเหมือนเดิมอยู่

Advertisement

จึงเสนอแนะให้เปิดช่องทางร้องทุกข์ ร้องเรียน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงผู้ว่าฯกทม.ได้มากขึ้น ได้แก่ เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯอัศวินŽ และไลน์ อัศวินคลายทุกข์ ซึ่งมีทีมงานเป็นผู้ดูแล คอยเคลื่อนไหวและตอบโต้ประชาชนตลอดเวลา เนื่องจากเป็นการร้องเรียนโดยตรงต่อผู้บริหาร กทม. ทำให้ปัญหาถูกส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที นำมาสู่การแก้ไขปัญหารวดเร็ว

ในอนาคตมีแนวคิดว่าอยากลงเล่นการเมืองหรือไม่
ถามว่าผมอยากเข้าสู่เวทีการเมือง หรือชอบการเมืองไหม ผมเริ่มชอบการเมืองตั้งแต่อายุ 15 ปี มุมมองทางการเมืองของผม มองว่าทุกคนต้องใส่การเมือง ไม่ควรบอกว่าเสียงของตนไร้คุณค่า เพราะท้ายสุดแล้วทั้งหมดก็อยู่ที่ทุกเสียงว่าคิดอะไร ทุกเสียงจึงมีค่าและอยากให้คนสะท้อนการเมืองตลอดเวลา

ผมชอบและอยากทำงานการเมืองมาตั้งแต่เด็ก แต่การเล่นการเมือง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความชอบแล้วจะเล่นการเมืองได้ หรือว่าเข้าสู่การเล่นการเมือง โดยไม่ได้มองว่าจะทำอะไรให้ประเทศชาติได้บ้าง

ดังนั้น อย่างแรกที่ผมจะเล่นการเมือง ผมจะต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ผมจะทำอะไรให้กับประเทศชาติได้บ้าง ผมสามารถทำอะไรที่จะพัฒนาประเทศได้บ้าง ถ้าผมจะลงเล่นการเมืองเฉยๆ แล้วอยากแค่ไปพูดในสภา พูดเอามัน ด่าคนนู้นคนนี้ที ผมไม่ชอบการเมืองแบบนั้น แต่ถ้าลงเล่นการเมืองแล้วทำให้ประเทศพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ผมอยากเล่นแบบนั้นมากกว่า

ต้องดูว่ามีโอกาสทำงานการเมืองในฐานะอะไรบ้าง ฐานะ ส.ส.ท้องถิ่น หรือระดับชาติ ต้องดูโอกาสนั้น เมื่อมีโอกาสเข้ามาแล้วต้องดูว่าตำแหน่งหรือคนที่เราจะร่วมทำงานด้วย หรือกลุ่มการเมืองที่เราจะทำด้วย มีความคิดตรงกับผมหรือไม่ หากความคิดไม่ตรงกันที่จะพัฒนาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ต่อต้านสิ่งใดที่มีสาเหตุที่ผมไม่อยากทำแบบนั้น แต่ถ้ามีเจตนาตรงกัน หรือแนวคิดตรงกับผม ผมก็อยากทำ แต่ต้องดูว่าตอนนี้มีอะไรที่ผมทำได้บ้างและถูกใจผม รวมถึงอนาคตหากมีโอกาสเข้าร่วมแล้ว มองไกลไปกว่านั้นอีกว่าแล้วผมจะเข้าไปทำอะไรได้บ้าง ต้องดูนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมืองด้วย ตอนนี้ผมเห็นนโยบายการเมืองของแต่ละพรรค ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจน มีแต่ต่อต้านระหว่างกัน มีพรรคการเมืองไม่กี่พรรค กล้าพูดจุดยืนของตัวเอง ผมอยากเห็นทุกพรรคประกาศนโยบายชัดเจนก่อนจะตัดสินใจร่วมลงพรรค หากมีแนวคิดตรงกัน ต้องมาคุยกันอีกว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเพื่อประชาชนคือสิ่งสำคัญที่สุดŽ

แสดงว่าตอนนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอยู่ในใจ

ผมไม่เคยเอาพรรคการเมืองเป็นตัวตั้ง พรรคอะไรก็ได้ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งคู่ ไม่ใช่เลือกพรรคนี้เพราะพ่อผมอยู่ หรือชอบพรรคนี้เพราะแม่อยู่ แบบนี้ไม่ใช่การเมืองของผม ผมไม่ได้ดิ้นรนในการเล่นการเมือง แต่ผมมีเป้าหมายชัดเจน อยากลงมาพัฒนาประเทศชาติจริงๆ อยากเปลี่ยนการเมืองใหม่ให้ดีขึ้น

เริ่มมีหลายพรรคมาจีบหรือทาบทามบ้างแล้ว
ตอนนี้มีหลายคนเข้ามาคุย ตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่าชอบอยากให้เข้าไปทำงานการเมืองด้วยกัน เพราะชอบแนวคิด แต่หลายคนที่เข้ามาถามก็อยู่หลายพรรค หลายคนที่เข้ามาทาบทามก็เปลี่ยนพรรคการเมืองไป ผมเองยังตอบไม่ได้เลยตอนนี้เขาสังกัดพรรคไหน

เรื่องการเมืองผมคุยกับทุกคน ตั้งแต่เริ่มพูดกับครอบครัวก่อน ซึ่งครอบครัวเองก็ไม่สนับสนุน ทะเลาะกันตลอด เพราะผมบอกไปแล้วว่าผมไม่ได้เลือกการเมืองที่มีพ่อสังกัดอยู่ แล้วต้องอยู่พรรคนั้น อันนี้ผมไม่เห็นด้วยเพราะอะไรไม่ดีต้องกล้าวิจารณ์ ส่วนเรื่องการเมืองต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึง ต้องพูดคุยกัน แม้แต่กับเพื่อนผมเองก็พูดคุยในวงร้านกาแฟ ไม่จำกัดว่าการเมืองจะพูดคุยกันที่ไหน ยกเว้นห้ามคุยกันเกินที่กฎหมายกำหนด (หัวเราะ)Ž

มี ไอดอลŽ นักการเมืองเป็นต้นแบบหรือไม่

หากถามว่านักการเมืองที่ดี ผมตอบไม่ได้ว่ามีใครบ้าง แต่หากบอกว่าเก่ง ผมว่าทุกคนเก่ง ขึ้นอยู่กับว่าจะมองข้อดีหรือข้อเสีย แต่ผมเลือกมองข้อดี อย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผมมองว่าเขาเก่งด้านนโยบายและการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองค่อนข้างสูงมาก โดยพรรคไทยรักไทย สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้อย่างดี ทำให้ประเทศนำมาสู่การพัฒนาหลายอย่าง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีนโยบายการเมืองดี ทำให้การเมืองโปร่งมากขึ้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบยุคนายอภิสิทธิ์

และอีกคนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ใช่พรรคการเมือง เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สิ่งที่ผมเห็นชัดคือ นโยบายเด็ดขาดทำให้การขับเคลื่อนประเทศหลายโครงการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องค้างคาและติดขัดมานานเพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้าเดินหน้าเพราะกลัวเสียคะแนนเสียง อาทิ โครงการรถไฟฟ้า นโยบายจัดระเบียบของ กทม.หาบเร่แผงลอยที่มีปัญหามานาน มีรัฐบาลสนับสนุน ต่างจากอดีตที่ กทม.อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาล แต่ว่าต้องมองแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบให้รอบด้านด้วย

อยากฝากให้ทุกคนหันมาใส่ใจการเมืองมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ถ้าตัวเราเริ่มสนใจการเมือง อยากทำการเมืองให้ดีขึ้น เราเป็นปากเสียงแสดงความคิดเห็นได้ อย่าคิดว่าอนาคตไม่มีทางเปลี่ยนการเมืองได้ เพราะท้ายสุดมันเริ่มจากตัวเราที่จะเปลี่ยนการเมืองได้

จับตาดู รองสารวัตรเอิร์ทŽ ขุนพลข้างกาย พล.ต.อ.อัศวินŽ ว่าอนาคตจะสวมเสื้อพรรรคไหน โลดแล่นในวงการเมือง…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image