‘เพิ่มพูน’ลุยภารกิจ ส่งเสริมการอ่าน-ยกระดับคุณภาพครู

‘เพิ่มพูน’ลุยภารกิจ ส่งเสริมการอ่าน-ยกระดับคุณภาพครู

หมายเหตุ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงแผนการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย ตลอดจนการดูแลสวัสดิการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

⦁ ภาพรวมการทำงานตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งช่วงเดือนกันยายน 2566 เป็นอย่างไรบ้าง

นโยบาย เรียนดี มีความสุข ได้รับการตอบรับจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างดีเยี่ยม แต่อาจยังลงไปไม่ถึงหน่วยปฏิบัติได้เท่าที่ควร จากการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ พบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนบางแห่งยังไม่รับรู้ รับทราบนโยบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพยายามเน้นย้ำว่านโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.คือ เรียนดี มีความสุข เน้นการจัดการศึกษา 2 รูปแบบคือ การเรียนสู่ความเป็นเลิศ และการเรียนเพื่อความมั่นคงในชีวิต ตลอดจนข้อสั่งการที่ให้นำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แม้ที่ผ่านมา ศธ.จะดำเนินการมาต่อเนื่อง แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องงบประมาณอาจทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปค่อนข้างลำบาก

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ ในมิติด้านการศึกษา มีการตั้งคณะทำงาน โดยให้นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รับหน้าที่ดูแลในหลายเรื่อง ส่วนงานสำคัญอื่นๆ เช่น การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. รับหน้าที่ดำเนินการ ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ส่วนงานอะไรที่หน่วยงานราชการทำได้ให้ขับเคลื่อนไปตามปกติ โดยที่ผ่านมาได้ให้หน่วยงานต่างๆ ไปจัดทำแอ๊กชั่นแพลน แผนการดำเนินงานตามนโยบาย เสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณา ทราบว่าอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่างบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน ขณะนี้รัฐบาลยังให้ใช้งบปี 2566 ไปพลางก่อน ดังนั้น นโยบายใหม่ที่ไม่ใช่โครงการต่อเนื่องจึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ

นอกจากนี้ยังมีการปรับกระบวนการทำงาน เช่น ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ มากขึ้น มีการตั้งคณะทำงานชำระระเบียบ ข้อกฎหมายให้ทันสมัย และให้มีการรวบรวมเป็นระบบดิจิทัล รวมถึงหลักสูตรต่างๆ พยายามให้ผลิตเป็นไฟล์ดิจิทัลด้วย อย่างเช่นวิชาลูกเสือ จากที่ใช้ตำราปกติให้ปรับเป็นอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีบุ๊ก และให้จัดทำสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบวีดิทัศน์ เพื่อให้สามารถค้นคว้าและทบทวนได้ ส่วนการเรียนในวิชาอื่นๆ พยายามปรับให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้มีความทันสมัย เรื่องเหล่านี้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่ผ่านมา และที่สำคัญขอให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

⦁ นโยบายใหม่ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2567

Advertisement

ศธ.ของบประมาณเพิ่มขึ้น จากปี 2566 ไม่มากนัก ทั้งนี้เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามนโยบายใหม่ เช่น เรื่องการจัดทำแพลตฟอร์ม ที่จะใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอน การจัดทำโรงเรียนคุณภาพ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจโรงเรียนในแต่ละสังกัด ทั้ง สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ว่ามีทรัพยากรและอุปกรณ์การเรียนการสอนเพียงพอหรือไม่ ต้องปรับปรุงในส่วนใด ทั้งหมดจะดูตามลำดับความสำคัญเร่งด่วน รวมถึงการปรับปรุงอาคารสถานที่ ได้มีการสั่งการเบื้องต้นให้ดำเนินการสำรวจและประสานไปที่กรมโยธาธิการและผังเมือง จังหวัด ช่วยไปตรวจประเมินสภาพอาคารเรียนว่าต้องซ่อมแซมในส่วนใด รวมถึงให้ดูแลบ้านพักครู ซึ่งโรงเรียนใดที่จำนวนเด็กลดลง มีอาคารเรียนที่ไม่ได้ใช้ อาจให้ปรับปรุงทำเป็นแฟลต หรือหอพัก เพื่อให้ครูพักอาศัย เพราะมองว่าสวัสดิการบ้านพักเป็นขวัญกำลังใจสำคัญของครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ต้องรอดูข้อมูล คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2568

⦁ จากการทำงานที่ผ่านมา มองว่าเรื่องใดเป็นจุดอ่อนของ ศธ.ที่ต้องเร่งแก้ไข

จะเรียกว่าจุดอ่อนคงไม่ใช่ เพราะ ศธ.เป็นกระทรวงใหญ่ที่มีจุดแข็งมากมาย เพียงแต่อาจจะไม่สามารถดึงจุดแข็งที่มีอยู่ออกมาใช้ได้เต็มศักยภาพ ดังนั้นจึงต้องพยายามไปกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ดึงจุดแข็งที่มีออกมาใช้ ศธ.มีบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก ต้องพยายามดึงศักยภาพของคนเหล่านั้นออกมา เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ

และจากการรับฟังความคิดเห็นต่อนโยบายการศึกษาและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย เรียนดี มีความสุข กลุ่มตัวอย่างได้สะท้อนถึงปัญหาและข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น ภาระงานอื่นที่กระทบต่อการสอนของครู การขาดแคลนบุคลากร งบประมาณสนับสนุนการศึกษา การประเมินวิทยฐานะล่าช้า ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน สื่อที่ทันสมัย และสาธารณูปโภคที่จำเป็น สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของผมที่ต้องการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา เพราะครูคือหัวใจสำคัญของการสร้างห้องเรียนที่มีความสุข หากภาระงานอื่นของครูลดลง จะช่วยให้ครูจัดการเรียนการสอนได้เต็มที่ มีเวลาเตรียมการสอน สร้างสรรค์กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ได้อย่างมีความสุข

⦁ เรื่องใดที่คิดว่าประสบความสำเร็จ และเตรียมพร้อมผลักดันต่อเนื่อง

ซอฟต์เพาเวอร์ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจากการลงพื้นที่ทำให้เห็นว่าเด็กๆ ของเราเก่ง มีความสามารถ ทั้งเชิงวิชาการ ทักษะฝีมือ สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม ศิลปะ หัตถกรรมต่างๆ ดังนั้นจึงคิดว่าจะเร่งส่งเสริมพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันแรงงานทักษะสูงใน 8 สาขา ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ได้แก่ สาขาอาหาร เริ่มดำเนินการแล้ว โดยวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภาจะจัดทำตำราอาหารและเคล็ดลับต่างๆ ในรูปแบบอีบุ๊ก เพื่อเผยแพร่และไม่ให้สูญหายไป ที่สำคัญได้ประสานกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีชื่อเสียง เพื่อร่วมจัดการเรียนการสอนและฝึกประสบการณ์แก่เด็กอาชีวะด้วย

นอกจากนี้ยังเตรียมส่งเสริมสาขาอื่นๆ ด้วย ทั้งสาขาเกม แฟชั่น ศิลปะ การออกแบบ ดนตรีและกีฬา และสาขาหนังสือ เชื่อว่าหากเราทำให้ผู้เรียนค้นหาตัวเองเจอ ก็จะสามารถสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างถูกทาง เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขในการเรียน

⦁ การเดินหน้าปรับเงินเดือนครูให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล

ในส่วนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก็คงต้องปรับให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะเป็นผู้ดูแล และคงไม่ใช่เรื่องเงินเดือนครูอย่างเดียว แต่รวมถึงค่าตอบแทนอื่นๆ ทั้งเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนวิชาชีพ โดยให้ไปคิดว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาได้

เงินค่าตอบแทนที่จะเพิ่มขึ้น จะต้องเป็นรายได้ที่เกิดจากการทำงานที่มากกว่างานปกติ หรือเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้กับครูในสาขาที่ขาดแคลน เช่น ครูภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องยอมรับว่าขาดแคลนและมีคนมาสมัครน้อย ส่วนหนึ่งเพราะเรื่องค่าตอบแทน เด็กไม่สนใจมาเรียน ทำให้ขาดแคลนครู ดังนั้น อาจต้องใช้ค่าตอบแทนเป็นแรงจูงใจ เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพมาเป็นครู รวมถึงเรื่องการจ้างครูต่างชาติ หากอยากได้ครูที่มีคุณภาพก็อาจต้องจ้างในราคาที่สูง ตรงนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าครูผู้สอนในปัจจุบันไม่มีคุณภาพ ครูผู้สอนของเรามีคุณภาพอยู่แล้ว แต่ก็จะต้องมีการพัฒนา ขณะนี้กำลังคิดว่าจะเพิ่มคุณภาพครูผู้สอนได้อย่างไร เช่น อาจให้มีการทดสอบประเมินครูผู้สอนทุก 3 ปี หากประเมินผ่าน สามารถสอนนักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ก็อาจมีเงินพิเศษขึ้นมา 2,000-3,000 บาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจะเน้นสาขาวิชาที่ขาดแคลน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนเรียนครูในสาขาที่ขาดแคลนเพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้จำเป็นต้องเร่งทำ หากทำได้เร็ว เหมือนวินวินไปด้วยกัน เพราะหาก
ครูดี มีคุณภาพ ก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับสิ่งที่เขาทำ เป็นขวัญกำลังใจ ที่จะทำให้ครูทำงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ทุ่มเทกับการเรียนการสอนมากขึ้น ทำให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ

⦁ เรื่องใดที่ตั้งใจจะเดินหน้าต่อ เพื่อแก้ปัญหาการจัดการศึกษา

เรื่องยกระดับคุณภาพการศึกษา หากเราสามารถเรียกขวัญกำลังใจ หรือปลุกจิตสำนึกของครูให้พร้อมที่จะมาร่วมรบไปด้วยกัน เชื่อว่าการศึกษาในปี 2567 จะดีขึ้น เด็กมีความสุขในการเรียน ครูมีความสุขในการสอน ผู้ปกครองมีความสุข ทุกคนมีความสุข มาตรฐานการศึกษาของไทยก็น่าจะดีขึ้นแน่นอน

⦁ แนวทางขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการอ่าน

ศธ.ให้ความสำคัญกับนโยบายส่งเสริมการอ่าน ตามแนวทางที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายไว้ ทั้งนี้การอ่านมีความสำคัญ เพราะหากเด็กสามารถอ่านจับใจความได้ จะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปถ่ายทอด ต่อยอดและพัฒนาตนเองได้ โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการส่งเสริมเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเขียนเรียงความเรื่อง ‘ความภาคภูมิใจของข้าพเจ้า ในการเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ สอดรับกับบันทึกข้อตกลง แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทย และการพิจารณาการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นพนักงานและเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้ผู้บริหารและครูได้แสดงออกและนำเสนอมุมมองความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ครูและบุคลากรทางการศึกษาต่างออกมาถ่ายทอดความรู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมจะเป็นต้นแบบและปลูกฝังให้กับนักเรียนต่อไป

สิ่งที่ทำจะเป็นแซนด์บ็อกซ์ ให้ครูนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นแนวทาง ในการส่งเสริมการอ่านจับใจความและการเขียนเรียงความ ทักษะการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษในห้องเรียน และจากการมอบโจทย์ให้เขียนเรียงความ ทำให้เห็นว่าความสำเร็จของโรงเรียนเกิดจากครูทุกคน ทุกคนมีความสำคัญเสมอเหมือนกัน ตั้งแต่ผู้อำนวยการไปถึงภารโรง เมื่อทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ งานก็จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้
ดังนั้น จึงขอให้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษา สร้างเสริมให้เด็กเยาวชนรักชาติ สำนึกในความเป็นชาติ รู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย

⦁ การตรวจสอบและการป้องกันการทุจริตใน ศธ.

ที่ผ่านมามีการดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ แต่คงต้องฝากประชาชน หากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริต เช่น เรื่องอาหารกลางวันหรือเรื่องอื่นๆ ขอให้แจ้งมาที่ ศธ. เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้การตรวจสอบเรื่องต่างๆ จะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้ง หากพบว่ามีการทุจริต หรือทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องจริง ก็ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ใครที่กล้ากับผม ผมจะกัดไม่ปล่อย ใครมาขอก็จะไม่ยอม ถ้าทำผิด มีหลักฐานที่ชัดเจน จะต้องมีการลงโทษอย่างถึงที่สุด จะมาบอกว่าขอโอกาส
ไม่ได้ เพราะให้โอกาสแล้วด้วยการเตือนหลายครั้ง

⦁ ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งมีคนมาร้องเรียนเรื่องทุจริตบ้างหรือไม่

ยังไม่มี ค่อนข้างเงียบสงบ และจากการออกไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในพื้นที่ต่างๆ ก็มีความสุข มีความภูมิใจ เพราะได้รับการตอบรับที่ดีจากครูและบุคลากรทางการศึกษา หลายพื้นที่มีความตื่นตัว มีการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และพบว่าหลายเรื่องโรงเรียนทำก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง โดยเฉพาะนโยบาย เรียนดี มีความสุข โรงเรียนหลายแห่งมุ่งจัดการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลาง เป็นการทำงานเชิงรุก แบบที่ไม่ต้องรอนโยบาย ซึ่งผมได้ย้ำแนวทางการทำงานไปว่า ทำดี ทำได้ และให้ทำทันที หมายความว่าอะไรที่ดีๆ ถ้าทำได้ขอให้ทำทันที ไม่ต้องรอผู้บังคับบัญชาสั่ง เพื่อความสุขของเด็ก และความก้าวหน้าของประเทศชาติ

⦁ ปี 2567 มีภารกิจใดของ ศธ.ที่เป็นเรื่องที่ท้าทาย และต้องเร่งดำเนินการบ้าง

คงไม่มีเรื่องอะไรที่ท้าทาย เพราะคิดว่าน่าจะเอาอยู่ เท่าที่ดูครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้บริหาร ศธ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคค่อนข้างให้ความร่วมมือ ยอมรับว่าตอนแรกที่จะเข้ามารับตำแหน่งก็กลัวเหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษา เข้ามาทำงานตรงนี้ แล้วเขาจะรักเราหรือไม่ แต่หลังจากได้ทำงานร่วมกัน ทุกอย่างดีหมด ผู้บริหาร ศธ.ทุกคนดีหมด มีการประสานการขับเคลื่อนการทำงานได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะมีนโยบายอะไรออกมาก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงคิดว่าไม่มีอะไรท้าทายและคิดว่าทำได้ จะมีหนักๆ คือ กระแสสังคม ที่จะทำอย่างไรให้ร่วมมือ ร่วมใจกันพัฒนาการศึกษา อยากให้มาช่วยกันทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image