เข้าสู่วันที่ 4 ของการเปิดให้ผู้ที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. เข้ามาขอรับใบสมัครที่สำนักทะเบียนอำเภอ 3 วันที่ผ่านมาจังหวัดขอนแก่น มีสนใจเข้ามาขอรับใบสมัคร จำนวน 159 คน พบเขตอำเภอเมืองขอนแก่นมากเป็นอันดับ 1 ขณะที่ภาพรวมทั้งประเทศขอนแก่นติด 1 ใน 10 จังหวัดที่มีผู้สนใจสมัครมากที่สุด
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายวัชระ สีสาร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากที่ กกต.ขอนแก่น ได้เปิดระบบในการให้ผู้ที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. ให้เข้ามารับเอกสารใบสมัครมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.จนถึงวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ในจังหวัดขอนแก่นมีผู้ที่ให้ความสนใจเข้ามาติดต่อขอรับเอกสารใบสมัครฯ ที่สำนักทะเบียนอำเภอ ทั้ง 26 อำเภอ เป็นจำนวนมากและบรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเขตอำเภอเมืองขอนแก่น มีผู้เข้ามาติดต่อขอใบสมัคร จำนวน 76 คน เขตอำเภอบ้านไผ่ จำนวน 15 คน เขตอำเภอน้ำพอง จำนวน 13 คน ส่วนภาพรวมทั้งจังหวัดมีจำนวน 159 คน ซึ่งจัดอยู่ใน 1 ใน 10 ของจังหวัดที่มีผู้สนใจสมัครมากที่สุดของประเทศ
ส่วนอำเภอที่ยังไม่มีคนมาขอรับใบสมัครเลย คือ อำเภอพระยืน เปือยน้อย แวงน้อย หนองสองห้อง ภูเวียง ซำสูง โคกโพธิ์ชัย และอำเภอโนนศิลา ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีประชาชนมารับสมัครมากน้อยแค่ไหน เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน ซึ่งในระหว่างนี้ กกต.ขอนแก่น ได้รณรงค์ให้ผู้ที่สนใจจะลงสมัครฯ ได้เข้ามาติดต่อขอรับเอกสารคู่มือ เพื่อนำไปศึกษารายละเอียดในการเตรียมความพร้อมก่อนการสมัคร และนับตั้งแต่การเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาติดต่อขอใบสมัครจนถึงขณะนี้ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งระบบการจัดการของสำนักทะเบียน รวมไปถึงการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ยังไม่ปรากฏ
นายวัชระกล่าวอีกว่า มีความมั่นใจว่าหลังจากที่บรรดาผู้ที่สนใจจะลงสมัคร ส.ว. รวมทั้งกลุ่มการเมืองต่างๆ ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบและกฎหมายในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว. เช่น การแนะนำตัว ข้อห้ามต่างๆ จะทำให้ข้อกังวลในเรื่องของการรวมกลุ่ม จับกลุ่มในการฮั้วการเลือกตั้ง ส.ว. จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งทาง กกต.ขอนแก่น ก็มีการติดตามและเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด
“ขอเตือนว่าหากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดมีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ทาง กกต.ขอนแก่น สามารถตรวจสอบและหาร่องรอยการกระทำผิดได้อย่างแน่นอน จึงขอให้ผู้ที่จะลงสมัครพึงระวังและไม่กระทำการอันใดที่ขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ว. เช่น การสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือสิ่งของ เพื่อจูงใจให้เลือกตนเอง การจัดเลี้ยงเพื่อขอคะแนน การจัดงานมหรสพ การใช้ถ้อยคำที่ไม่เป็นไปตามระเบียบในเอกสารการแนะนำตัว รวมทั้งการนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งระเบียบและข้อห้ามต่างๆ นี้ ครอบคลุมไปถึงผู้ช่วยหาเสียงของผู้ลงสมัคร ส.ว. ด้วย ซึ่งผู้ลงสมัคร ต้องย้ำกับผู้ช่วยถึงข้อห้ามต่างๆ ประหนึ่งว่า ผู้ช่วยคือตัวผู้สมัครเองด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมาย” นายวัชระกล่าว
