นักวิชาการรุมขบ ปวศ. ‘ศิลปวัฒนธรรม’ ยุคสุจิตต์ ‘เซี้ยวซ่า บ้าบิ่น’ ถึงยุคสุพจน์ ‘สุขุม นุ่มลึก’

จากซ้าย อชิรวิชญ์ อันธพันธ์, ดร.นนทพร อยู่มั่งมี และธัชชัย ยอดพิชัย ผู้ช่วย บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม

นักวิชาการรุมขบ ปวศ. ‘ศิลปวัฒนธรรม’ ยุคสุจิตต์ ‘เซี้ยวซ่า บ้าบิ่น’ ถึงยุคสุพจน์ ‘สุขุม นุ่มลึก’

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่มติชนอคาเดมี ถนนเทศบาลนิมิตใต้ ซอย 12 ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร สำนักพิมพ์มติชน จัดงาน “สมานมิตรบรรเทิง Return เปิดโกดังหนังสือดี” โดยวันนี้เป็นวันสุดท้าย ในช่วงค่ำมี Special Talk โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในหัวข้อ “อำนาจ Hard Power กับ บารมี Soft Power สังคมและการเมืองไทยสมัยใหม่” ในเวลา 18.00 น. รวมถึงการประกาศรางวัล “มติชนอวอร์ด 2022” และการพบปะของนักเขียนในเครือมติชน

ภายในงานมีการตั้งบูธถ่ายภาพลง Magnet ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก รวมถึงซุ้มอาหารจากร้านชื่อดัง อาทิ จกโต๊ะเดียว, หอยทอดลุงยาว, ผัดไทเจ๊นิด, ปลาหมึดบดเฮงกับป้าใจดี, ลูกชิ้นทิพ, ฮ่องเต้กุ๋ยช่ายบางกรอบ, รสดีเด็ด เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบุคคลในแวดวงต่างๆ ทั้งนักคิด นักเขียน นักวิชาการ ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก

ดร.นนทพร อยู่มั่งมี นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง เจ้าของผลงานหนังสือมากมาย อาทิ “ธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย” เดินทางมาร่วมงานโดยพูดคุยกับบุคคลในแวดวงหนังสือ

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มนักเขียนรุ่นเก่า กลาง และใหม่

ดร.นนทพรกล่าวว่า ประเด็นนี้นักเขียนอยู่ในแวดวงอะไร อย่างตนอยู่ในแวดวงประวัติศาสตร์ มาๆ ไปๆ กับมติชน 10 กว่าปี ได้เห็นรุ่นน้องๆ ที่มาเปิดตัวในเวทีศิลปวัฒนธรรม ในแวดวงเดียวกันเราจะรู้จักกันอยู่พอสมควร การเชื่อมต่อร้อยเรียงระหว่างนักเขียนรุ่นต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในสาขาไหนด้วย และแม้อยู่ในแวดวงเดียวกันก็อาจไม่ได้รู้จักกันทุกคน เพราะสไตล์ที่แตกต่าง บางคนชอบประวัติศาสตร์การเมือง บางคนชอบประวัติศาสตร์แนวโบราณ อย่างถ้าเป็นแนวสมัยใหม่ ตนอาจไม่ได้อินมาก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสว่าเราจะได้สนทนากัน หรือได้แลกเปลี่ยนกันมากน้อยแค่ไหน การจัดงานสมานมิตรบรรเทิงอย่างนี้ ทำให้พวกเราได้เจอกัน

“บางคนอาจได้เจอกันผ่านเฟซบุ๊ก ไม่ได้เจอตัวจริงกัน อย่าง อาจารย์ชาติชาย มุกสง (ผู้เขียน จากปีศาจสู่เชื้อโรค : ประวัติศาสตร์การแพทย์กับโรคระบาดในสังคมไทย) ก็แทบไม่ได้เจอกันเลย งานแบบนี้ทำให้เราได้มารวมกัน ดีใจที่มีงานอย่างนี้หลังจากห่างหายไป” ดร.นนทพรกล่าว

เมื่อสอบถามถึงพัฒนาการของนิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ในเครือมติชน ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 44 ผ่านบรรณาธิการหลายคน ตั้งแต่ยุคก่อตั้งโดย นายสุจิตต์ วงษ์เทศ จนถึงปัจจุบันคือ นายสุพจน์ แจ้งเร็ว

ดร.นนทพรกล่าวว่า “สุจิตต์ เซี้ยวซ่า บ้าบิ่น สุพจน์ สุขุม นุ่มลึก”

ด้าน นายอชิรวิชญ์ อันธพันธ์ คอลัมนิสต์ “สโมสรศิลปวัฒนธรรม” นิตยสารศิลปวัฒนธรรม กล่าวว่า ตนเห็นด้วย จากที่ติดตามนิตยสารศิลปวัฒนธรรมมานานตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาที่ ม.ศรีปทุม จนปัจจุบันอายุ 42 ปี ส่วนตัวสนใจประวัติศาสตร์อยุธยา จึงมองเห็นความแตกต่างระหว่างนิตยสารศิลปวัฒนธรรมยุคนายสุจิตต์และนายสุพจน์

“ผมค่อนข้างผูกพันและชอบเนื้อหาในช่วงอาจารย์สุจิตต์ เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับอยุธยาค่อนข้างเยอะมาก ส่วนนิตยสารศิลปวัฒนธรรม มีเรื่องยุคร่วมสมัยซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะทำให้พรมแดนความรู้ไปได้ไกลขึ้น ออกจากยุคประวัติศาสตร์โบราณ มาสู่ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยมากขึ้น เปิดพรมแดนให้เราได้รู้เรื่องราวหลากหลาย ในขณะที่ประวัติศาสตร์โบราณ อย่างอยุธยาก็ไม่ได้หายไป ยังมีมาเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีประเด็นใหม่ๆ ก็ยังคงมีการนำเสนอ

“เรื่องประวัติศาสตร์ร่วมสมัยก็เช่นกัน หลายบริบทสามารถนำมาเป็นบทเรียนให้ปัจจุบันได้ ความร่วมสมัยของนิตยสารศิลปวัฒนธรรมเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของศิลปวัฒนธรรมที่ต้องก้าวทันโลก ทันความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องราวของอดีตไปเสียทีเดียว สรุปว่านิตยสารศิลปวัฒนธรรมในยุคนี้มีความหลากหลายมากขึ้น” นาย อชิรวิชญ์กล่าว