ดร.นำชัย คลี่ทฤษฎีเข้ม มนุษย์มาจากไหน? สุดท้ายฮาทั้งวง เล่า วอลเลซ ชอบกินทุเรียน!
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตรสำนักพิมพ์ ร่วมจัดงาน ‘สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22’ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายนนี้
บรรยากาศช่วงเวลา 18.00 น. สำนักพิมพ์มติชน จัดกิจกรรม Matichon’s Special Talk ‘มนุษย์มาจากไหน ?’ โดย ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ ในแนวคิดว่าด้วยเรื่องวิวัฒนาการที่ถูกคิดค้นโดย อัลเฟรด วอลเลซ ผู้เสนอทฤษฎีก่อนชาร์ลส์ ดาร์วิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนสนใจเข้าฟังอย่างคับคั่ง
ในการนี้ น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมรับฟังด้วย
ดร.นำชัย กล่าวถึงทฤษฎีเรื่องวิวัฒนาการในช่วงก่อนคริสตกาล ว่าหากไปไล่ดูตำนานชนเผ่าจะพบว่า การกำเนิดมนุษย์คล้ายคลึงกัน คือเทพเจ้าเป็นผู้สร้าง ขึ้นอยู่กับว่า เทพเจ้าจะสร้างอย่างไร ใครจินตนาการให้เทพองค์ใดที่ตนเองนับถือสร้างขึ้นมา
จนมาถึงยุคของกรีก ซึ่งเป็นยุคที่ความรู้เบ่งบาน
“ยุคกรีกเบ่งบานขนาดที่ว่าผมนำมาเขียนเรื่อง 543 BC ปวงเมธีแห่งอารยกาล สิ่งที่น่าสนใจในการหาความรู้ในยุคกรีก นั่นคือ คนเราจะเข้าถึงความรู้ที่เป็นสัจธรรมก็ต่อเมื่อเป็นความคิดเท่านั้น ไม่ต้องพึ่งพาหลักฐาน
เขาบอกว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกที่เห็นกันอยู่ ยกตัวอย่าง นก ที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน ก็ได้ผ่านวิวัฒนาการมาแล้ว สมัยก่อนหัวเป็นนก ตัวอาจจะเป็นม้า หรือสิ่งมีชีวิตบางตัวที่หัวเป็นคนตัวเป็นงู ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านวิวัฒนาการมาแล้วซึ่งระยะเวลาผ่านๆไปก็ไม่รอดนั่นเอง
ฉะนั้นเขาเชื่อกันว่า ยุคของคนมันไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว และคนก็เป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ของวิวัฒนาการทางธรรมชาติอีกด้วย” ดร.นำชัย กล่าว
ดร.นำชัย กล่าวต่อไปว่า มีคนจินตนาการไปอีกว่า คนมักจะคิดว่าโลกคือสิ่งที่เขาเห็นเพียงโลกเดียว หรือคิดว่ารอบตัวเรามีอยู่เพียงแค่โลกเดียว แต่สักพักก็เริ่มมีคนพูดว่าโลกมีมากกว่า 1 ใบ
นอกจากดาวเคราะห์ที่เรามองเห็น เขาก็อาจจะจินตนาการว่า มีดาวดวงอื่น น่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่สวยกว่าบนโลกใบนี้ และมีสิ่งมีชีวิตที่น่าจะเหมือน และต่างจากเราด้วย
จากนั้น ดร.นำชัย กล่าวถึง ‘อาริสโตเติล’ ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ และอยากรู้ อยากเห็น พยายามหาหลักฐาน มีหนังสือที่แซว อาริสโตเติล อยู่ตลอดว่า ที่เขาเขียนเรื่องผู้ชาย ผู้หญิงมีฟันไม่เท่ากัน ผู้ชายจะมีฟันที่มากกว่า บางคนอาจจะขำเขา แต่ในยุคนั้นอาจจะมีคอนเซ็ปท์ความคิดเรื่อง ‘ผู้ชายเป็นใหญ่’
“วิวัฒนาการปัจจุบันก็เกิดจากความคิด ซาร์ลส์ ดาร์วิน และอัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ โดยคิดแบบเอกเทศ ต่างคน ต่างคิดและก็ได้ข้อสรุปตรงกัน และเป็นทฤษฎีวิวัฒนาการที่เราใช้กันอยู่ และข้อสำคัญที่สุดในทางวิทยาศาสตร์ มันต้องสอดคล้องกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในปัจจุบันด้วย”ดร.นำชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เกิดทฤษฎีวิวัฒนาการที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบันคือ ‘ทฤษฎีวิวัฒนาการผ่านการคัดสรรตามธรรมชาติ’ ของซาร์ลส์ ดาร์วิน
แต่ที่จริงแล้วเวลาเดียวกัน อัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ และซาร์ลส์ ดาร์วิน ก็ได้เสนอแนวคิดเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการเช่นกัน จึงอยากทราบว่า การเสนอทฤษฎีดังกล่าวของทั้ง 2 คนมีความเป็นมาอย่างไร?
ดร.นําชัย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของทั้ง2 คน มีน่าสนใจมาก ทฤษฎีวิวัฒนาการมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เกิดจาก ‘ต่างคนต่างคิด’
“อัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ มีความน่าสนใจหลากหลายเรื่อง เขาเดินทางมาถึงมาเลเซีย อินโดนีเซีย และศึกษาตัวอย่างแถวๆนี้ เขาคิดทฤษฎีวิวัฒนาการออกตอนป่วยเป็นไข้หวัดมาลาเรีย และนอนซมอยู่ เขาคิดเอาหลักฐานต่างๆในหัวมาประมวลเพื่อให้หายป่วยจากโรคหวัด ก็ได้ไอเดียขึ้นมาว่า สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อสปีชีส์เก่าผสมกันออกมา จะเกิดรุ่นลูกรุ่นหลาน จนเกิดสิ่งแวดล้อมที่มันเปลี่ยนไป เฉพาะตัวที่มีคาแรกเตอร์ที่เหมาะสมก็อยู่รอด คอนเซ็ปท์วิวัฒนาการมีเพียงเท่านี้ สปีชีส์ใหม่เกิดขึ้นเพราะว่ามีลูกมีหลาน ก็มีการเปลี่ยนไปทีละนิดๆ และก็จะแมชต์กับสิ่งแวดล้อมในขณะนั้นซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ”ดร.นำชัย กล่าว
ดร.นำชัย กล่าวต่อไปว่า ซาร์ลส์ ดาร์วิน ได้สรุปวิวัฒนาการการเกิดสปีชีส์ และคิดมา20ปีไม่กล้าตีพิมพ์ เพราะเป็นคนคิดงานละเอียดมาก และชอบการทดลองอะไรต่างๆ แปลกๆ อาทิ เกาะห่างไกลมีมะพร้าวอยู่ได้อย่างไร เขาก็เอามะพร้าวไปใส่ในน้ำเค็มว่าดูอัตราการรอดเป็นอย่างไร มีการทำการทดลองที่แปลกๆเยอะ เป็นคนธรรมดาที่อยากรู้อยากเห็น
“สรุปทฤษฏีวิวัฒนาการ ถ้ามีสิ่งมีชีวิตรุ่นลูกสิ่งไหนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมกว่า สิ่งที่จะเห็นในรุ่นต่อไปก็จะคล้ายกับรุ่นลูกมากขึ้น”ดร.นำชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ทฤษฎีของอัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ และชาร์ลส์ ดาร์วิน เสนอเรื่องต้นกำเนิดหรือวิวัฒนาการของมนุษย์ไว้ว่าอย่างไร
ดร.นําชัย กล่าวว่า ถ้าได้อ่านหนังสือเล่ม ‘หมู่เกาะมาเลย์’ จะเห็นได้ว่าเป็นคนช่างสังเกตมาก เหมือนตำราเดินได้ เขาบอกได้ว่าพืชมากจากไหนไม่ว่าจะเป็นพืชทวีปอะไร เป็นนักวิชาการในเนื้อในตัว พอมีอะไรน่าสนใจ เขาก็จะบรรยายไว้ได้ดีมาก
“ยกตัวอย่าง เมื่อเจอทุเรียน เขาจะอธิบายฝรั่งว่ารสชาติอย่างไร เวลามันหล่นมาตามธรรมชาติก็มีกลิ่น เขาให้นึกภาพถึงคัสตาร์ดที่มีกลิ่นจัดๆ เขาบอกว่า เฉพาะการได้กินทุเรียนก็คุ้มค่าที่ได้เดินทางจากยุโรปมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10 กว่าวันแล้ว แสดงว่าเขาต้องชอบทุเรียนมากแน่”ดร.นำชัย กล่าว
ดร.นำชัย กล่าวต่อไปว่า จุดสำคัญของอัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ ที่อยู่ในประวัติศาสตร์ เขาพบว่าเขาสำรวจสิ่งมีชีวิต ที่อยู่เหนือเส้นแบ่งเกาะประเทศ มีสิ่งมีชีวิตที่หน้าตา เหมือนสิ่งมีชีวิตแผ่นดินใหญ่ เจอสิ่งมีชีวิตมีกระเป๋าหน้าท้อง เหมือนที่ออสเตรเลีย เขาตั้งสมมติฐานว่า แสดงว่าเกาะที่มันอยู่เหนือเส้นแบ่งประเทศที่เขาลากเส้นนั่น ครั้งหนึ่งต้องเคยเป็นแผ่นดินใหญ่มาก่อนการแยกตัวเป็นเกาะ สิ่งมีชีวิตจึงมีความแตกต่างออกไปได้มาก เพราะสิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนไป
”ซาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นคนที่เดินทางรอบโลก เป็นการบันทึกหนังสือเล่มแรกๆของนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางรอบโลกเลยก็ว่าได้ สมัยก่อนลูกคนรวยเรียนอยู่ 2 อย่าง คือ หมอ กับบาทหลวง ใครๆ ก็อยากเป็นหมอ แต่ซาร์ลส์ ดาร์วินเห็นเลือดแล้วเป็นลม เลยเรียนเป็นบาทหลวง“ดร.นำชัย กล่าว
เมื่อถามถึง วิวัฒนาการของลิงกับคน ว่ามีลักษณะอย่างไร
ดร.นําชัย กล่าวว่า คล้ายกันมาก เพราะดีเอ็นเอ ไปตรวจคล้ายกันกว่า 98.5% แม้ต่างกัน1.5% ก็ต่างกันคนละแบบได้เลย ก็จะมีทฤษฎีมาอธิบายเยอะแยะเลยว่าทำไมคนแตกต่างจากลิง อาจจะมียีนส์บางยีนส์ที่ถ่ายให้คนเราสื่อสารกันได้ดีกว่ามากเป็นพิเศษ มีความสามารถในเชิงการใช้ภาษา
ซึ่งเรียนลิงก็มีภาษาของเขา แต่ว่าไม่เยอะเท่าเรา คนเราสามารถทำอะไรให้ซับซ้อนได้ เราสามารถจิตนาการ นรก สวรรค์ได้ ว่าตายแล้วต้องไปไหน แต่ลิง จะจิตนาการอย่างเช่นเราไม่ได้
เมื่อถามว่า ในแวดวงวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ทฤษฎีวิวัฒนาการใดที่ได้รับการยอมรับ หรือทฤษฎีเดิม อย่างเช่นของชาร์ลส์ ดาร์วิน ถูกถกเถียงบ้างหรือไม่
ดร.นําชัย กล่าวว่า ตลอดเวลามีคนแย้ง ก็มาจากสายศาสนาบ้าง มีทฤษฎีวิวัฒนาการมีอะไรที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีทฤษฎีย่อยๆเยอะ แต่แกนหลักไม่มีอะไรเปลี่ยน สิ่งมีชีวิตมนุษย์ในอีกหลายหมื่นปี ก็จะแตกต่างจากเรา และทำนายยากมากเช่นกันว่าแตกต่างอย่างไร เพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงและมีเทคโนโลยีที่ต่างจากเรา
“เขาบอกกันว่าคนเราเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอออกกำลังกาย มัวแต่จิ้มโทรศัพท์ ยุคหน้าอาจจะนิ้วโต ตาโตก็ได้ ก็จินตนาการกันไป อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีใหม่มันใกล้จะเข้ามาแล้ว มีการฝั่งเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตที่สามารถเข้าไปในหัวเรา เราสามารถเข้าอินเตอร์เนตได้ด้วยการคิด เพราะมันอยู่ในหัวเราได้เลย แค่แปะซิปก็สามารถใช้ได้เลย“ดร.นำชัย กล่าว
ดร.นำชัย กล่าวด้วยว่า หนังสือ ‘หมู่เกาะมาเลย์’ เป็นบันทึกที่สำคัญมากของ อัลเฟรด รัซเซล วอลเลซ เขามาแล้วเขาเจออะไรบ้าง เขาพูดถึงคนอินโดนีเซียว่าอย่างไร เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ พูดถึงกระบวนการเกร็ดความรู้ทางด้านชีววิทยา
อ่านแล้วจะรู้ว่า คนๆหนึ่งสามารถเข้าถึงวิชาการความรู้มากกว่าขนาดนี้เลยหรือ
“ในยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต หาความรู้เอาทางห้องสมุด ในเล่มหมู่เกาะมาเลย์ อ่านแล้วจะสนุกมากขึ้นจริงๆ เพราะมันเป็นบันทึกการเดินทาง” ดร.นำชัยกล่าว
ทั้งนี้ สามารถเยี่ยมชม บูธสำนักพิมพ์มติชน (J47) ตั้งแต่วันนี้– 8 เมษายน 2567 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 และ เลือกซื้อหนังสือออนไลน์ได้ที่ : www.matichonbook.com