สส.ประชาชน ชงรบ.หนุนมติชนอวอร์ด ชี้ วรรณกรรม ประตูบานแรกซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ ผู้จัดพิมพ์ ลุยดันหนังสือไทยสู่ตลาดโลก
สืบเนื่อง เครือมติชนได้จัดการประกวดโครงการ ‘มติชนอวอร์ด 2024’ ทั้งผลงานประเภทเรื่องสั้น บทกวี และการ์ตูนสะท้อนสังคม 2024 โดยชิงเงินรางวัลรวมกว่า 4 แสนบาท ซึ่งมีผู้ประกวดส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดทั้งสิ้น 894 ผลงาน จากนั้นผลงานดังกล่าวถูกคัดเลือกเหลือเพียง 24 ผลงาน ที่เข้ารอบตีพิมพ์ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ระหว่างเดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่โถงชั้นล่าง อาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เครือมติชนจัดงานประกาศรางวัล ‘มติชนอวอร์ด 2024’ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศประเภทการ์ตูนสะท้อนสังคมการเมือง, รางวัลชนะเลิศประเภทกวีนิพนธ์ และรางวัลชนะเลิศประเภทเรื่องสั้น พร้อมกับอีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติ “มติชนเกียรติยศ” ประจำปี 2567 ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกของการมอบรางวัล โดยมีผู้บริหารเครือมติชน แขกผู้มีเกียรติร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน หนึ่งในแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน เปิดเผยว่า ในฐานะนักเขียนคนหนึ่ง และเคยมีส่วนร่วมคัดเลือกผลงานเรื่องสั้น พบว่าเรื่องสั้นที่ส่งประกวดมีพัฒนาการ หลายคนนำประสบการณ์ส่วนตัวมาเขียน ในช่วงที่การเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อ ได้อย่างน่าสนใจ สะท้อนว่านักเขียนรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่กับเรื่องสายลมแสงแดด เรื่องดรามา เรื่องโลกียะ อีกแล้ว แต่หันมาเขียนเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งมีความคิดความเชื่ออุดมการณ์อยู่ในงานหลายคนมากพอสมควร มีเรื่องของการเคารพสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ความเท่าเทียม ซึ่งเป็นหลักสากล ตนคิดว่าเป็นพัฒนาการที่ดีสำหรับงานของยุคนี้เมื่อเทียบกับยุคก่อน
นายเชตวันกล่าวว่า การพิจารณาเรื่องสั้นจะดูเรื่องรูปแบบของงาน เนื้อหา ภาษา และความคิดสร้างสรรค์ เมื่อเทียบงานรุ่นเก่าพบว่าในด้านของภาษาของงานรุ่นนี้ ไม่ได้สละสลวยเท่ากับยุคก่อน ลองไปอ่านงานของ เสนีย์ เสาวพงศ์, รงค์ วงษ์สวรรค์, หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หรือหลายๆคน จะเห็นว่าใช้ภาษาสวย ทั้งนี้งานเขียนในปัจจุบันจะเอาประเด็นเป็นที่ตั้งก่อน แต่ก็ไม่มีถูกไม่มีผิด สำหรับเรื่องสั้นก็คือการสื่อสารอย่างหนึ่งว่า จะสื่อสารอะไรกับผู้อ่าน และเราจะทิ้งอะไรให้ผู้อ่านตีความต่อ
“อยากให้มีการจัดงานมติชนอวอร์ดในปีต่อๆไป แม้หลายๆคนจะบอกว่าวรรณกรรมไทยตายแล้ว วรรณกรรมไทยอยู่ในช่วงขาลง ผมว่าวรรณกรรมนี่แหละ จะเป็นตัวต่อยอดให้ดี สำหรับสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ผลักดันเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ถ้าคุณมีงานเขียนดีๆ หนังสือ เรื่องสั้น วรรณกรรม เป็นประตูบานแรกที่เปิดประตูไปสู่ซอฟต์พาวเวอร์ ถ้าคุณไม่มีเรื่องสั้น นิยายที่ดี ต่อให้คุณไปพัฒนาเอาไปเป็นบทนิยาย บทละคร ไม่มีทางดีได้ ถ้าพื้นฐานไม่ดี” นายเชตวันกล่าว
นายเชตวันกล่าวว่า รัฐบาลควรหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นประตูไปสู่ซอฟต์พาวเวอร์ คุณไม่มีบทละครที่ดีแบบซีรีย์เกาหลีได้แน่ ไม่มีนิยายที่ไปไกลที่คนไปสร้างหนังฮอลลีวู้ดได้แน่ๆ ถ้าพื้นฐานยังไม่ดี รัฐบาลควรให้การสนับสนุนงานมติชนอวอร์ด ในฐานะที่จะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมร่างกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ส่งเสริมการอ่าน, พ.ร.บ.ห้องสมุด ซึ่งเกาหลีใต้ทำเรื่องนี้มา 20ปี และในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ โดยไม่ได้เกิดด้วยความบังเอิญ แต่เป็นการปลูกฝังและการสนับสนุนของรัฐบาล
ด้าน นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) หนึ่งในแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน เปิดเผยว่า ยินดีกับ นายอรุณ วัชระสวัสดิ์ ที่ได้รับรางวัลมติชนเกียรติยศ ท่านเขียนการ์ตูนสะท้อนสังคมมาอย่างยาวนานให้ผู้คนผ่านลายเส้น บางคนไม่ต้องอ่านหนังสือเขาสามารถเห็นภาพสะท้อนจากตรงนี้ เป็นอีกสื่อหนึ่งที่สามารถสื่อสารกับผู้คนอีกมากมาย ก็ยินดีมากที่ท่านได้รับรางวัลเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
นายสุวิชกล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนงานวรรณกรรมของสมาคมฯ มีการทำโครงการแปลไทยสู่ตลาดโลก โดยกำลังคัดเลือก 20 หนังสือต้นแบบ ที่จะแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อไปขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ โดยหวังว่าในอนาคตเราจะทำโครงการแบบนี้ต่อไป จนกว่าเราจะได้รับรางวัลจากต่างประเทศ
“สมาคมฯ ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อผลักดันโครงการนี้ขึ้น รวมถึงการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ โดยหวังว่าจะผลักดันหนังสือไทยไปสู่ตลาดโลกให้มากที่สุด” นายสุวิชกล่าว