ทุ่ม 30ปี! เขียน ‘ประวัติจีนกรุงสยาม’ พิมพ์ประไพ ควง เจฟฟรี ซุน เยือนบูธมติชน ป้าแจ๋ว พุ่งขอลายเซ็น
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-8 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตร จัดงาน ’สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23‘ ภายใต้แนวคิด ‘ย ยักษ์ อ่านใหญ่’ ซึ่งนับเป็นการจัดใหญ่ที่สุดในรอบ 53 ปี บนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. และใหญ่สุดในอาเซียน
โดย สำนักพิมพ์มติชน (บูธ J02) ร่วมสร้างสรรค์ของพรีเมียมสุดพิเศษใน ธีม “Read Friendly” ที่ออกแบบโดย “ตุลยา ตุลย์วัฒนจิต” หรือ TUNA Dunn พร้อมด้วยโปรโมชั่นส่วนลดจัดเต็มตลอด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น. – 21.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บูธ ‘สำนักพิมพ์มติชน’ J02 เมื่อเวลา 13.00 นางสาวพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร และ เจฟฟรี ซุน เจ้าของผลงานหนังสือชุด ประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 1-3 เดินทางมาแจกลายเซ็น และพบปะผู้อ่าน
นางสาวพิมพ์ประไพ กล่าวว่า ความน่าสนใจของหนังสือชุด ประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 1-3 คือ ชีวประวัติคนจีนหลากหลาย ซึ่งสอดแทรกอยู่ในเนื้อหา กว่าจะรวบรวมออกมาได้ ใช้ระยะเวลาถึง 30 ปี
“จริงๆ ไม่ได้เป็นนักประวัติศาสตร์ แม้จะใช้ระยะเวลา 30 ปี มีอาชีพทำงานอิสระ พนังงานบริษัท เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ที่ผ่านมาก็ได้เขียนหนังสือมาหลากหลายเรื่อง มีทั้งเรื่องนายแม่ ตำนานหญิงจีนสยาม, กระเบื้องถ้วยกะลาแตก ส่องลายคราม สืบหาจีนกรุงศรีฯ เป็นต้น”นางสาวพิมพ์ประไพ กล่าว
นางสาวพิมพ์ประไพ กล่าวด้วยว่า หนังสือเล่มนี้ อ่านง่าย เพราะเป็นชีวประวัติบุคคล ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวของ ‘เจ้าสัวเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง’ ชาวสุพรรณบุรี ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารศรีนคร จากธนาคารสิงขร เป็นมหาเศรษฐีที่โตมาจากตลาดบางลี่ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เคยเป็นหัวหน้าเด็กอันธพาลตลาดบางลี่ จนพ่อส่งไปเรียนภาษาจีนที่ สาธารณรัฐประชาชนจีน
“เจ้าสัวเกียรติ ก็ได้ไปติดอยู่ที่จีน กลายเป็นทหาร นักบิน ให้ก่อทัพจีนในช่วงสงคราม จนกลับมายังประเทศไทย และได้ก่อตั้งธนาคารสิงขร” นางสาวพิมพ์ประไพ กล่าว
นางสาวพิมพ์ประไพ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ออกมา 3 เล่มใน 1 ชุด เพราะว่า ทำออกมาเล่มเดียวน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัมอีกทั้งยังเป็นภาษาอังกฤษ พอมาเป็นภาษาไทยยิ่งมีเนื้อหาเยอะกว่านั้น จึงได้แยกออกมาเป็น 3 เล่ม เล่าประวัติศาสตร์ด้วยมุมมองสามัญชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลในหลากหลายแวดวง เดินทางมารอพบและขอลายเซ็นนางสาวพิทพ์ประไพ และ เจฟฟรี ซุน อาทิ นายสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อุษาคเนย์), นายยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ หรือ ‘ป้าแจ๋ว’ ผู้กำกับละครและผู้จัดละครชื่อดัง รวมถึง นายสมชาย แซ่จิว ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน เป็นต้น
นายยุทธนา หรือ ป้าแจ๋ว กล่าวว่า หนังสือประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 1-3 เป็นชุดที่น่าสนใจ เป็นประวัติศาสตร์คนจีนในยุคกรุงศรีอยุธยา ยุครัตนโกสินทร์ ในฐานะผู้ทำละครประวัติศาสตร์อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า จริงๆ แล้วประวัติศาสตร์เป็นเรื่องน่าติดตามและน่าสนใจ เพราะเราเกิดไม่ทันในยุคนั้น หนังสือประวัติศาสตร์ที่เลือกมาอ่าน ผู้เขียนก็ค้นคว้ามาจากแหล่งต่างๆ ทั้งพงศาวดาร หอจดหมายเหตุ ทั้งที่เขียนโดยคนไทย และชาวต่างชาติ จากมุมมองของเขา
”คิดว่าการอ่านหนังสือดีที่สุด ดีกว่าไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต เพราะเราไม่รู้ที่มาที่ไปที่ชัดเจน หนังสือยังมีหลายเวอร์ชั่น พอมางานหนังสือ ต้องไปบูธกรมศิลปากร และบูธสำนักพิมพ์มติชนตลอด“ ป้าแจ๋ว ยุทธนา กล่าว
ป้าแจ๋ว ยุทธนา ยังกล่าวถึงการทำละครประวัติศาสตร์ว่า ต้องศึกษาอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ หรือทำได้เลยโดยไม่ศึกษา และศึกษาจากหลากหลายแหล่ง การอ่านหนังสือเล่มยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุด
สำหรับละคร คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์นั้น กระแสตอบรับน่าพอใจพอสมควร เพราะทำให้ประชาชนได้ไปศึกษาค้นคว้ามากขึ้นจากในละคร ที่สำคัญคือ กลับมาสนใจการอ่านหนังสือ
“ส่วนตัว ไม่ชอบคำว่าคนไทยอ่านหนังสือวันละ 8 บรรทัด เพราะมันทำให้รู้อะไรที่ไม่จริง และรู้แบบตื้นๆ การอ่านหนังสือก็ไม่ได้รู้จริงทุกอย่าง แต่หมายถึงว่า คุณเลือกแล้วว่า มันมีเรื่องราวแบบไหนที่คุณจะได้อ่านและเข้าใจและกลับไปย่อยใหม่
หนังสือแต่ละเล่มเขียนโดยมุมมองที่แตกต่างกัน เราเท่านั้นที่จะทำตัดสินใจจากมุมมองของเราว่าเรื่องใดจริงหรือไม่จริง“ ป้าแจ๋ว ยุทธนา ปิดท้าย
ทั้งนี้ สามารถมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชน J02 ได้ตลอด 12 วัน ตั้งแต่ 27 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-8