| ที่มา | คอลัมน์ แท็งก์ความคิด |
|---|---|
| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ [email protected] |
| เผยแพร่ |
ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามขับเคลื่อนให้ประเทศไทยพ้นจาก “กับดับรายได้ปานกลาง”
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นำเสนอนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว
มีโครงการ “ขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล” มารองรับนโยบายนั้น
ทั้งนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงไทยจากยุคอะนาล็อกไปสู่ดิจิทัล
นายสมคิดยืนยันว่า เรื่องนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากทำได้ ไทยจะเติบโตแบบทวีคูณ
ยกตัวอย่างจีน พัฒนาแบบก้าวกระโดดได้เร็ว เพราะนำระบบดิจิทัลมาช่วยระบบการผลิต พัฒนาศักยภาพการค้าขาย และเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์
ไม่ว่าคนจน คนรวย ธุรกิจใหญ่หรือธุรกิจเล็กสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี
ส่งผลให้ธุรกิจมีความสามารถในการต่อสู้บนเวทีโลกได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น
เทคโนโลยีที่นายสมคิดหมายถึงเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาเป็นขั้นเป็นตอน
จากยุค 1G จนปัจจุบันกำลังอยู่ในยุค 4G
และกำลังก้าวเข้าสู่ 5G ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เทคโนโลยี ยุค 1G ใช้ระบบ Analog เข้าสู่ ยุค 2G เปลี่ยนจากระบบ Analog มาเป็น Digital
จากนั้นก้าวเข้าสู่ยุค 3G ที่เพิ่มความเร็วในรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารเร็วขึ้น
กระทั่งปัจจุบันถึงยุค 4G เทคโนโลยีพัฒนา โดยมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วกว่า 3G มาก
เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นนี้ เป็นรากฐานทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยีมากมาย
ปัจจุบันแท็บเล็ตกลายเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคที่ใช้ทดแทนสื่อกระดาษ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ และการสื่อสาร
เป็นตัวเลือกของผู้บริโภคที่ใช้ทดแทนสาขาธนาคารและการทำธุรกรรมทางการเงิน
เป็นตัวเลือกของผู้บริโภคที่จะใช้ทดแทนห้างสรรพสินค้า และการค้าขาย
คนทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม โดยหันมาใช้แท็บเล็ตเป็นสื่อกลางมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวนี้ เทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปอีกก้าว
เทคโนโลยียุค 5G ซึ่งทำให้การรับ-ส่งข้อมูลมีความเร็วขึ้นกว่า 4G อีก 100 เท่ากำลังเกิดขึ้น
ความเร็วดังกล่าวทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ 4 อย่าง
1.Internet of Things หรือไอโอที 2.ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI 3.เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality หรือ VR)
และ 4.เทคโนโลยีความจริงแบบแต่งเติม (Augmented Reality: AR)
นวัตกรรม 4 อย่างทำให้ภาคธุรกิจและภาคสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงหลากหลาย
อาทิ มีคนใช้โมบายแบงกิ้ง ทดแทนสาขาของธนาคาร ใช้ AI วิเคราะห์สินเชื่อแทนเจ้าหน้าที่แบงก์
ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ภายในโรงงานอุตสาหกรรมแทนแรงงาน
ใช้ AI วิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการเพาะปลูก ทำให้เกษตรกรมีโอกาสเพิ่มมูลค่าการผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น
และก้าวไปสู่การเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์มมิ่ง
ขณะที่โรงพยาบาลใช้ AI จ่ายยาแทนหมอ-พยาบาล ส่วนหมอก็สามารถรักษาผู้ป่วยด้วยระบบทางไกลได้โดยผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง
ทำเลทองทางการค้าปลีกจะย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์
พนักงานบริษัทสามารถทำงานนอกห้องทำงานได้ โดยใช้อินเตอร์เน็ตประสานงาน
คอนโดนมิเนียม บ้านสมัยใหม่ ต้องใช้ IoT อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย ยานยนต์จะไร้คนขับ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นในโลก และแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง ภายหลังใช้เทคโนโลยี 5G
ขณะนี้ จีนประกาศว่า จะมี 5G ในปีหน้า อีกหลายประเทศจะทยอยมี 5G
ส่วนประเทศไทยนั้นนายสมคิดเร่งรัดให้รีบดำเนินการให้เสร็จใน 2 ปี หรือปี 2563
วันที่ 19 กรกฎาคม มติชนจัดเสวนาเรื่องนี้ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กทม.
วันนั้นหากใครได้ไปฟัง จะทราบแนวโน้ม
เทคโนโลยีพลิกโลก 5G จะเกิดขึ้นในไทยได้ตามกำหนดหรือไม่
นับถอยหลัง 2 ปี ไทยจะก้าวทันโลกในด้านเทคโนโลยีได้หรือไม่
โปรดติดตาม!
