คอลัมน์ โลกสองวัย : เห็นหวานๆ อย่างนี้ อย่าไปหลงเข้าเชียวนา

“เบาหวาน” เป็นชื่อโรคภาษาไทยเกิดจากปริมาณความหวานในร่างกายถูกขจัดออกไม่หมดจาก “อินซูลิน” ที่ต้องขจัดภายในตับอ่อน ความรู้เรื่อง “เบาหวาน” มีมากมายทั้งในวงการแพทย์ และวงการสื่อมวลชนให้อ่านให้ศึกษา ทั้งยังมีการบรรยายจากหลายสถานที่ซึ่งคนไทยสามารถหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง ตลอดเวลาที่ต้องการ

แต่คนไทยยังเป็น “เบาหวาน” กันไม่น้อย หาดูตัวเลขทางสถิติได้ทุกเวลา

คงไม่ต้องอธิบายให้มากเรื่องว่าทำไมจึงเกิดเบาหวาน เพราะรับประทานน้ำตาลหรือผลไม้ หรือสารที่ให้ความหวานมากเกินไปน่ะซิ ว่ากันตรงไปตรงมาอย่างนั้น

คนไทยชอบกินหวานเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือขนม ล้วนแต่มีความหวานนำทั้งสิ้น ถึงขนาดว่ารับประทานอาหารคาวแล้วต้องตามด้วยขนมหวาน

Advertisement

กระนั้นหลายคนมิได้เป็นเบาหวานไปเสียทั้งนั้น

ที่เห็นได้ง่ายและเด่นชัดที่สุดคือ “เบา” หรือปัสสาวะออกมาตกค้างบริเวณโถปัสสาวะ มีมดขึ้นมาตอม นั่นแหละ “เบาหวาน” รับประทานแล้ว

วันหนึ่ง ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ลุกขึ้นปัสสาวะกลางดึก ในบ้านพักต่างจังหวัด เมื่อตื่นมาปัสสาวะอีกครั้งหนึ่ง สองชั่วโมงจากนั้นปรากฏว่า บริเวณรอบๆ โถปัสสาวะที่เป็นชักโครกมีมดไต่ตอมยั้วเยี้ยไปหมด

Advertisement

เอาแล้วซิวะ ที่มดขึ้นมาไต่ตอมปัสสาวะเรี่ยราดเป็นเพราะน้ำตาลในปัสสาวะนั่นเอง ไม่มีเป็นอื่นไปได้

ตั้งแต่นั้นมา ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เริ่มระมัดระวังการรับประทานของหวาน และรับประทานข้าวปริมาณในแต่ละมื้อน้อยลง

กระนั้น เมื่อตรวจเลือดตรวจน้ำตาลในเลือด หมอแจ้งว่ามีปริมาณน้ำตาลในเลือดถึงขั้นเป็นเบาหวาน ต้องรับประทานยารักษาอาการ แล้วหยุดยาไม่ได้ ขณะเดียวกันต้องคุมอาหารพร้อมไปด้วย

เมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน เริ่มแรกมิได้ระมัดระวังเท่าที่ควร ยังคงรับประทานของหวาน ขนมหวานในหลายมื้ออาหาร ของมันชอบจะทำอย่างไรได้ ทำใจว่ากินของหวานแล้วกินยาตามคงไม่สู้กระไร

แม้จะอ่านความรู้เรื่อง “เบาหวาน” แต่ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรนัก รู้แต่เพียงว่า น้ำตาลในเลือดทำให้เลือดฝืดลงไปบ้างเท่านั้น มารู้ภายหลังเมื่อเป็นแผลผ่าตัด แล้วแผลกำเริบ จึงรู้ว่าเพราะเลือดที่ส่งไปตามเส้นเลือดไม่สะดวก ทำให้แผลหายช้าผิดปกติ ถึงขนาดไม่หายเป็นติดต่อเรื้อรังทีเดียว ดังเห็นว่าผู้ที่เป็นแผลที่เท้าและเป็นเบาหวาน จึงเป็นที่วิตกของหมอเพราะหลายคนอักเสบต้องตัดขามานักต่อนัก

ครั้นเมื่อข้าพเจ้า (ผู้เขียน) มาเป็นด้วยตัวเอง จึงวิตกสองประการคือ อักเสบถึงขั้นตัดขา กับติดเชื้อแบคทีเรียเข้ากระแสเลือดอาจถึงแก่ชีวิตหากรักษาไม่ทัน

โอมเพี้ยง ขอให้รักษาหายทีเถิด อย่าต้องให้ถึงขั้นนั้นเลย

ทุกวันนี้ ต้องไปล้างแผลทุกเช้า และหมอยังให้ขูดเนื้อที่ตายออกทิ้งไปด้วยทุกครั้งที่ล้างแผล เจ็บออกจะตาย แต่ต้องทน

ต้องขอแจ้งให้น้องหนูทั้งหลายที่ชอบรับประทานอาหารหวาน เคยเห็นน้องหนูวัยรุ่นหลายคนเติมน้ำตาลใส่ก๋วยเตี๋ยวครั้งละช้อนโต๊ะเต็มล้น ทั้งยังเติมพริกน้ำส้ม น้ำปลารสจัดอีกด้วย

เขาว่าอันตรายจากน้ำตาลหรือความหวานไม่ปรานีใคร วันนี้เห็นว่ารัฐบาลจัดเก็บภาษีความหวานจากอาหารเครื่องดื่ม เพื่อให้น้องหนูดื่มเครื่องดื่มอัดลมน้อยลง หวังว่าคงป้องกันได้ห้วงหนึ่ง

ที่ดีกว่านั้น พ่อแม่ผู้ปกครองต้องริเริ่มให้ทั้งความรู้แล้วป้องกันลูกหลานรับประทานของหวานเสียด้วย แม้แต่ผลไม้ก็เหอะ หน้านี้ทั้งทุเรียน ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง รับประทานได้ แต่น้อยๆ หน่อย อย่าเห็นแก่ความอร่อย จะทุกข์หนักเมื่อยามอายุมากเข้าสู่วัย สว. อย่างข้าพเจ้า (ผู้เขียน) แล้วต้องมาพิโอดพิโอยอย่างนี้แหละ

อ้อ–ไม่ใช่หวานอย่างเดียวนะครับ ยังมีรสเค็ม รสเผ็ด ที่เป็นอันตรายอีกด้วย

เพราะอันตรายจากรสเค็มคือ “โซเดียม” หรือ “เกลือ ยังทำให้ความดันสูงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image