ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
ธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ประจำคณะประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐ เสวนา “เราจะ ‘หาเรื่อง’ กับประวัติศาสตร์อย่างไร” ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2562
ผู้ปรารถนาดีมีเมตตากรุณาส่งพรินต์รายงานข่าวให้อ่าน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม ผ่านมา ผมอ่านแล้วนึกถึงหนังสือ ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย ของ ธงชัย วินิจจะกูล (สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2562)
“ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง มักจะมีความไหลเลื่อนมากเสียกว่าการเป็นความจริงที่แข็งตึงและเปลี่ยนแปลงไม่ได้” ที่ต้องมีความไหลเลื่อนไม่หยุดนิ่งก็เพราะมีการวิพากษ์ตัวเองตลอดเวลา มีทั้งการสร้างและการโค่นภายในตัวมันเอง
ดังนั้น การอ่านประวัติศาสตร์เพื่อยึดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นสรณะจึงเป็นการศึกษาที่ไม่ถูกต้อง ผู้ฝักใฝ่ศึกษาประวัติศาสตร์ (หรือ นักประวัติศาสตร์) ต้องมีความสงสัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้มีการตั้งคำถามต่อตัวเองอยู่เสมอ
“ทวารวดี” แตะต้องได้
เปลี่ยนแปลงได้
ผมอ่านแล้วตามรายงานเสวนาของ ธงชัย วินิจจะกูล ทำให้นึกถึง “ทวารวดี” ในประวัติศาสตร์โบราณคดีในไทย ต้องไม่ถูกสถาปนาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องมิได้ เพราะแท้ที่จริงต้องร่วมกันแตะต้องมากๆ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ว่าเท่าที่พบแล้วหลักฐานมีอะไร? แค่ไหน? อย่างไร? ตัวตนจริงมีไหม? อยู่ที่ไหน? ฯลฯ
หรือมีแค่ชื่อศักดิ์สิทธิ์ในอุดมการณ์ทางการเมืองการปกครองของคนชั้นนำสมัยนั้น ทั้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จนถึงลุ่มน้ำมูล และบริเวณโตนเลสาบในกัมพูชา
ประวัติศาสตร์แห่งชาติ
ต้องถูก”หาเรื่อง”
ธงชัย วินิจจะกูล บอกอีกว่า ประวัติศาสตร์เป็นการศึกษาที่ต้องถูก “หาเรื่อง” บ่อยๆ เพราะการหาเรื่องคือ check and balance ทางปัญญา
“การหาเรื่อง คืออย่าให้ประวัติศาสตร์เวอร์ชั่นใดเวอร์ชั่นหนึ่งมีอำนาจมากเกินไป—“
ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย แบ่งยุคสมัยตามโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะ ควรถูก “หาเรื่อง” เพราะไม่เคยพบหลักฐานวิชาการสนับสนุนตรงไปตรงมา แต่เชื่อกันตามความเห็นของนักโบราณคดีกับนักประวัติศาสตร์ศิลปะเท่านั้น ว่ามีสมัยทวารวดี, ศรีวิชัย, เชียงแสน, ลพบุรี, สุโขทัย, อยุธยา ฯลฯ ทั้งๆ ไม่มีจริง
กรุงสุโขทัยในประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย ควรถูก “หาเรื่อง” อย่างเร่งด่วนและอย่างถี่ถ้วนละเอียดลออ เพราะกลายเป็นสรณะไปแล้ว อันตราย