คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้าน-บ้าน : ค่าแรง 400 (1) หนังชีวิตเรื่องยาว

หนังชีวิตเรื่องยาว รัฐบาลประยุทธ์ 2/1

งานนี้ กรรมกรต่างด้าวในเมืองไทยฝากกระซิบมา รักมากที่สุดในโลกนโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท

หัวข้อชวนคุยวันนี้ ถ้าไปคุยในวงคนหาเช้ากินค่ำ เสียงขานรับดังกระหึ่มแน่นอน

และในฐานะมนุษย์เงินเดือนแอบโหวตให้ 101% หมายถึงโหวตให้เกินร้อย ก็แหม๋ ใครไม่อยากได้มั่งล่ะ ทำงานเหมือนเดิมแต่ได้ค่าตัวเพิ่ม

Advertisement

ปัญหาอยู่ตรงที่มองต่างมุม ถ้าไปคุยในวงเจ้าของกิจการ คนจ่ายเงินเดือน นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดกันเป็นแถว

ค่าแรง 400 คืออะไร

ย้อนประวัติไปแค่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็พอ นโยบายหาเสียงที่ทำผู้ประกอบการขวัญหนีดีฝ่อมาแล้วก็คือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากวันละ 220 บาท เป็น 300 บาท เท่ากับขึ้น 80 บาท

Advertisement

มีคนไปคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมาพบว่าขึ้นพรวดพราดทีเดียว 40% ขี้แตกขี้แตนกันมาแล้วรอบหนึ่ง

ถัดมา ไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้คนมีศีลธรรมดีงาม และประเทศชาติคงมีเรื่องยุ่งๆ ทางอื่นก็เลยไม่ได้มายุ่งขิงอะไรกับการขึ้นค่าแรง ก็เลยพักยาว กว่าจะมาปรับกันอีกรอบก็ช่วงอีเวนต์วันเมย์เดย์ (1 พฤษภาคม วันแรงงานแห่งชาติ) ปี 2561

คราวนี้ปรับจาก 300 เป็น 325 บาท ขึ้นราวๆ 10% โอ๊ย จิ๊บ จิ๊บ เพราะวงการอสังหาริมทรัพย์เขามัวแต่ไปตกใจกับราคาที่ดินแพงบ้าเลือด จนลืมตกใจค่าแรงขั้นต่ำ

ล่าสุด รัฐบาลใหม่ “ประยุทธ์ 2/1” บรรจุเป็นวาระแห่งชาติไปเรียบร้อยกับนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จาก 325 บาทเป็น 400 บาท

ถ้ายังจำกันได้ ตัวเลขตอนแรกเหนียมๆ กันที่ 350-370 บาท เวทีหาเสียงพรรคไหนก็ไม่รู้เบิ้ลตัวเลขกันเพลิน ขึ้นไปถึง 400-420 บาท

สรุปว่ารอบนี้ขึ้นประมาณ 23% จำตัวเลขมาจากโบรกเกอร์ตลาดหุ้น บริษัทเอเชียพลัสเขาคำนวณเปอร์เซ็นต์ไว้อย่างนี้

ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า ขึ้นรอบนี้แค่ 23% หรือแค่ครึ่งเดียวของรอบที่แล้วที่ขึ้น 40% ตลาดก็ไม่พังนี่นา แล้ว พ.ศ.นี้จะเดือดร้อนอะไรกันนักหนา

เรื่องนี้มีที่มาที่ไปค่ะ หลายคนถล่มข้อมูลผลกระทบค่าแรง 400 ยาวเป็นหางว่าว ลองมานับดูว่ามีข่าวร้ายหรือปัจจัยลบกี่เด้ง

เรื่องแรกเริ่มตั้งแต่เศรษฐกิจตกท้องช้างยาวนาน หมายถึงเศรษฐกิจตกต่ำ ชะลอตัว ฝืดเคือง กำลังซื้อห่อเหี่ยว

2.ราคาพืชเกษตร ซึ่งเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายปากท้องคนต่างจังหวัด ราคาก็ตกต่ำอีก

3.เทรดวอร์หรือสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทะเลาะกันอยู่บนดาวอังคาร เหตุไฉนผลกระทบมาถึงประเทศไทยได้ก็ไม่รู้ แปลกจิงจิง ส่งออกเหมือนจะเจอทางตัน ของขายยากอยู่แล้วยิ่งยากเข้าไปอีก

4.เทคโนโลยีโลกยุคใหม่เกิดดิสรัปชั่น ทำลายธุรกิจโลกเก่า โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ทำลายธุรกิจหลายวงการ นำไปสู่ปัญหาการปลดคนไม่ขาดสาย

5.เป็นเวลานับได้ 3 ไตรมาสมาแล้วที่แบงก์ชาติเข้ามาเติมเชื้อไฟอีกนิดหน่อย ด้วยการออกมาตรการ LTV-loan to value บังคับเพิ่มเงินดาวน์ซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียม เป้าหมายสกัดนักเก็งกำไรอสังหาฯ

ชอบใจมากก็คอมเมนต์ของ “พี่ทุย-พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์” นายกอสังหาริมทรัพย์ไทย บอกว่า LTV เพราะอยากสกัดมะเร็งร้ายในสายตาแบงก์ชาติซึ่งก็คือนักเก็งกำไร แต่ทำคีโมที่ตับ อวัยวะอื่นอย่างกระเพาะ ลำไส้เสียหายไปด้วย

ประมาณว่า LTV ทำคีโมที่กรุงเทพฯ แต่มีผลกระทบทำให้อสังหาฯ ในต่างจังหวัดตายยกแผง เพราะใช้กฎเกณฑ์เดียวกัน one rule for all

6.โปรโมชั่นของแถมจาก LTV แบงก์พากันเข้มงวดสินเชื่อซื้อบ้านซื้อคอนโดฯ ประชาชนผู้บริโภคทั้งหลายถึงกับเบลอกันเลยทีเดียว คิดอะไรไม่ออกเพราะ memory full เบรกการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

ลูกค้าไม่มีกำลังใจแม้แต่จะก้าวขาไปเดินเล่นในไซต์โครงการ ยอดวิสิตไซต์หายเกินครึ่ง ดีเวลอปเปอร์บางรายนอนเอา ท.ทหาร สระอ๊าว อ่านว่าเท้า…ก่ายหน้าผาก ก็มี

เรื่องนี้มีคนคอนเฟิร์มคือ “อ.ยุ้ย-ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ผู้บริหารค่ายเสนา ดีเวลอปเม้นท์ บอกว่าพูดไม่อายปากเลย พ.ศ.นี้ ลูกค้าหายากขึ้นทุกวัน

7.ในเวลาที่ประชาชน ภาคเอกชนเกิดอาการ memory full ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยหลังดี ประเทศจำเป็นต้องพึ่งการลงทุนจากภาครัฐ แต่ก็มาเจอเรื่องระบบงบประมาณเข้าอีก (ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเก่า-รัฐบาลใหม่)

สมมุตินะ รับเหมารอประมูลงาน 2 ล้าน หน่วยงานก็อยากเปิดประมูลใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ เพราะของบประมาณไปเผื่อถูกตัดที่ 3 ล้าน ไม่รู้จะออกหัวออกก้อยให้มาเท่าไหร่ ก็เลยกำหนดเพดานราคาประมูลไม่ได้

จะลักไก่เปิดประมูล 2 ล้านแต่ถ้าซวยโดนตัดงบเหลือ 1.5 ล้าน ใครจะรับผิดชอบเพราะคนประมูลได้งานไปแล้ว 2 ล้าน เป็นต้น ทุกอย่างก็เลยชะงักไปหมด

8.ผู้ถือครองทรัพย์สินทั้งประเทศกำลังจะมีต้นทุนจ่ายภาษีใหม่ “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” มาดักรอในช่วงต้นปีหน้า มองไปทางไหนมีแต่รายจ่าย รายรับริบหรี่

เนี่ย ยังไม่ได้นับรวมปัญหาเสถียรภาพรัฐบาล 19 พรรคร่วม กับประเด็นจิปาถะบันเทิงอีกต่างหาก

ถ้าคัดเนื้อๆ ผลกระทบต่อวงการอสังหาฯ จริงๆ ปัจจัยลบเป็นเรื่องกำลังซื้อตกต่ำ กับเรื่อง LTV ที่เป็นปัญหาหนักอก

ปัจจัยลบล่าสุด ดั๊นมาเจอนโยบายหาเสียงค่าแรง 400 บาทเข้าอีก เพราะเป็นทั้งต้นทุนทางตรง+ต้นทุนทางอ้อม ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่าธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นมี 2 วงการหลักคือ “แรงงานก่อสร้าง” กับ “แรงงานประมง”

ที่สำคัญ มีเรื่องที่คนนอกวงการอสังหาฯไม่ค่อยรู้ก็คือ ค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้ประโยชน์ตกอยู่กับแรงงานต่างด้าว 100% เดินเข้ามาสมัครงานแบบตัวเปล่าจิงจิง ไม่ต้องทำอะไรเป็นก็ได้ เพราะจ้างในตำแหน่ง “กรรมกรแบกหาม”

ตำแหน่งงานนี้ในไซต์ก่อสร้าง คนงานไทยเมินมานานแล้ว รังเกียจว่าเป็นงานหนัก สกปรก ไม่มีเพื่อน ไม่เหมือนไปเป็นสาวโรงงานสบายกว่ากันเยอะเลย

ข้อมูลนี้เป็นคำเฉลย ทำไม “กรรมกรต่างด้าว” จึงรักรัฐบาลไทยมากที่สุดในโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image