| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน [email protected] |
| เผยแพร่ |
เข้าพรรษามาสี่ห้าวัน ทั้งน้องหนูและน้าหนูที่ปวารณา “งดเหล้าเข้าพรรษา” คงเลิกกระวนกระวายเมื่อถึงเวลายามเย็น อาทิตย์อัสดง เชื่อว่าบางคนเลิกนัดเจอะเจอเพื่อนยามเย็นระหว่างนี้ไปสักพัก โดยเฉพาะเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา เหมือนอย่างที่เคยประพฤติ หยุดนัดเย็นอื่นได้ แต่ขอเย็นวันศุกร์สักวันก็ไม่ได้
เข้าพรรษาสามเดือน 12-13 ศุกร์เท่านั้นเอง จะอะไรกันนักหนา
น้าหนูทั้งชายทั้งหญิง ก่อนหน้าเข้าพรรษา ไปงานแต่ง งานรุ่น เป็นต้องถือแก้วไวน์ วางแก้วไว้ตรงหน้าที่นั่ง หวังเพียงดื่มเล็กน้อยพอเป็นพิธี สำหรับคุณน้าหนูผู้หญิง ส่วนคุณน้าหนูผู้ชาย ช่วงนี้หัดถือแก้วน้ำหวาน แก้วน้ำเย็น ชนแก้วกับเพื่อนแล้วบอกว่า “เข้าพรรษาว่ะ” เพื่อนคงไม่ว่ากะไรดอก เพียงพยักหน้ายิ้มแย้มเหมือนรู้กัน อย่างดีทักกลับมาว่า “เหมือนกัน” แล้วหัวร่อเบาๆ “ออกพรรษาค่อยว่ากัน” เป็นอย่างงั้น
ทุกวันนี้ พุทธศาสนิกชนทั้งชายทั้งหญิงมักนิยมเข้าวัดทำบุญวันเสาร์อาทิตย์ ยิ่งเป็นวันหยุดเทศกาลเกี่ยวกับศาสนา มักมีทัวร์เที่ยว 9 วัดมาเชิญชวน ทั้งทัวร์ในกรุงเทพมหานคร และทัวร์วัดจังหวัดใกล้เคียง อยุธยาจังหวัดเดียว หรือนครปฐม สุพรรณบุรี มีหลายวัด
ในกรุงเทพฯที่นิยมไปไหว้พระวันเดียวจบ หรือสัปดาห์ละสองสามวัด ตามแต่สะดวก เช่นวันเดียวจบ เสาร์อาทิตย์ เริ่มจากวัดอรุณฯ ฝั่งธน มีความหมายถึงยามอรุณรุ่ง แล้วข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาฝั่งพระนคร ไปวัดสุทัศน์ เสาชิงช้า นอกจากจะไหว้พระประธานในอุโบสถ ออกมาหน้าวิหารไหว้พระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เสียด้วย
ชื่นชมเสาชิงช้าสักนาทีสองนาที เดินข้ามถนนเข้าโบสถ์พราหมณ์ ไหว้เทพ พระพรหม พระนารายณ์ พระศิวะ และพระพิฆเนศ เทพอันเป็นที่เคารพของผู้นับถือศาสนาพราหมณ์ ซึ่งแป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนร่วมของพิธีในพุทธศาสนา
จากนั้นไปไหว้พระนอน และพระประธานวัดโพธิ-วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และชื่นชมเรียนรู้ปูนปั้นฤๅษีดัดตนและบทเรียนการแพทย์รอบพระวิหาร ที่ได้ชื่อว่ามหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย จะได้รับความรู้และซึมซับในศิลปกรรมปูนปั้น และลวดลายปูนปั้นนูนต่ำ ซึ่งเมื่อก่อนมีผู้นำกระดาษไปลอกลายจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักศึกษานำไปศึกษางานศิลปะนักต่อนัก
จากวัดโพธิ์ที่มีบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1 ขึ้นต้นว่า “โอ้วัดโพธิ์เป็นวัดกษัตริย์สร้าง…”
ต่อจากนั้นเลยมาไหว้พระวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระแก้วมรกต เยี่ยมชมมหาราชวังก่อน ออกมาไหว้หลักเมืองที่อยู่ตรงข้าม เสร็จแล้วเดินทางอีกนิดเดียวถึงวัดชนะสงคราม ไปวัดบวรนิเวศวรวิหาร กราบพระประธาน ที่บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แล้วจะเลยไปวัดอินทรวิหาร กราบหลวงพ่อโตที่ประทับยืนตระหง่าน รวมเป็น 8 วัด กับหลักเมืองอีกแห่งหนึ่ง เป็นครบ 9 แห่ง
นั้นสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธากราบไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้อาวุโส หรือ ส.ว. สูงวัยทั้งหลาย มีเผยแพร่ทางไลน์จากเพื่อนของข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เองว่า คุณหมอ นายแพทย์นิพนธ์ พวงวรินทร์ แนะนำให้ไป 9 วัดนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ อย่าได้ขาด ต่อไปนี้
วัดแรก คือวัดความดัน วัดที่สอง วัดสายตา วัดที่สาม วัดรอบเอว (ทั้ง ส.ว. หญิงชายนั่นแหละ)
วัดที่สี่ วัดชีพจร วัดที่ห้า วัดน้ำตาล (วัดนี้ยิ่งสำคัญ เป็นเหตุที่ไปวัดสุดท้ายเร็วขึ้น) วัดที่หก วัดการเต้นของหัวใจ (มีชื่อเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ คือ EKG)
วัดที่เจ็ด วัดความจำ (สำหรับ ส.ว.ชายทั้งหลาย ยิ่งอายุมาก ส่วนที่วัดได้ชัดเจนคือ ลืมรูดซิปกางเกงหลังจากปฏิบัติกิจเสร็จ ไม่เชื่อลองสังเกตทุกครั้งที่ไปยืนฉี่ตั้งแต่บัดนี้)
วัดที่แปด วัดพละกำลังยังแข็งแรงดีอยู่หรือเปล่า (จะวัดด้วยวิธีไหนเรื่องของคุณพี่)
วัดสุดท้าย คือวัดใกล้บ้าน ยังไม่ต้องไป จองไว้ก่อน หากไปวัดที่ 1 ถึง 8 แล้วไม่ได้เรื่อง
ท่าน ส.ว. อ่านจบแล้ว เชิญพิสูจน์ตั้งแต่บัดนี้เทอญ ขอให้โชคดีผ่านเกณฑ์ทุกวัดก่อนถึงวัดสุดท้ายเน้อ
