ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
มติชนออนไลน์ เมื่อหลายวันมาแล้ว มีรายงานภาพข่าว พระคเณศ “กลับบ้าน” ว่า
“พระคเณศ เก่าแก่สุดในสยาม พบที่โบราณสถานกลางเมือง อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เคยถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ นานนับสิบปี ก่อนย้ายกลับปราจีนบุรี พร้อมๆ กับการปรับปรุงนิทรรศการใหม่ครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้—-“
แต่ในความเป็นจริง พระคเณศ “กลับไม่ถึงบ้าน” เพราะเดิมอยู่เมืองมโหสถ อ.ศรีมโหสถ (จ.ปราจีนบุรี) แต่ขณะนี้กลับคืนแค่ อ.เมืองฯ ยังเหลืออีกราว 20 กิโลเมตร จะถึงบ้าน
‘แดนสนธยา’ ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สถานที่ตั้งไม่เหมาะ เพราะอยู่ใน “แดนสนธยา” ยากเข้าถึง จึงไม่มีใครอยากไปเข้าชม และพูดกันมาหลายสิบปีแล้ว [ตั้งแต่ก่อนสร้าง] ว่าควรโยกย้าย หรือสร้างใหม่ในท้องที่ อ.ศรีมโหสถ ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองมโหสถ ที่กรมศิลปากรขุดค้นและขนย้ายโบราณวัตถุไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
กรมศิลปากร [สมัยเอนก สีหามาตย์ เป็นอธิบดี] เคยตกปากรับคำประชาชนชาว อ.ศรีมโหสถ จะพิจารณาหาช่องทางให้มีพิพิธภัณฑ์เมืองมโหสถ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี แต่อธิบดีคนก่อน (ที่ต่อจากเอนก) ไม่ทำตามที่รับปากไว้
กรมศิลปากร ขณะนี้มีอธิบดีคนใหม่ ควรทบทวนให้จงดี ด้วยข้อมูลตามจริงที่มีหลักฐานล้นหลามและตามแนวทางมิวเซียมสากลโลก ที่เป็นอุปกรณ์สนองการศึกษานอกระบบและการศึกษาตลอดชีวิตตามอัธยาศัย
ป้ายบอกความเป็นมา
โบราณสถานกลางเมืองมโหสถ นักโบราณคดี กรมศิลปากร เคยพาไปเดินหลายครั้งหลายสิบปีมาแล้วบริเวณขุดพบพระคเณศ
ผมเคยขอความกรุณาให้ทำป้ายพร้อมรูปถ่ายหรือลายเส้นรูปพระคเณศ และคำอธิบายสั้นๆ ตั้งไว้ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามถนนผ่ากลางเมือง เพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวอ่านแล้วรู้ความสำคัญ
แต่ทุกวันนี้ยังว่างเปล่าไม่มีอะไรทั้งนั้น
ป้ายบอกประวัติความเป็นมา ควรมีข้อความสั้นๆ ง่ายๆ สรุปเร็วๆ อะไร? มาจากไหน? ทำไม? ฯลฯ พร้อมรูปและแผนผังสำคัญ โดยไม่ฟูมฟายร่ายยาวลักษณะศิลปกรรม และวันเดือนปีขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
ถ้าไม่แบ่งปันข้อมูลความรู้สู่สาธารณะ แล้วจะเรียกร้องหาความร่วมมือดูแลรักษาโบราณสถานจากใคร? ที่ไหน? มีโคลงโลกนิติของเก่าบอกว่า
“ให้ท่านท่านจักให้ ตอบสนอง
นบท่านท่านจักปอง นอบไหว้”
หากไม่ทำก็มีกลอนเก่าบอกอีกว่า “ของดีมีค่าราคายิ่ง อยู่กับลิงจะรู้ค่าราคาหรือ”