| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ [email protected] |
| เผยแพร่ |
สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีเงินทองใช้สอยไม่ขาดสาย มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย
ขอให้ทุกความปรารถนาประสบผลสำเร็จ
ขอให้ปี 2563 กลายเป็นปีแห่งความสุขของทุกๆ คน
เชื่อว่าช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้หลายคนได้ไปทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย
บางคนไปไหว้พระ บางคนไปเดินห้าง บางคนพบปะญาติมิตร และอื่นๆ
อีกหลายคนคงไปชมภาพยนตร์กัน
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ มีโอกาสแวะเวียนไปที่โรงภาพยนตร์ House
โรงภาพยนตร์ House ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ที่ RCA รู้กันในคนชอบชมภาพยนตร์ว่า ที่นั่นฉายหนังอินดี้
ขณะนี้โรงภาพยนตร์ House ย้ายสำนักมาเปิดให้บริการที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์
ห้างก็เพิ่งเปิดใหม่ โรงภาพยนตร์ก็ใหม่ เก้าอี้นั่งก็ใหม่
แต่ความมุ่งมั่นของกลุ่มผู้ดูแลโรงภาพยนตร์ House ยังเหมือนเดิม
นั่นคือ มุ่งมั่นฉายภาพยนตร์ที่ดูสนุก
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ที่ฉาย ณ โรงภาพยนตร์แห่งนี้ ยังมีความแตกต่างจากโรงภาพยนตร์ทั่วไป
ภาพยนตร์ส่งท้ายปีเรื่องหนึ่งที่ไปนั่งจ๋อมรอเวลา Happy New Year คือเรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood
ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เค้าโครงจากบทสัมภาษณ์ของนักเขียนดัง ทอม จูโนด์ ในนิตยสาร Esquire มาสร้าง
ชมแล้วรู้สึกเป็น A Beautiful Day จริงๆ
ย้อนกลับไปดูตัวเอกของเรื่องคือ เฟรด โรเจอร์ ที่แสดงโดย ทอม แฮงค์ส ทราบว่าเป็นนักจัดรายการทีวีเพื่อเด็กที่มีคนรักทั้งอเมริกา
ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเกิดขึ้น เคยมีคนนำเอาเรื่องราวของโรเจอร์ไปทำสารคดี
ปรากฏว่าได้รับรางวัลมากมาย
ความสบายใจเมื่อได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้คือ มุมมองของโรเจอร์
มองโลกในแง่ดี
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับ ลอยด์ โวเกล นักข่าวนักเขียนที่มองโลกในแง่ร้าย แสดงโดย แมทธิว รีส
แต่ในที่สุดเรื่องราวต่างๆ ก็จบลงด้วยดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วทุกคนมีสำนึกรู้จักดีชั่ว
เนื้อหาของหนังตอกย้ำความเชื่อตามแนวพุทธที่ว่า มนุษย์เกิดมาพร้อมกับโลภ โกรธ หลง
พฤติกรรมของเราที่แสดงออก หากหมกมุ่นอยู่กับเรื่องไม่ดี จิตใจขุ่นมัว ย่อมแสดงออกมาไม่ดี
สัมผัสได้จากอาการเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธ และทำร้ายตนเอง และผู้อื่น
แต่แม้เราจะไม่สามารถหลีกหนีความโกรธไปได้
เรากลับมีวิธีที่จะแสดงความโกรธออกมาในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายหรือการฆ่าฟัน
ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมีช่วงเวลาที่เปิดให้คนดูมีส่วนร่วมกับหนังโดยไม่ทันรู้ตัว
ลองไปแวะชมแล้วจะรู้ว่าเป็นตอนไหน
เมื่อชมภาพยนตร์ตลอดเรื่องจนจบลงแล้ว จะสัมผัสได้ถึงวิธีการขัดเกลาจิตใจคนให้เปลี่ยนแปลง
ความสำเร็จของผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงคนอื่น จำเป็นต้องมองเห็นความดีของคนอื่น
การเปลี่ยนแปลงคนอื่นต้องทำให้คนอื่นมองเห็นสิ่งที่ดีกว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
ต้องทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็น
หากต้องการให้เขาเป็นคนดี ต้องคิดดี พูดดี ทำดี ให้เขาดู
ต้องเข้าใจเขา และต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจ
ใครมีคุณสมบัติดังกล่าวก็จะเป็นเหมือนโรเจอร์ในภาพยนตร์ที่ไปดูมา
ขณะที่คนคนหนึ่งถ้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก “คิดร้าย” มาเป็น “คิดดี”ได้
คนคนนั้นต้อง “ซาโตริ” ด้วยตัวเอง
เหมือนกับลอยด์ ในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนั้น
ภาพยนตร์นี้เหมาะสมกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เพราะห้วงเวลานี้คือห้วงเวลาที่ทุกคนสามารถสรุปบทเรียนของชีวิตในปีที่ผ่านมา
พร้อมๆ กันนั้น ทุกคนยังสามารถตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตในปีใหม่
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจ
สำหรับใครที่อยากให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องมีความอดทน และต้องทำตนให้เป็นตัวอย่าง และหาวิธีการสื่อสารที่ทำให้คนคนนั้นเข้าใจ
ขณะที่ใครที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจ
หากต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องเริ่มทันที
เปลี่ยนความคิดในแง่ร้าย ให้กลายเป็นแง่ดี
รู้จักจัดการเรื่องร้ายๆ ด้วยวิธีการง่ายๆ แต่ได้ผล
เปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยร้ายๆ ให้กลายเป็นดี
ภาพยนตร์เรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood นี้ดูแล้วเกิดความจรรโลง
ตอนที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์ รู้สึกว่าโลกยังคงสวยงาม
ตอนที่ขับรถกลับบ้าน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ประดับด้วยพลุปีใหม่
เสมือนพลุฉลองชัยชนะให้แก่โรเจอร์
เป็นชัยชนะที่ทำให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์
เป็นชัยชนะของความดีที่ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะอื่นใด
