ย่ำไปในดงเพลง : รักคุณเท่าฟ้า จริงหรือ? โดย เขบ็ดหัวโต

ย่ำไปในดงเพลง : รักคุณเท่าฟ้า จริงหรือ? : โดย เขบ็ดหัวโต

ย่ำไปในดงเพลง : รักคุณเท่าฟ้า จริงหรือ? โดย เขบ็ดหัวโต

จะเบบี้ บูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ เจนวาย หรือเจนไหนที่ชอบเพลง-โดยเฉพาะเพลงไทย ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา

ไม่มีใครไม่รู้จัก “คาราบาว”

ถ้าไม่เมาแล้วตะโกนร้อง “บัวลอย” ขึ้นมากลางวงเหล้า พร้อมกับโยนขวดแก้วประกาศศักดา

Advertisement

ก็ต้องเคยฮัม “ราชาเงินผ่อน” ตอนที่มองเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่ถึงเวลาจ่ายเงินตามงวด

ไม่งั้นก็ทำตาลอย เคลิบเคลิ้มไปหลังจาก “ปุ๊น” ไปแล้วสักบ้อง หรือถอง “พันลำ” ไปสัก 2 ตัว พร้อมกับรำพึงเพลง “คนเก็บฟืน” ไปพลาง

หรือถ้าอายุมากหน่อยก็อาจเคยไปชูกำปั้นร้องเพลง “ทับหลัง”

Advertisement

ฯลฯ

สรุปว่าคงมีความทรงจำหรือความเกี่ยวพันกับเพลงของคาราบาวเขาบ้างล่ะน่าในชีวิตนี้

แต่เพลงที่ยกขึ้นมาเขียนถึงวันนี้

ย้อนแย้งอยู่ในตัวเองชะมัด

เพราะนี่คือหนึ่งในเพลงที่ “ใส” ที่สุด ทั้งในภาคเนื้อร้องและภาคดนตรีของคาราบาว

เนื้อเพลงที่ “พี่แอ๊ด” แกเขียนนั้น ถ้าฟังแล้วไม่อยากมีปีกบินได้เอง

ก็คงอยากเดินไปตีตั๋วขึ้น “การบินไทย” เพื่อขึ้นไปบนฟ้าแล้วมองลงมาข้างล่างตามที่เขาบอก

ในขณะที่ดนตรีนั้นเรียบง่าย

ขึ้นต้นด้วยฝีมือเกากีตาร์ชั้นเทพของ “พี่เล็ก”

ตามมาด้วยเสียงร้องนุ่มๆ ของ “พี่เทียรี่”

ดนตรีฉากหลังที่เน้นความเป็นอคูสติกกับเครื่องสาย ให้บรรยากาศล่องๆ ลอยๆ ชวนฝัน เหมือนอย่างที่ต้องการ

เป็นหนึ่งในไม่กี่เพลงที่ “ไม่ใช่สามช่า” แล้วติดหูขึ้นอันดับเพลงฮิตเบอร์ต้นๆ ของคาราบาว

เป็นโฟล์กร็อกไทยที่ดีที่สุดเพลงหนึ่ง

(สำหรับคนเขียนนะครับ)

คาราบาวแต่งเพลงนี้ขึ้นมา 1 ปี หลังจากอัลบั้ม “ทับหลัง” วางตลาด แล้วผงาดขึ้นมาเป็นวงดนตรีหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย (ในขณะนั้น)

คิวเดินสายถี่ยิบ ชนิดที่แทบไม่น่าเชื่อว่ายังจะมีเวลาผลิตเพลงใหม่เข้าห้องอัดได้

และคิวที่ว่านั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในประเทศ

แต่มีรายการจองตัวให้ไปโชว์จากชุมชนคนไทย (และเพื่อนบ้านที่ฟังคาราบาว) ในต่างประเทศ ชนิดข้ามโลก

หนึ่งในนั้นก็คือรายการทัวร์สหรัฐอเมริกาในปี 2528

ในนามของการปลุกระดมให้เกิดการทวง “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” กลับจากสหรัฐ

(ที่ทำให้คนตะโกน เอาไมเคิล แจ๊คสัน คืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา กันทั่วเมือง)

การเดินทางได้รับการสนับสนุนจาก “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ

เพื่อสนองการสมนาคุณราคาแพงนี้ คาราบาวก็แต่งเพลง “รักคุณเท่าฟ้า” ที่เป็นสโลแกนของการบินไทยให้เป็นการตอบแทน

ถามว่าคุ้มไหม

สำหรับการบินไทยน่ะคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

คาราบาวบินฟรีอยู่รอบเดียว

แต่เพลงอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน

และถึงจะไม่มีการบินไทย หรือการบินไทยเปลี่ยนรูปแปลงโฉมไป

เพลงรักคุณเท่าฟ้าก็ยังติดหูคนฟังต่อไป

ที่เลือกเพลงนี้และบอกว่าย้อนแย้งก็เพราะอย่างนี้ล่ะครับ

ในวันที่การบินไทยอุดหนุนคาราบาวและได้เพลงนี้มาเป็นการตอบแทน

สถานะของสายการบินแห่งชาติคือ แอร์ไลน์เบอร์ต้นๆ ของโลก

จัดอันดับหนไหน ถ้าไม่ใช่ 1 ใน 3 ก็ 1 ใน 5

แต่วันนี้ ถามว่ารูดไปอยู่อันดับไหน

เห็นจะไม่ต้องตอบ

ผลประกอบการที่เคยเป็นกำไร ถึงวันนี้กลายเป็นขาดทุนท่วมหัวท่วมหู

ชนิดที่ถ้าไม่มีเงินจากรัฐบาลเข้าไปอุด

ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการให้กู้ ค้ำประกัน ไปจนถึงเพิ่มทุนใหม่

ก็ล้มละลายได้เลย

จะไม่ล้มละลาย นอกจากได้เงินใหม่เข้าไปอัดฉีดแล้ว ยังต้อง “ผ่าตัดใหญ่”

อย่างน้อยพนักงานต้องหายไปร้อยละ 40 (เท่ากับมาตรฐานของสายการบินระดับต้นๆ ของโลก)

สัดส่วนของคณะกรรมการก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ไม่ใช่ทหาร-ราชการคุม จนแข่งกับใครไม่ได้ ไปไหนไม่เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้

ระเบียบอะไรที่งุ่มง่ามล้าหลัง ความเป็นรัฐวิสาหกิจที่อืดอาดก็ต้องปลด

ฯลฯ

สรุปคือต้องผ่าใหญ่ทั้งหมดนั่นแหละครับ

และต้องรับฟังเสียงชาวบ้านในฐานะ “เจ้าของเงิน” ที่จะเข้าไปอุ้มด้วย

ไม่อย่างนั้นถึง

“หากคุณบิน บินไปได้ดั่งนก
ยามเมื่อคุณ บินไปในนภา
ยามเมื่อคุณ ล่องลอยบนฟากฟ้า
มองลงมา เบื้องล่างยังพื้นดิน”

ก็อาจจะไม่เห็นว่า

“โลกมนุษย์ แสนกว้างใหญ่เหลือเกิน
ยิ่งมองยิ่งเพลิน จำเริญหัวใจ”

เพราะ

“อันความเป็นจริงที่มองเห็นมาจากฟ้าเบื้องบน
ฟ้าอยู่ค้ำคน คนไม่อยู่ค้ำฟ้า”

เหมือนกันนั่นละครับ

ไม่มีใคร-องค์กรไหนอยู่ค้ำฟ้าได้

แค่จะอยู่ให้ได้ ก็ต้อง “ปรับตัว” ให้เป็นแล้ว

หลักการเอาชีวิตรอดมีง่ายๆ เท่านี้เอง

รักคุณเท่าฟ้านะ

รักคุณเท่าฟ้า – คาราบาว
http://www/youtube.com/watch?v=kzVRZlaJ15w

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image