คอลัมน์ เล่าเรื่องหนัง : History 101 ประวัติศาสตร์ของโลกสมัยใหม่

ภาพประกอบ Youtube Video/Netflix

การเรียนรู้ความจริงในอดีตทั้งของมนุษย์และของโลก ย่อมทำให้เราได้เห็นความจริงทั้งด้านดีและร้ายและตระหนักว่าเราจะไม่ย้อนกลับไปทำผิดอีกครั้งหรือไม่ หรืออันที่จริงประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่า มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้อะไรจากมันเลย นี่คือเรื่องราวที่ซีรีส์สารคดี History 101Ž ชวนตั้งคำถามผ่านสารคดีแต่ละตอนในซีรีส์ชุดนี้

สารคดีความยาว 10 ตอน ที่ทำให้เราเข้าใจโลกปัจจุบันชัดเจนขึ้น ได้เห็นว่าเรื่องราวต่างๆ มีพัฒนาการมาอย่างไร และเปลี่ยนแปลงไปเพราะอะไร และวันนี้เราอยู่ส่วนไหนของเรื่องราวเหล่านี้

ใน History 101 คือการคัดเลือกเรื่องราวสำคัญของโลก โดยเน้นไปที่ประเด็น วาระสากลŽ ที่เชื่อมโยงกับโลกสมัยใหม่ โดยแต่ละตอนใช้เวลาเล่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20-22 นาที และเก็บสาระหลักของเรื่องไว้ด้วยวิธีเล่าที่น่าติดตาม ทั้งฟุตเทจเก่า ผสมด้วยวิดีโออินโฟกราฟิกที่มีวิธีเปรียบเปรยให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ เห็นภาพ และจดจำได้

แต่ละตอนจึงมีประโยชน์ทั้งระดับการให้ความรู้ ปูพื้นฐาน สร้างมุมมอง ทบทวนและมองอนาคตของโลกใบนี้และมนุษยชาติ ผ่านการตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องที่เลือกมานำเสนอเป็นประวัติศาสตร์ 101 นั้น คือเรื่อราวร่วมสมัยที่จะเป็น เทรนด์สำคัญของโลกŽ ต่อไป

Advertisement


อย่างตอน ฟาสต์ฟู้ดŽ คือการย้อนไปยังจุดกำเนิด อาหารฟาสต์ฟู้ดครั้งแรกในโลก ไปจนถึงการลำดับเรื่องให้เห็นถึงพัฒนาการของอาหารฟาสต์ฟู้ดที่กลายเป็นทั้งแบรนด์สินค้าส่งออกหลักและวัฒนธรรมหลักในแบบอเมริกันสไตล์ที่กระจายไปทั่วโลก ผ่านช่วงรุ่งโรจน์สุดขีดจนถึงช่วงปรับตัวกับการเผชิญวิกฤตคำถามว่าเป็นต้นเหตุปัญหาสุขภาพเกินเยียวยาของผู้คนในโลกสมัยใหม่หรือไม่ ลงเอยที่กลับมาพูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเทรนด์อาหารฟาสต์ฟู้ดในอนาคตที่อาจจะเข้าสู่ยุค เนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชŽ แทน

กระทั่งที่ว่าฟาสต์ฟู้ดคือหนึ่งในสัญลักษณ์ของธุรกิจ ทุนนิยมŽ เพราะในแง่ของความเป็นธุรกิจอาหาร และสร้างอิทธิพลต่อวงการอาหารตั้งแต่ยุคทศวรรษ 50 เป็นต้นมา แผ่ขยายอิทธิพลสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ยุค 80-90 กลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการบริโภคของโลกสมัยใหม่ไปในที่สุด

ในซีรีส์ยังมีตอนที่เล่าถึงพัฒนาการของโลกสมัยใหม่ที่อยู่บนพื้นฐานการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลายตอน อาทิ ตอน หุ่นยนต์Ž ที่หากบอกว่าการพัฒนาและเทคโนโลยีในโลกใบนี้กำลังก้าวหน้าอย่างมากมาย ทั้งปัญญาประดิษฐ์ และยุคหุ่นยนต์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า เหล่านี้เคยเป็นเรื่องราวในจินตนาการและภาพอนาคตแบบความฝันผ่านนิยายและหนังไซไฟ แต่วันนี้เราได้เห็นว่ามันกำลังเป็นความจริงขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

ความสามารถของเอไออันไร้ขีดจำกัดที่จะเข้าสู่ ภาวะเอกฐานŽ หรือ Singurality หมายถึงจุดที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีก้าวข้ามความสามารถของมนุษย์จนสามารถแข่งขันกับมนุษย์ได้ นั่นคือหุ่นยนต์หรือเอไอที่จะมีทักษะแซงหน้าและแข่งกับมนุษย์มาถึงจุดที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว

แต่ความฝันอันสุดทะเยอทะยานที่เสี่ยงและก้าวไกลที่สุดของมนุษยชาติในขณะนี้ คือการเดินทางไปดาวอังคาร และสามารถสร้างชุมชนบนดาวใหม่นี้ได้ เป็นภารกิจที่ยากยิ่งกว่าไปดวงจันทร์หลายร้อยเท่า ลำพังแค่ห้วงเวลาการเดินทางจากโลกไปดาวอังคารก็ระยะไกลกว่าดวงจันทร์ถึง 160 เท่า และใช้เวลาถึง 8 เดือนในการเดินทาง ซึ่งเรื่องราวนี้จะถูกเล่าผ่านตอนที่ชื่อ การแข่งขันพิชิตอวกาศŽ ซึ่งจะปูพื้นความเป็นมาของภารกิจท่องอวกาศนับตั้งแต่สหรัฐกับโซเวียตในขณะนั้นต่างแข่งขันกันส่งยานอวกาศขึ้นไปนอกโลก ตั้งแต่บินโคจรรอบโลกครั้งแรกได้สำเร็จ ไปจนถึงเมื่อมนุษย์คนแรกเหยียบดวงจันทร์ ความก้าวหน้านี้หากย้อนรอยดูจุดเริ่มต้นก็มาจาก ความกลัวŽ ระหว่างกันของสหรัฐและโซเวียตในยุคสงครามเย็น ภารกิจทางด้านอวกาศแรกเริ่มจึงเป็นการตอบสนองต่อภัยคุกคามจากศัตรู แต่เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์ก็พบว่าภัยคุกคามต่างๆ ที่ทำให้โลกใบนี้กระทบกระเทือนอย่างหนักคือปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษยชาติบนโลกใบนี้ ดังนั้นการแข่งขันพิชิตอวกาศครั้งต่อไปจึงอาจไม่ใช่เพียงการแข่งขันระหว่างประเทศเช่นในอดีต แต่อาจเป็นการ แข่งกับเวลาŽ ของมนุษยชาติบนโลกใบนี้ผ่านการเดิมพันไปให้ถึงดาวอังคารนั่นเอง

History 101Ž ยังได้ตั้งชุดคำถามที่สำคัญผ่านหลายๆ ตอน นั่นคือ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะช่วยทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น แต่ด้านหนึ่งก็มีภัยเงียบที่แฝงตัวกับความก้าวหน้านี้ตามมาด้วยหรือไม่ อาทิตอน พลังงานนิวเคลียร์Ž ที่พาไปดูเรื่องราวนับตั้งแต่อดีตที่ภาพจำอันเลวร้ายของโลกต่อการพัฒนานิวเคลียร์เริ่มต้นจากการสู้รบและใช้ในทางสงคราม ก่อนที่ต่อมาจะพัฒนานิวเคลียร์ในเชิงประโยชน์ทางด้านพลังงาน ซึ่งปัจจุบันพลังงานไฟฟ้ากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของโลกมาจากพลังงานนิวเคลียร์


ปัจจุบันมีหลายประเทศที่เดินหน้าสร้างโรงพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำคัญ แต่ด้านหนึ่งทั้งขยะกัมมันตรังสี และอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่เคยเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในประวัติศาสตร์โลกสะท้อนว่ามนุษย์กำลังจะหาทางใช้พลังงานนิวเคลียร์ในเชิงสร้างสรรค์ หรืออีกด้านเรากำลังเล่นอยู่กับไฟหรือไม่

และในตอน พันธุศาสตร์Ž ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายใน 10 ตอนของซีรีส์ชุดนี้ ได้ย้อนกลับมาที่จุดตั้งต้นแรก พูดถึงต้นกำเนิดของมนุษย์ในระดับชีวภาพและโมเลกุลที่นำมาสู่การศึกษาเรื่อง ดีเอ็นเอŽ ซึ่งดีเอ็นเอได้กลายมาเป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจโรค ไขคดีอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย ต่อยอดมาที่มนุษย์ได้ศึกษาลงลึกเรื่องพันธุศาสตร์จนสามารถเข้าไปตัดต่อพันธุกรรมพืช สัตว์ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพจนกลายเป็นความไม่ไว้วางใจต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้
กระทั่งขยายมาสู่การศึกษาพันธุศาสตร์ในตัวมนุษย์เอง ด้านหนึ่งมันคือการทดลองสำคัญที่ทำให้มนุษยชาติก้าวสู่การมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้น แต่ด้านหนึ่งความก้าวหน้าที่รวดเร็วนี้ก็ชวนตั้งคำถามว่า เรากำลังทำอะไรพลาดไปหรือไม่Ž

มนุษย์กำลังเข้าไปแตะต้องสิ่งต้องห้ามบางอย่างทางธรรมชาติหรือไม่…

เหล่านี้เป็นตัวอย่างเรื่องเล่าในซีรีส์สารคดี History 101 ซีรีส์ที่ปูพื้นฐานความรู้สำคัญที่จะนำไปสู่การตั้งคำถามและสร้างมุมมองต่อโลกสมัยใหม่ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมมากขึ้น โดยใช้ช่วงเวลากลางทางของศตวรรษที่ 21 เป็นจุดตั้งต้นของคำถามสำคัญที่ว่า มนุษย์ได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์เหล่านี้มากน้อยเพียงใดŽ

แต่ละเรื่องราวที่ถูกเล่าใน History 101 จึงไม่ใช่การกล่าวโทษหรือเพียงแต่ชี้ปัญหาเท่านั้น แต่มันได้บอกให้เราเห็นถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในโลกจากนี้ไปอีก 20-30 ปี ข้างหน้า เมื่อมองเรื่องราวเหล่านี้ย้อนไปตั้งแต่ที่มาในอดีต ปัจจุบัน และคาดการณ์ถึงอนาคต

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image