| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | เมตตา ทับทิม [email protected] |
| เผยแพร่ |
วันนี้หายตัวแว่บไปดูอสังหาริมทรัพย์เมืองแม่สอดกันเถอะ
ถ้าติดตามข่าวช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบอกว่าจะทำเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อทำให้คนท้องถิ่น โดยเฉพาะคนตามจังหวัดชายแดนได้ลืมตาอ้าปาก เงินสะพัดจากการค้าการลงทุน พิมพ์เขียวทำไว้ 12 แห่ง 12 จังหวัดทั่วไทย
โฟกัสเฉพาะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เอ่ยชื่อจังหวัดนี้มาคนหนุ่มคนสาวจะนึกถึงน้ำตกทีลอซู คนทำมาหากินจะนึกถึงด่านชายแดน เพราะมีการค้าขายเป็นล่ำเป็นสัน
เห็นบอกว่าสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ซึ่งก็คือด่านหลักในปัจจุบัน เปิดใช้ครบ 20 ปี ในเดือนสิงหาคม 2560 ปริมาณค้าขายที่เคยมีแค่ปีละ 300 ล้านบาท ตอนนี้ร่ำๆ จะทะลุ 8 หมื่น-1 แสนล้านบาทแล้ว เฟื่องขนาดไหน
ด้านการท่องเที่ยวก็ไม่ขี้เหร่ ทาง ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) บอกว่าตากจังหวัดเดียวมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งคนไทย ต่างชาติปีนี้ 6 พันล้าน
แถมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 ชื่อเป็นทางการคือสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ก่อสร้างคืบหน้าเป็นลำดับ ใกล้เกิดใช้จริงเต็มแก่
โอวว์ บุดดา อะไรจะเริ่ดได้ปานนั้น มีแต่ข่าวดี
ข้อเท็จจริงที่ไปเจอ แม่สอดตัวเมืองก็ไม่ได้เล็ก แต่บรรยากาศเหงากว่าที่คิด
คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าถิ่น ทั่นบอกว่ามรดกที่รัฐบาลทิ้งไว้ให้ตอนนี้คือ ราคาที่ดินแพงหูฉี่ บ้างก็บอกว่าที่ดินริมถนนสายหลักในเขตตัวอำเภอ เคยซื้อหาได้ไร่ละ 14 ล้าน วันนี้ต้องควักจ่ายไร่ละ 30 ล้าน ราคาถีบตัวขึ้นมาเท่าตัวภายใน 8 ปี
บ้างก็บอกว่า ทำเลนอกตัวอำเภอเคยซื้อขายวาละ 500 บาท ตอนนี้กลับไปถามซื้อ โน่นเลยดีดราคาขึ้นเป็นวาละ 1,000 บาท สูงขึ้นเท่าตัวภายใน 15 ปี
วาละ 500 เป็นวาละ 1,000 บาท ไม่ใช่ราคาที่น่าตกใจ แต่อัตราการเพิ่มราคาถือว่าเร็วพอสมควร
ที่สำคัญ โครงการที่รัฐบาลสัญญาว่าจะทำแต่ยังไม่เป็นรูปธรรม ไปสร้างดีมานด์เทียมให้กับกลุ่มนักเก็งกำไร พากันกว้านซื้อที่ดินตุนไว้ในมือ คนแม่สอดก็เลยบ่นกะปอดกะแปดว่าราคาที่ดินแพงอ่ะ จับไม่ลง
เราเลี้ยวเข้ามุมการท่องเที่ยวกันสักเล็กน้อยดีกว่า มีอันซีนเยอะแยะไปหมด อย่างเช่น ทุ่งดอกกะเจียวสีส้ม พันธุ์พิเศษในแต่ละปีมีให้ชมแค่ 3 เดือน อยู่บนอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ
มีสวนทุเรียน 2,500 ไร่บนดอย ตามไปชิมแล้ว อุ๊ยตาย หมอนทองกลิ่นไม่ฉุน สีเหลืองนวล เนื้อมันๆ รสชาติผู้ดีๆ เด็กวัยรุ่นชื่อ ?บักจ่อย? ยังชมเปาะว่าอร่อย
อีกเรื่องที่ไม่ไปไม่รู้จริงๆ แม่สอดอยู่ใกล้ทะเลแค่ 100 กว่ากิโลเมตร แต่เป็นทะเลอันดามันฝั่งพม่า คนแม่สอดคงอยากจะโด๊ปการท่องเที่ยว แย่งกันอธิบายให้ฟังว่า อาหารทะเลบนดอยขึ้นชื่อเรื่องความสด บริสุทธิ์ ไม่มีสารเคมี คนที่เคยแพ้อาหารทะเลกินแล้วนิ่งมาก ไม่เป็นอะไรเลย
และด้วยความที่จังหวัดตากเป็นจังหวัดชายแดนสำคัญระหว่างไทย-พม่า ก็เลยมีศูนย์ช่วยเหลือนานาชาติ จึงมีฝรั่งมังค่า และจิตอาสาหลากหลายเชื้อชาติเดินเข้า-ออก ทำให้สะพัดมากเรื่องสถานที่พักค้างคืน โดยมีโรงแรมให้เลือกตั้งแต่คืนละ 500-2,000 บาท
ไฮไลต์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวข้ามแดน อยากไปต่างประเทศก็มาทำใบผ่านแดนที่ด่าน เช่ารถชมเมืองเมียวดี แวะไหว้พระดัง 4-5 วัด ขากลับช้อปปิ้งดิวตี้ฟรีของ “คุณแม็กกี้”
ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์จนเพลิน อุตส่าห์ทากาวตราช้างบนกระเป๋าตังค์ไว้แล้ว ตั้งใจว่าจะไม่ช้อปอะไรทั้งสิ้น แต่ก็ยังอดใจไม่ไหวควักสตางค์สอยรถจักรยานมือสองมาปั่นออกกำลังกาย เพราะถ้ามีเวลาเลือกดีๆ เพลินๆ โกดัง 9 ของเฮียกวง กับโกดัง 10 มีให้เลือกตาแฉะ
กลับมาเข้าเรื่องอสังหาฯ กันต่อดีกว่า ด้วยความที่รัฐบาลสัญญาอะไรไว้เยอะแยะ คนก็เลยคิดว่าจะบูม พากันแห่มาลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมไว้สัก 10 โครงการ แทบทั้งหมดเป็นตึกเตี้ยหรือคอนโดโลว์ไรส์ สูง 5-7-8 ชั้น ราคา 1-2 ล้าน ที่ประหลาดคือส่วนใหญ่คนนอกพื้นที่ทั้งนั้นที่ไปลงทุน
สนนราคาคอนโดฯ ไซซ์ห้อง 30 ตารางเมตร ตกห้องละ 1.6-1.7 ล้าน เฉลี่ยอยู่แถวๆ ตารางเมตรละ 5-7 หมื่นบาท
ถนนสีลมในอำเภอแม่สอดน่าจะเป็นเส้นแม่สอด-ตาก สายหลักที่วิ่งเชื่อมเข้าสะพานเมย 1 ตรงหน้าสนามบินก็ใช่ (แอบกระซิบว่าร้านลาบ คช.34 ต้องเช็กอินให้ได้ ขอบอก)
เข้าใจว่าทยอยเปิดขายตั้งแต่ปี 2558 ทำให้ปีนี้ เพ-ลานี้ทยอยสร้างเสร็จ แวะเข้าไปเยี่ยมสำนักงานขาย 3-4 โครงการ อืมม… เหลือขายทุกเจ้า ทั้งๆ ที่แต่ละตึกมีไม่เกิน 80 ห้อง (เป็นเทคนิคไม่อยากไปวุ่นวายทำรายงานสิ่งแวดล้อมหรือ EIA)
แม้ตลาดอสังหาฯแม่สอดไม่เยอะ มีมูลค่าไม่ถึงปีละ 1 พันล้านบาท แต่เนื่องจากมีสต๊อกทำให้ต้องแข่งขันกันจัดโปรโมชั่นเป็นธรรมดา ที่เห็นแว่บๆ ก็คือ การันตีผลตอบแทนค่าเช่า 5-6% รับฝากขายฝากเช่าอีกต่างหาก
อสังหาฯ มหาสนุกมากไปกว่านั้นอีก ตอนมาลงทุนส่วนใหญ่ตั้งเป้าขายให้กับลูกค้านักลงทุนหรือนักธุรกิจที่จะมาทำมาค้าขายที่ด่านชายแดนหรือมาทำงานในเขตเศรษฐกิจ เอาเข้าจริงลูกค้าหลักกลายเป็นคนมีสตางค์พากันมาซื้อดักอนาคต หวังจะมีห้องชุดไว้ปล่อยเช่า
ลูกค้าจากพม่าที่ตอนแรกคิดเหมือนกันหมดว่าจะเป็นดีมานด์หลัก ของจริงที่ได้มาคือดีมานด์หลอกเพราะมีจำนวนน้อยมาก พฤติกรรมลูกค้าพม่าแม้มีข้อดีคือใช้เงินสด ยังไม่นิยมบัตรเครดิต และคอนโดฯมีกฎหมายไทยบอกว่าต่างชาติซื้อได้ 49%
หากแต่พ่วงออปชั่นไว้ด้วยว่า ต่างชาติคนดังกล่าวต้อง 1.มีสตางค์ และแสดงแจ้งการได้มาของเงินอย่างถูกต้อง 2.มีเวิร์กเพอร์มิตหรือใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย 3.ต้องมีแหล่งพำนักในประเทศไทย
นั่นหมายความว่า แรงงานต่างด้าวข้ามฝั่งเมย ลำพังคิดจะถือพาสปอร์ตพม่าเดินลอยชายเข้ามาช้อปคอนโดฯได้ทันที กลายเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าที่คิด
ทำให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หวังว่าจะมาซื้อเต็มโควต้าห้องชุด 49% ก็เลยหมดสิทธิ กลายเป็นว่ามีกลุ่มนักลงทุนฮ่องกง ไต้หวัน ที่มาซื้อ สัดส่วน 10-20% แบบนี้เรียกว่าผิดฝาผิดตัวกันไกลโขทีเดียว
วันนี้ฟุ้งฝอยเยอะ ต้องสรุปแล้ว โอกาสอสังหาฯ ยังเปิดกว้างเพราะถึงยังไงก็เป็นทำเลมีศักยภาพสูงตามที่ธรรมชาติให้มา
สำหรับคุณแฟนคลับ แนะนำให้มาเยือนแม่สอดสักครั้งในชีวิต ถือซะว่าเป็นทริปเช็กอินเที่ยว 2 ประเทศ เก็บไว้อำกันขำๆ ในหมู่เพื่อนฝูง ไม่ต้องคิดอะไรมาก
บัย
