ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
จีนกับไทย มีการติดต่อค้าขายใกล้ชิดกันราว 1,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ไทย จนกลายตนเองเป็นไทย ดังพบร่องรอยชุมชนจีนเก่าแก่ แม่น้ำท่าจีน
สมุทรสาคร ราวกลางปี 2554 ขณะอยู่บนถนนต้นทางสายมหาชัย-กระทุ่มแบน ผมนั่งรถตู้ของมติชนผ่านตลาดปากซอยโลตัส เห็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ขึ้นป้ายชื่อ “เล่งเกียฉู่”
ตรงกับชื่อในเอกสารจีนที่นักปราชญ์ไทยและเทศอธิบายว่าเป็นชื่อเมืองโบราณ อ.เมืองฯ จ.นครปฐม (ยุคทวารวดี) ว่า เล่งเกียฉู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหลั่งยะสิว ตามคำอธิบายของ อ.มานิต วัลลิโภดม กับ อ.ศรีศักร วัลลิโภดม (ยังมีข้อถกเถียงไม่ยุติเกี่ยวกับตำแหน่งของหลั่งยะสิว เพราะถูกยกไปรวมเป็นลังกาสุกะทางภาคใต้ ซึ่งเป็นคนละแห่ง)
เล่งเกียฉู่ ย่านลูกหลานมังกร
เล่งเกียฉู่ หมายถึง ย่านลูกหลานมังกร (ตีความโดยสรุปจากคำแปลของผู้รู้ภาษาจีน 2 ท่าน ซึ่งผมเคยอ้างถึงนานแล้วในมติชนรายวัน) เป็นชุมชนจีนเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่สมุทรสาครขึ้นไปถึงนครปฐม และสุพรรณบุรีกับชัยนาท
เท่ากับเมืองจีนเป็นมังกรตัวพ่อ (ถ้าเชื่อว่าจริงตามคำแปลจากคำบอกเล่ามีในเอกสารจีน) ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนในไทยเป็นมังกรลูกหลาน
แสดงว่าจีนมองเห็นดินแดนแถบนี้อยู่ในอารักขามาตั้งแต่เริ่มแรกมีการค้าโลก (ยุคทวารวดี) ทั้งนี้เพื่อควบคุมเส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทร บริเวณต้นน้ำแม่กลอง (กาญจนบุรี) จนถึงช่องสิงขร (ประจวบคีรีขันธ์)
ดังนั้น จีนจึงอุดหนุนรัฐสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) กับรัฐเพชรบุรี (เพชรบุรี) มีอำนาจถึงรัฐนครศรีธรรมราช (นครศรีธรรมราช) กระทั่งได้ครอบครองรัฐอยุธยาให้เป็นศูนย์การค้านานาชาติ ราชอาณาจักรสยามแห่งแรก
สยาม
พื้นที่สองฟากแม่น้ำท่าจีน เป็นส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง ซึ่งอยู่ฟากตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาถูกเรียกจากนานาชาติว่าสยาม มีศูนย์กลางอยู่สุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) ที่เจ้านายใกล้ชิดสนิทสนมกับจักรพรรดิจีน (ปักกิ่ง)
[ขณะนั้นฟากตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นละโว้ มีศูนย์กลางอยู่ลพบุรีใกล้ชิดเป็นเครือญาติกษัตริย์กัมพูชา]
ดินแดนสยามมีประชากรพูดภาษาต่างๆ เป็นชาวสยาม (ลูกผสมร้อยพ่อพันแม่) พูดภาษาต่างๆ แต่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษากลางทางการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนทางการค้ากับดินแดนภายในถึงลุ่มน้ำโขง และลุ่มน้ำสาละวิน
ชาวสยามเหล่านี้ต่อไปจะเรียกตนเองว่าไทย ล้วนเป็นบรรพชนคนไทยสืบมาจนปัจจุบัน
บ้านท่าจีน สมุทรสาคร
ย่านลูกหลานมังกร หรือเล่งเกียฉู่ จึงเป็นที่รับรู้อยู่ในความทรงจำ แล้วบอกเล่าสืบเนื่องถึงยุคต้นอยุธยา และบ้านท่าจีนเป็นชุมชนคนจีนน่าจะเติบโตขึ้นช่วงเวลานี้ บริเวณชุมทางปากน้ำท่าจีนกับคลองสุนัขหอนเชื่อมไปแม่น้ำแม่กลอง ดังมีวัดใหญ่จอมปราสาทเป็นหลักหมายสมัยต่อมา
ท่าฉลอม (ได้ชื่อจากเรือฉลอมขนสินค้า) อยู่ใกล้ปากน้ำท่าจีน เป็นทำเลเหมาะสมการขนถ่ายสินค้าสมัยก่อน มีภูมิประเทศเป็นคุ้งน้ำคล้ายหัวมังกร จึงเรียกพื้นที่แถบนี้ด้วยความทรงจำว่าเล่งเกียฉู่ [มีในงานวิจัยเรื่อง สาครบุรีฯ ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) กำลังจัดพิมพ์เป็นเล่ม จะเสร็จเร็วๆ นี้]
หัวมังกรอยู่ท่าฉลอม-มหาชัย จ.สมุทรสาคร ส่วนลำตัวและหางก็พาดขึ้นไปทางเหนือตามความคดเคี้ยว (เหมือนเงี้ยวงู) ตลอดสายถึงต้นทางของแม่น้ำท่าจีน