ที่มา | คอลัมน์ฟิสิกส์ธรรมดา สาระมันส์ |
---|---|
ผู้เขียน | อาจวรงค์ จันทมาศ |
เผยแพร่ |
ถาม: คิดอย่างไรกับการที่คนทั่วไปมีทัศนคติต่อวิทยาศาสตร์ว่าเป็นคณะที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อประเทศ?
ตอบ: ก่อนอื่นผมจะค่อนข้างระมัดระวัง ไม่คิดเอาเองว่าว่าคนทั่วไปหรือคนส่วนมากคิดอย่างไรเพราะเวลาผมเจอการปฏิบัติตัวของคนรอบข้าง แวบแรกผมมักจะเผลอเหมารวมว่าคนส่วนมากเป็นแบบนั้น
งานที่ผมทำคือการสื่อสารความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ให้คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจความสำคัญของวิทยาศาสตร์ให้เข้าใจ รวมทั้งทำให้น้องๆที่รู้สึกแย่กับการเรียนวิทยาศาสตร์ให้รู้สึกดีและมีทัศนคติที่ดีขึ้น
ผมว่าเป็นเรื่องปกติ ที่คนเราจะไม่เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์นั้นสำคัญอย่างไร เช่นเดียวกับที่หลายคนก็ไม่เข้าใจว่าศิลปะสำคัญอย่างไร การออกแบบสำคัญอย่างไร โบราณคดีสำคัญอย่างไร วรรณกรรมสำคัญอย่างไร แฟชั่นสำคัญอย่างไร ฯลฯ
ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้คลุกคลีกับงานในวงการนั้นๆ และ เราใช้ชีวิตกับเรื่องของเราจนไม่ได้มองภาพรวมหรือสาขาวิชารอบข้างว่ามันน่าสนใจหรือมีความสำคัญอย่างไร
ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกแย่หรือเดือดร้อนอะไรกับการที่หลายคนไม่รู้และไม่เข้าใจความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ส่วนหนึ่งเพราะมันก็เป็นหน้าที่ผมที่ต้องทำให้พวกเขาเข้าใจอยู่แล้ว
ถาม : พี่มีแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้ไม่รู้สึกท้อเวลาเรียน?
ผมมองว่าการเรียนรู้นั้นคล้ายๆกับการขุดดิน เวลาเราเรียนรู้อะไรสักอย่างอย่างลึกซึ้ง มันเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะต้องชนชั้นดินแข็งๆที่ยากต่อการขุดเจาะให้ทะลุ
พอเจออะไรแข็งๆแบบนี้มันก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะรู้สึกท้อ เหนื่อย อยากพัก ดังนั้นมันก็ต้องพักเอาแรงก่อน แต่ขอให้ระลึกไว้ว่าการที่เราท้อนั้นเป็นสัญญาณที่ดีเพราะเรากำลังเจออุปสรรค์แข็งๆที่เมื่อเราผ่านไปได้ เราจะเก่งขึ้นอีกขั้น คนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆนั้นไม่ค่อยท้อกับอะไรหรอก
ดังนั้นการท้อนั้นจึงเป็นเรื่องดี แต่ในระหว่างนี้เราอาจต้องใช้ศิลปะสามประการในการดึงดูดกำลังใจ
อย่างแรกคือ การปล่อยวาง อย่าไปสนใจเสียงรอบข้างที่ทำให้เราหมดกำลังใจ มีทั้งคนที่เคยผ่านอุปสรรค์นั้นมาแล้ว แทนที่จะให้กำลังใจเรากลับโอ้อวดสรรพคุณจนบางทีเราท้อใจยิ่งขึ้น และคนที่ถอดใจพ่ายแพ้กับอุปสรรคต่างๆจนชวนคนอื่นให้เสียกำลังใจไปด้วยก็มี
ถ้ายังไม่แข็งแกร่ง ก็ไม่ควรไปสุงสิงกับมนุษย์ประเภทนี้มาก
อย่างที่สอง คือ การนึกถึงครอบครัวและคนที่เราต้องดูแลรับผิดชอบ รวมทั้งหนี้สินต่างๆ จะทำให้เรามีกำลังใจประเภทแรงฮึดถีบทะยานขึ้นมาได้
อย่างที่สาม คือ การนึกถึงตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนาคตของตนเอง
ผมว่าถ้าเรานึกถึงอนาคตที่ตัวเราสำเร็จในด้านต่างๆ นอกจากจะช่วยให้เรามีพลังใจแล้วยังช่วยให้เรามีทิศทางในการทำงานหรือพัฒนาตัวเองอีกด้วย