คอลัมน์ เริงโลกด้วยจิตรื่น : นิยาม ‘ปัญญา’ ที่เปลี่ยนไป

โลกปัจจุบันที่เคลื่อนไปด้วยสังคมออนไลน์ คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยมีช่องทางที่จะบอกกล่าวความรู้ ความคิด และความรู้สึกไปถึงกันและกันได้ตลอดเวลา แทบไม่มีข้อจำกัดหรืออุปสรรคด้วยเวลาและพื้นที่เหมือนที่เคยเป็นมา

และไม่เพียงแค่สื่อสารระหว่างคนต่อคนเท่านั้น ยังต่อเชื่อมให้ได้รับรู้แบบสาธารณะ นั่นคือใครก็เข้ามารู้ได้ และบ่อยครั้งที่แม้ไม่อยากรู้ แต่ยังรับรู้

สังคมเช่นนี้เองที่ทำให้ได้เห็นว่า ชีวิตมนุษย์ที่เคลื่อนไปในโลกในปี ยากอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง อยู่ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ หรืออย่างน้อยความขัดแย้งหากเกิดขึ้นจะเป็นเพียงการแย่งชิงกันชั่วขณะ เฉพาะหน้าเฉพาะเรื่องเหมือนการต่อสู้ของสัตว์อื่นที่อาจจะเป็นแค่เรื่องการแย่งชิงอาหาร หรือแย่งชิงคู่เพื่อสืบพันธุ์

แต่มนุษย์เราไปไกลกว่านั้นมากมาย เหมือนว่าส่วนลึกแล้วจะกลับมามีไมตรีที่แท้ต่อกันไม่ได้แล้ว

Advertisement

จนกระทั่งมีความเชื่อว่าคนเรามีสัมพันธ์ และอยู่ร่วมกันได้ด้วยต่างคนต่างหวังในผลประโยชน์ที่จะได้จากความสัมพันธ์ และการอยู่ร่วมกันนั้น

มิตรภาพ เป็นเพียงหน้ากากที่ใส่ไว้เพื่อปกปิดความปรารถนาที่แท้จริงในจิตใจ

เหตุผลที่เป็นจุดเริ่มของความขัดแย้ง ช่วงชิง จึงมีมากมายและถูกซ่อนเร้นไว้

Advertisement

รู้ได้ยากว่าอะไรทำให้ต้องขัดแย้งกับคนอื่น อย่าว่าแต่คนที่มาสัมผัสสัมพันธ์ไม่รู้ไม่เข้าใจเลย บ่อยครั้งแม้กระทั่งตัวเองยังมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นแรงกระตุ้นภายในที่ผลักดันให้ต้องไปจ้องไปทำร้าย ทำลาย ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมโลก

แรงผลักดันนั้นได้กลายสัญชาตญาณที่แม้กระทั่งตัวเองก็ไม่ชัดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

มีคนจำนวนมากมายที่ไม่คิดจะรับรู้

ต่างคนต่างมอง ต่างวิเคราะห์คนอื่น แล้วมาหาทางที่จะทำให้ตัวเองเหนือกว่า ได้เปรียบกว่า

บ่อยครั้งสิ่งที่สร้างเพื่อให้เกิดความเหนือกว่า ได้เปรียบกว่านั้นไม่ใช่การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แต่เป็นการทำลายให้คนอื่น หรือคนที่ต้องการเอาชนะแย่ลง

บ่มเพาะจิตใจทำลายล้าง จนกลายเป็นนิสัยสะสมที่ยากจะเปลี่ยนแปลง

โลกที่เคลื่อนไปด้วยพลังของกระแสจิตสำนึกเช่นนี้ จึงโกลาหล อลหม่าน

ต่างคนต่างแสวงหาวิชาความรู้ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นผู้เหนือกว่า ได้เปรียบกว่า

โลกเต็มไปด้วยการอบรมสั่งสอนให้มีความเชี่ยวชาญในวิชาเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษาของทางการ ที่ปลูกฝังกันตั้งแต่ระดับประถมให้เรียนรู้สำนึกของการแข่งขันช่วงชิง จนถึงมหาวิทยาลัยในทุกระดับปริญญาที่รวบรวมเอาความรู้เพื่อการได้เปรียบ เพื่อชัยชนะเพื่อนร่วมโลกในด้านต่างๆ มาไว้ และหล่อหลอมให้ผู้คนสืบนิสัยสะสมนั้น

หรือกระทั่งการอบรมสารพัดหลักสูตรก็มีเจตจำนงที่จะให้เป็นไปเพื่อการนี้

เพื่อสร้างเครือข่ายที่ได้เปรียบกว่า ให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่อย่างเหนือผู้อื่นได้ง่าย ได้สะดวกขึ้น

เรื่องราวที่ก่อให้เกิดจิตสำนึกเช่นนี้ ถูกนิยามให้เป็นความปกติ เป็นกระแสโลก เป็นธรรมชาติของชีวิตที่ใครๆก็ทำกัน และต้องเป็นไปเช่นนี้

และการหาหนทางที่จะเหนือกว่า ได้เปรียบกว่า ได้ดี จะได้รับการให้คุณค่าว่า “ฉลาดกว่า”

มนุษย์เราเชิดชูความฉลาดที่จะเอารัดเอาเปรีบบคนอื่นได้เก่งกว่า

และต่างวิ่งเข้าต่อสู้เพื่อให้ได้รับการเชิดชูว่าเป็น “คนเหนือคน” นั้น

เมื่อมีโลกออนไลน์ เรื่องราวเหล่านี้ได้สะท้อนชัดเจนขึ้นว่า กระแสคลื่นชีวิตของมนุษย์ดำเนินไปเช่นนั้น

คลื่นมนุษย์เคลื่อนไปด้วยแรงกระตุ้นที่จะแสวงหาความฉลาดเพื่อยอดความทะยานอยากที่จะเหนือกว่า ได้เปรียบกว่า เพื่อนร่วมโลก

มีความสุขอยู่กับการเสพความรู้สึกพองที่สมอยาก

คนที่เข้าถึง “ความฉลาดที่ต่อยอดจากความสงบ”

อันเป็นต้นธารแห่งมิตรไมตรีที่แท้จริง ดูจะเลือนหายไปเรื่อยๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image