ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ [email protected] |
---|---|
เผยแพร่ |
ฟุตบอลโลก 2018 เริ่มต้นขึ้นมาแล้วตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน
แม้ไทยจะไม่ได้ส่งทีมเข้าไปร่วม แต่บรรดาแฟนบอลก็อดไม่ได้ที่จะชมเกม
การแข่งขัน
การแข่งขันครั้งนี้ คสช. โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้เป็นเจ้าภาพชักชวนภาคเอกชนลงขัน
ช่วยกันสนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันระดับโลก เพื่อให้ประชาชนได้ชม
ขณะที่หนังสือพิมพ์ข่าวสดในเครือมติชนจัดทายผลชิงรางวัลเพิ่มความสนุก
ใครสนใจร่วมสนุก ตัดคูปองในหนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสดได้เลย
หรือใครจะคลิ๊กเข้ามาเล่นเกมในเว็บไซต์ก็ได้ เชิญตามสบาย
เพราะทีมฟุตบอลชั้นนำ เกมกีฬาระดับโลกแบบนี้ ถ้าอดดูก็น่าเสียดาย
เฉกเช่นเดียวกับเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อ วงลอนดอนซิมโฟนี ออเคสตรา หรือ LSO มาแสดงในเมืองไทย
แสดงคอนเสิร์ตที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล 2 รอบ
การแสดงทั้ง 2 รอบ มี เกียนานเดรีย โนเซด้า (Gianandrea Noseda) วาทยกรระดับโลกเป็นผู้ควบคุม
มี เยฟิม บรอน์ฟแมน (Yefim Bronfman) นักเปียโน สัญชาติอเมริกัน-รัสเซียเป็นโซโลอิสต์
เยฟิม บรอน์ฟแมน เป็นนักเปียโนชั้นแนวหน้า
เช่นเดียวกับวงลอนดอนฯ ที่ยืนอยู่แถวหน้าของโลกมาช้านาน
วันนั้น พวกเขาและเธอเหล่านั้นได้มาบรรเลงบทเพลงในหอประชุมที่มีระบบเสียงดี อย่าง “มหิดลสิทธาคาร”
ใครที่ได้ไปชมคงได้ฟังได้ยลฝีมือกันไปแล้ว
เพียงแค่บทเพลงแรกของโปรแกรมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน
บทเพลงชื่อ Rhapsody espagnole ประพันธ์โดย มัวริส ราเวล (Maurice Ravel) นักประพันธ์ดนตรีชาวฝรั่งเศส (ค.ศ.1875-1937)
ทุกคนก็ได้สัมผัสกับความกลมกล่อมของเสียงเพลง
เครื่องดนตรีที่มีหลากหลายลักษณะเสียง แต่พอผสมผสานกันแล้ว กลับส่งเสียงออกมาได้ดี ฟังละมุน
พอเข้าสู่บทเพลง เปียโน คอนแชร์โต หมายเลข 3 ของ ลุควิก ฟาน บีโธเฟน (Ludwig van Beethoven) ชาวเยอรมนี (ค.ศ.1770-1827)
มี เยฟิม บรอน์ฟแมน (Yefim Bronfman) นักเปียโนโซโล สัญชาติอเมริกัน-รัสเซียเป็นโซโลอิสต์
นับตั้งแต่ท่อนแรก ท่อนที่สอง และท่อนสุดท้าย
ทุกคนล้วนประจักษ์ถึงความหนักแน่น ความคล่องแคล่ว และความแม่นยำ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ ยังได้ฟังบทเพลงที่ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวด้วยเสียง
อย่างบทเพลง “Pictures at an Exhibition” ประพันธ์โดย โมเดสต์ มูซอร์กสกี (Modest Mussorgsky) ชาวรัสเซีย (ค.ศ.1839-1881) และมาทำเป็นดนตรี
ออเคสตราโดยฝีมือ Maurice Ravel
บทเพลงนี้ บรรยายภาพฝีมือของ วิกเตอร์ ฮาร์ทมันน์ จำนวน 10 ภาพ
แต่ละภาพมีความแตกต่าง ทำให้ดนตรีที่ได้ฟังมีความหลากหลาย
หรือบทเพลง The Noon-Day Witch, Symphonic Poem ของ แอนโทนิน ดโวชาค (Antonin Dvorak) ชาวเช็ก (ค.ศ.1841-1904) ซึ่งเป็นบทเพลงเริ่มแรกในวันที่ 7 มิถุนายน
หากได้อ่านสูจิบัตร รับทราบเรื่องราวในตำนานของเรื่องนี้
พอบทเพลงเริ่มและดำเนินไปผู้ฟังก็ซึมซับกับเรื่องราวอันเศร้าๆ นั้นได้
เพลงสามารถวาดภาพด้วยเสียง สร้างจินตนาการให้ผู้ฟังได้
ในวันที่สองของการแสดง เยฟิม บรอน์ฟแมน ยังฝากความประทับใจให้ผู้ฟังหลังจบบทเพลงเปียโน คอนแชร์โต
ในช่วงที่เล่นบทเพลงแถม บทเพลงชื่อ โซนาต้า ของ เซอร์เก โปรคอเฟียฟ (Sergei Prokofiev) ชาวรัสเซีย (ค.ศ.1891-1953) นั้น
ทุกๆ จังหวะดำเนินไปด้วยความเร็วแต่ เยฟิม บรอน์ฟแมน ยังสามารถถ่ายทอดตัวโน้ตออกมาให้ฟังได้อย่างสะอาดหมดจด
เล่นเอาผู้ฟังในหอประชุมทั้งหมดถึงกับอึ้ง
ยิ่งมาถึงบทเพลงส่งท้าย คือ Symphony No.10 ของ ดมิทริ ชอสตาโกวิช (Dmitri Shostakovich) นักประพันธ์ดนตรีชาวรัสเซีส ด้วยแล้ว
ทั้งท่อนหนึ่ง ท่อนสอง ท่อนสาม และท่อนสี่ ทุกลำดับดำเนินไปอย่างน่าฟัง
บทเพลงนี้ในท่อน 3 ชอสตาโกวิช ได้ใส่กลุ่มโน้ตที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเอง
นั่นคือ กลุ่มโน้ต DSCH หรือโน้ต D C B และ Eb
แล้วยังมี Elmira theme ซึ่งเป็นทำนองที่แต่งให้ Elmira Nazirova คนที่เขาหลงรัก
แหม พอรู้ที่มาของกลุ่มโน้ตเช่นนี้ พอฟังแล้วรู้สึกขลังขึ้นเยอะ
ขณะที่นักดนตรีบรรเลง ผู้ฟังจะได้เห็นนักดนตรีแต่ละกลุ่มทุ่มเทพลังในการบรรเลง
โดยเฉพาะกลุ่มไวโอลินนั้น เมื่อถึงช่วงที่กลุ่มเครื่องสายต้องเน้นย้ำ จะเห็นนักไวโอลินแต่ละคนออกแรงอย่างเต็มกำลัง
เช่นเดียวกับวาทยกรที่สะบัดไม้สะบัดมืออย่างสุดแรง และทุ่มเทให้กับการ “คอนดักต์” อย่างเต็มที่
ใครได้เห็นก็ต้องยอมรับในการทุ่มเท ใครได้ยินคงรับทราบถึงผลงานเสียงที่เปล่งออกมา
ต้องยอมรับในฝีมือ
ฝีมือของคนระดับโลกมีข้อน่าสังเกตคือ “ความพอดี”
แม้บทเพลงจะมีเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงหนัก เสียงเบา แต่วาทยกรระดับโลกก็สามารถควบคุมเสียงให้พอดี
เช่นเดียวกับนักดนตรี ไม่ว่าจะต้องบรรเลงเครื่องดนตรีในมือด้วยเสียงอันแผ่วต่ำ หรือสูงปรี๊ด
หรือกระแทกกระทั้นให้เกิดเสียงดัง
แต่เมื่อเปล่งเสียงออกมาแล้ว ช่างเข้ากับเครื่องดนตรีข้างเคียง
ไม่ทำให้เสียงที่ได้ยินเป็นมลพิษแก่ผู้ฟัง
เฉกเช่นเดียวกับอื่นๆ รอบๆ ตัว ถ้ามันพอดีก็ย่อมเป็นประโยชน์
อาทิ คนจีนเชื่อในหยินและหยางที่ต้องมีดุลยภาพ
อาหารที่อร่อยคืออาหารที่มีรสชาติลงตัว งานศิลปะแม้จะมีความสุดโต่ง แต่กลับมีองค์ประกอบถ่วงดุลที่ทำให้พอดี
ความพอดีเช่นนี้เป็นคุณสมบัติสากล เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ผู้คนนิยม
นิยมในความงามที่พอดิบพอดี นิยมในความกลมกล่อมไม่ว่าจะเป็นเสียง หรือรสชาติอาหาร
ดังนั้น หากใครสามารถตระหนักรู้ถึงความพอดีในการดำรงชีวิต
โอกาสที่จะทำให้การงานก้าวหน้า โอกาสที่จะทำให้ชีวิตราบรื่นก็มีสูงยิ่ง
เพียงเราสามารถได้สัมผัส และรู้จักกับคำว่า “อะไรคือความพอดี”