มหัศจรรย์การ์ตูน : เก่งและเบ่งมักอยู่ยาก

เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์แวะมาคุยและบ่นเรื่องลูกศิษย์ให้ฟังค่ะ ลูกศิษย์คนนี้เป็นคุณหมอหนุ่มที่มาเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง ตอนที่คัดเลือกเข้ามาเรียนก็ด้วยเหตุผลว่าเป็นคนผลการเรียนดีและมีความมุ่งมั่น หลังจากเรียนและทำงานด้วยกันมาแค่ครึ่งปีก็เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นค่ะ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นทั้งหมอและพยาบาลรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ห้องตรวจด้วย พอไปถามเจ้าตัว คุณหมอก็จะบอกว่าไม่เคยมีปัญหากับใครเลยทั้งที่ทราบมาว่าถูกเพื่อนร่วมงานร้องเรียนหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้รู้ตัวหรือไม่ได้คำนึงถึงปัญหาในเรื่องนี้เลย อย่างไรก็ตาม เขาเป็นหมอที่เก่งค่ะ กับคนไข้จึงไม่บกพร่อง แต่กับเพื่อนร่วมงานถือว่าเป็นคนที่ทำงานด้วยยากเลยทีเดียว

เหตุการณ์ล่าสุดคือคุณหมอหนุ่มท่านนี้ร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเอกชนที่ตนไปทำงานพาร์ตไทม์อยู่ สาเหตุคือคุณหมอเชื่อว่าเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่ทำงานร่วมกันต้องการกลั่นแกล้งตนด้วยการเลือกผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมาให้ตนในระหว่างที่เลือกผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงให้แพทย์ห้องตรวจอื่น หลังได้คำตอบว่าไม่มีการกลั่นแกล้งเช่นนี้เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีทางทราบว่าผู้ป่วยคนไหนอาการรุนแรงหรือไม่ คุณหมอก็ยังคงร้องเรียนอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้งว่ามีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่จึงรวมตัวกันเขียนจดหมายแจ้งต่อผู้อำนวยการอย่างสุภาพทำนองว่า

“หากจะร้องเรียนการปฏิบัติงานของคนอื่นก็ควรดูการปฏิบัติงานของตัวเองด้วย หมอที่มาตรวจสายบ่อยๆ อยู่เวรซ้อน 2 โรงพยาบาล บางครั้งตรวจอยู่ก็หายตัวไปเฉยๆ แล้วมาทราบทีหลังว่าทิ้งผู้ป่วยทางนี้ไปดูผู้ป่วยอีกโรงพยาบาลหนึ่งจนทำให้หมอคนอื่นเดือดร้อนต้องดูแลคนไข้ที่รอคิวตรวจอยู่ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานร่วมกันได้ลำบาก”

จะเห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่กระทบต่อผู้ป่วยเพราะเจ้าหน้าที่และหมอคนอื่นร่วมกันช่วยให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการตรวจตามคิว แต่ทุกคนก็เหนื่อยใจกับคุณหมอที่เก่งแต่ไม่น่ารักคนนี้มาก ฟังแล้วเพลีย ดังนั้นเปลี่ยนบรรยากาศมาดูคุณหมอที่เป็นมิตรกับเรามากขึ้นดีกว่าค่ะ “Dokkiri Doctor” เป็นหนังสือการ์ตูนที่เขียนขึ้นในปี 1981-1982 และถูกนำมาสร้างเป็นแอนิเมชั่นฉายทางโทรทัศน์จำนวน 27 ตอนเมื่อปี 1998-1999 เป็นการ์ตูนตลกที่กล่าวถึงคุณหมอ“นิชิกิโคจิ ฮารุกะ” หมอหนุ่มรูปร่างอ้วนและหน้าตาไม่หล่อที่อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลซึ่งสร้างอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนประถม คุณหมอมักจะทำการทดลองแปลกๆ อย่างเช่นสร้างยาขยายขนาดที่ทำให้แมวตัวโตเท่าช้าง ความน่ารักของคุณหมอคือเขาแอบชอบพยาบาลสาวหน้าตาดีซึ่งเป็นเพื่อนวัยเด็กทำให้ทำอะไรเปิ่นๆ เวลาเขินอายอยู่เป็นประจำ ระหว่างที่ดูไปหัวเราะไปก็ทำให้ระลึกได้ว่าภาพจำของคนทั่วไปที่มีต่ออาชีพแพทย์คือต้องเป็นคนเก่ง น่านับถือ และดูไว้ฟอร์มหน่อย แต่การทำให้คนเก่งดูเป็นกันเองและน่ารักเหมือนคุณหมอฮารุกะก็ช่วยให้เรารู้สึกกลัวคุณหมอน้อยลงและอยากทำความรู้จักมากขึ้น หากจะมีคุณหมอที่ไม่น่ารักสักคนก็คงเป็นเพราะคุณหมอยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางโดยไม่รับรู้ความรู้สึกของคนรอบข้าง ลักษณะบุคลิกภาพแบบนี้เรียกว่า “Narcissism” ซึ่งมีตั้งแต่ระดับน้อยๆ ถึงมากๆ ค่ะ

Advertisement

“Narcissism” เป็นบุคลิกภาพที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนที่เก่งและมั่นใจในตัวเอง มีลักษณะสำคัญคือเห็นแก่ตัว คิดว่าตนเองสำคัญเหนือผู้อื่น และบางครั้งก็ใช้ความเก่งเหนือคนอื่นนี้ไปในทางที่ไม่ถูกต้องด้วย อย่างไรก็ตาม คุณคอสตาส์ ปาปาจอร์โจอาจารย์จากมหาวิทยาลัยควีนส์ในเบลฟาสต์ ประเทศอังกฤษ เชื่อว่าลักษณะนาร์ซิสซิซึ่มไม่จำเป็นต้องรุนแรงถึงขนาดก่อปัญหาให้กับคนรอบข้างเสมอไป เขาตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Personality and Individual Differences บอกว่าลักษณะนาร์ซิสซิซึ่มที่อยู่ในระดับปกติหรือไม่ได้มีความหลงตัวเองมากจนเด่นชัดเกินไปจะช่วยให้ผลการเรียนในโรงเรียนดีขึ้นได้

ผู้วิจัยมุ่งศึกษาในนักศึกษา 340 คน ค้นหาคนที่มีลักษณะมั่นใจในตนเองสูง คิดว่าตนเองสำคัญเหนือผู้อื่น ชอบสั่งการ และคิดว่าตนเองเก่งเหนือผู้อื่น แต่ไม่รุนแรงมากขึ้นขนาดก่อปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ผลพบว่าวัยรุ่นที่มีลักษณะเหล่านี้มีแนวโน้มจะ “จิตใจแข็งแกร่ง” ซึ่งส่งผลให้ผลการเรียนดีกว่าคนอื่นด้วย อธิบายได้จากคนกลุ่มนี้มีความมั่นใจในตัวเองสูงจึงทำให้มีความมุ่งมั่น กล้าแสดงออก และประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำเพราะสังคมยุคนี้สนับสนุนคนที่มีคุณลักษณะเหล่านี้เช่นกัน ผู้วิจัยจึงสรุปว่าเราไม่ควรมองคนที่มีลักษณะนาร์ซิสซิซึ่มว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่ควรมองว่าคนกลุ่มนี้ใช้คุณลักษณะเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตหรือเกิดโทษต่อคนรอบข้าง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างใจกว้างอีกด้วย

สำหรับคุณหมอหนุ่มที่เก่งแต่ไม่น่ารัก การสอนสั่งให้คุณหมอเลิกหลงตัวเองว่าเก่งและเอาแต่ต่อว่าคนอื่นที่ไม่มองตนอย่างชื่นชมหรือทำตามคำสั่งอาจจะทำได้ยาก บุคลิกภาพแบบนี้ติดตัวไปเสียแล้วค่ะ แต่เราสามารถแนะนำให้คุณหมอทำอย่างไรก็ได้ให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างยังดีอยู่เหมือนเดิม ซื้อขนมไปฝากบ้าง ช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ต้องรอเขาร้องขอบ้าง ก็อาจจะทำให้ใช้ชีวิตอยู่ง่ายขึ้นค่ะ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image