เดินไปในเงาฝัน : คนไม่รู้จักที่อยากเจอ : โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

ขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ ภารกิจในการเยียวยา ฟื้นฟูน้องๆ ทั้งหมด 12 คน และโค้ชอีก 1 คนจากทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังไม่สิ้นสุด

เพราะจะต้องมั่นใจก่อนว่าสภาพร่างกายของน้องๆ ทั้งหมด 13 คนต้องสมบูรณ์ 100% ถึงจะพาออกมาจากถ้ำได้
โดยไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม

เพราะฉะนั้น พวกเราในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่คอยให้กำลังใจพวกเขาตั้งแต่ทราบข่าวในวันแรกๆ ว่าติดอยู่ในถ้ำ จนถึงคืนวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2561 เมื่อทราบข่าวว่าเจอพวกเขาแล้ว เราจึงรู้สึกโล่งอกทันที

แม้ตอนนี้ยังออกมาไม่ได้ก็ตาม

Advertisement

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาครั้งนี้ทำให้เราเห็น น้ำใจ จากคนไทย และคนทั่วโลกที่ต่างมีความปรารถนาดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะกับน้องๆ ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ทั้ง 13 คน

ซึ่งล้วนเป็นภาพที่น่าประทับใจ

ทั้งยังเป็นความทรงจำที่ดี ที่ครั้งหนึ่งเรามีโอกาสเห็น “น้ำใจ” ที่หลั่งไหลมาจากผู้คนทั่วทุกสารทิศ สิ่งสำคัญไปกว่านั้น ยังทำให้เราประจักษ์ชัดกับคำว่า “ผู้นำ” จริงๆ เพราะ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม สมกับเป็น “แม่ทัพ” ในการนั่งบัญชาการภารกิจสำคัญครั้งนี้

Advertisement

ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าหากไม่ใช่ “ผู้นำ” คนนี้ ใครจะทำเยี่ยงเขาได้ และผมไม่รู้เหมือนกันว่าการบริหารจัดการสำหรับการบูรณาการความ
ร่วมมือต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาขณะนั้นจะเป็นอย่างไร

เพราะสภาพการณ์ทุกอย่างตอนนั้นดูมั่วไปหมด

ข่าวสารจึงเกิดความสับสน

แต่เมื่อ “ผู้นำ” อย่าง “ณรงค์ศักดิ์” ออกมาบัญชาการ พร้อมกับเคลียร์ข่าวต่างๆ ด้วยตนเอง ทุกอย่างจึงค่อยๆ กระจ่างขึ้น และทุกๆ อย่างก็เริ่มเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น

จนทำให้ใครที่ติดตามข่าวสารพลอยสบายใจขึ้นบ้าง

แต่กระนั้น สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากเราจะมองเห็นสปิริตของความเป็น “ผู้นำ” ยังทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับคำว่าความอดทน ความเสียสละ และความเป็นทีมเวิร์กของหมูป่า อะคาเดมี่ด้วย โดยเฉพาะ “โค้ชเอก” เอกพล จันทะวงษ์ ที่ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งในฐานะโค้ช หรือในฐานะพี่ เพื่อน ที่คอยให้กำลังใจ วางแผนในการใช้ไฟฉาย และการดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ขณะที่ติดอยู่ภายในถ้ำ

แม้เขาจะกล่าวโทษตัวเองอยู่บ้างก็ตาม

ที่ไม่ห้ามให้น้องๆ มาฉลองวันเกิดภายในถ้ำหลวงจนเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้

แต่อีกทางหนึ่ง ก็ต้องขอชมเชยและยกย่องธาตุทรหดของน้องๆ ทั้ง 12 คนด้วย แม้จะอิดโรยจากการอดอาหารเกือบ 10-11 วันก็ตาม แต่เมื่อพวกเขามาเจอนักดำน้ำชาวอังกฤษ เขากลับพูดโต้ตอบ ซักถาม ขอบคุณอย่างคนมีสติ

ทั้งยังปนความน่ารักจากคำพูดที่สื่อสารออกไปด้วย

จนทำให้คนไทยและคนทั่วโลกที่ติดตามดูข่าวจากสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างพลอยขำ และอมยิ้มไปกับคำโต้ตอบของน้องๆ ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ สำคัญไปกว่านั้น อาจเพราะพวกเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด เกิดและเติบโตอยู่ในพื้นที่

เคยเข้าออกถ้าหลวงอยู่ 2-3 ครั้ง

ทั้งยังเป็นนักฟุตบอลอีกด้วย

จึงทำให้สภาพร่างกายของน้องๆ ทั้งหมด 13 คน มีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาต้องติดอยู่ในถ้ำเป็นเวลานานๆ จึงทำให้ร่างกายของเขาค่อยๆ ปรับตัว แม้จะมีความหิวคอยตักเตือนพวกเขาอยู่เป็น
ระยะๆ ก็ตาม

แต่เขาก็อดทนมาได้ถึง 10 วัน

เป็น 10 วันที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ มีชื่อเสียงขจรขจายก้องโลกไปแล้ว

จนทำให้ทุกคนอยากเจอ

ซึ่งเหมือนกับบทเพลงที่ “ก้อง ห้วยไร่” แต่งขึ้นคือ “คนไม่รู้จักที่อยากเจอ”

คนอื่นอยากเจอหรือเปล่า ผมไม่รู้

แต่ผมอยากเจอพวกเขาจริงๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image