“ปรัชญาที่แท้จริงของโลกนั้นอยู่ในหนังสือที่เรียกว่าธรรมชาติ
ซึ่งเปิดให้เราอ่านได้ตลอดเวลา
แต่เราจะไม่มีวันอ่านมันออกเลย
ถ้าเราไม่เรียนรู้ภาษาที่ใช้เขียนมันขึ้นมา นั่นคือ ภาษาคณิตศาสตร์”
กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei)
กาลิเลโอ กาลิเลอี นั้นนอกจากจะมีผลงานด้านดาราศาสตร์มากมาย เขายังเป็นผู้บุกเบิกและค้นพบความรู้สำคัญอื่นๆ ในวิชาฟิสิกส์อีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่
กฎแห่งความเฉื่อยซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกฎการเคลื่อนที่ข้อแรกของนิวตัน
ทฤษฎีการตกอย่างอิสระ (Free Fall)
การประดิษฐ์เทอร์โมมิเตอร์ (ที่แตกต่างจากเทอร์โมมิเตอร์ทุกวันนี้อย่างมาก)
หลักการขยายสเกลและความแกร่งของวัสดุ
ธรรมชาติของการแกว่งแบบนาฬิกาลูกตุ้ม
(ดูภาพที่ 1)
การค้นพบทั้งหลายของกาลิเลโอนั้นเป็นผลมาจากวิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ที่สูงล้ำหน้าสังคมและผู้คนในยุคสมัยนั้นไปไกลมากๆ นอกจากนี้เขายังเป็นคนแรกๆ ที่ใช้คณิตศาสตร์ในการอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติด้วย
ความคิดที่ล้ำยุคนี้เองที่ทำให้เขามีความขัดแย้งกับศาสนจักร ทั้งถูกข่มขู่และกดดันจนต้องยอมรับว่าความคิดทั้งหมดที่ไม่ตรงกับความเชื่อทางศาสนาของตนผิด อีกทั้งยังถูกจองจำในช่วงบั้นปลายของชีวิตด้วย
ช่วงที่กาลิเลโอแก่ชรา เขาตาบอดทั้งสองข้าง และใช้เวลาช่วงสุดท้ายอธิบายความคิดต่างๆ ให้ลูกศิษย์คอยจดบันทึก จนกระทั่งเสียชีวิตไปในวัย 77 ปี
ในปี ค.ศ.1992 หลังจากที่กาลิเลโอเสียชีวิตไปแล้วราว 350 ปี พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 (Pope John Paul II) ผู้เป็นประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้แถลงการณ์กล่าวขอขมาต่อกาลิเลโอซึ่งเป็นข่าวที่ครึกโครมไปทั่วโลก
นักวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ยอมรับและให้เกียรติกาลิเลโอว่าเป็นบิดาแห่งกระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์
ชื่อของกาลิเลโอจึงปรากฏอยู่ในหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์และยานอวกาศกาลิเลโอที่เดินทางไปสำรวจดาวพฤหัสฯและดวงจันทร์ของดาวพฤหัสฯที่กาลิเลโอค้นพบ
(ดูภาพที่ 2)
ในช่วงเดียวกับที่กาลิเลโอยังมีชีวิตอยู่นั้น ที่ประเทศเยอรมนีมีนักดาราศาสตร์คนหนึ่งที่สนับสนุนความเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเอกภพเช่นเดียวกับกาลิเลโอ และเขายังเพียรพยายามหลายต่อหลายปี ขบคิดและวิเคราะห์ข้อมูลตำแหน่งดาวอังคารที่เพื่อนร่วมงานของเขาทิ้งไว้ก่อนตายจนในที่สุดเขาก็ค้นพบวงโคจรที่แท้จริงของดาวอังคารว่าเป็นอย่างไรกันแน่
การค้นพบนี้เองเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ภาพของเอกภพที่ชัดเจนขึ้นมากในยุคต่อมา
ส่วนเขาคนนั้นเป็นใครและค้นพบอะไร
ไว้จะเล่าให้ฟังในครั้งถัดๆ ไปครับ