ฤดูหนาวไม่ได้น่ากลัว

ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าปัจจุบันโลกของธุรกิจกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากใครไม่สามารถปรับตัวเพื่อต่อกรกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกวินาที

เห็นทีจะอยู่ยาก

โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนเข้ามาเชื่อมโยง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงทุกช่องทางในการสร้างรายได้ตามมา อย่างธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์

ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์

Advertisement

ธุรกิจสุขภาพ และความงาม

รวมไปจนถึงธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ใช้แอพพลิเคชั่นในการให้ลูกค้าดาวน์โหลดเพื่อเสพข้อมูลข่าวสารบนสมาร์ทโฟน เนื่องจากปัจจุบันตัวเลขของผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2559 สมาร์ทโฟนจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีลูกค้าหันมาใช้สมาร์ทโฟนสูงถึง 17.9-18.7 ล้านเครื่อง

จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 93,880-94,480 ล้านบาท

กล่าวกันว่า เหตุผลที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการปรับตัวของเครือข่ายต่างๆ ที่นำกลยุทธ์ 4จี เข้ามายั่วน้ำย่อย

เพราะไม่เพียงจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงโลกโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง และไม่ติดขัด หากเครือข่ายสัญญาณ 4จี ยังทำให้เกิดการทำธุรกิจ และธุรกรรมต่างๆ บนโลกออนไลน์อย่างง่ายดาย

เพียงแค่คุณคลิก

หรือเตรียมความพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คุณก็จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ทันที

แต่ใครสักกี่คนจะทำเช่นนั้นได้

“แจ๊ค หม่า” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อาลีบาบาเคยพูดถึงเรื่องนี้ในทำนองว่า…ฤดูหนาวไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเราไม่ได้เตรียมตัว

นอกจากนั้น “แจ๊ค หม่า” ยังพูดอีกว่า…หากไม่ใช่เพราะเป็นยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง คงยังไม่ถึงคิวของคนหนุ่ม-สาวในยุคปัจจุบัน

“เพราะยุคอุตสาหกรรมสมัยอดีตใช้ระบบอาวุโส ต่างต้องการพ่อรวยคนหนึ่งเสมอ แต่วันนี้พวกเราไม่มี แต่สิ่งที่พวกเรามีคือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคนจำนวนมากเกลียดการเปลี่ยนแปลง แต่เรากลับควบคุมการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเอาไว้แล้ว พวกเราจึงมองเห็นอนาคต”

เว็บไซต์อาลีบาบาคือตัวอย่างชัดเจนที่สุด

แต่กระนั้น เมื่อมาดูข้อมูลของสำนักส่งเสริมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่ทำการสำรวจมูลค่าตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ปี 2558 กลับพบว่ามูลค่าการใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีสูงถึง 2,107,692 ล้านบาท

ดังนั้น เมื่อเครือข่าย 4จี เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์จึงเชื่อแน่ว่ามูลค่าการช้อปปิ้งออนไลน์จะเติบโตขึ้นกว่า 11% ในปี 2559

ขณะเดียวกัน ก็มีอีกข้อมูลหนึ่งน่าสนใจเช่นกันว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟน มีอัตราเฉลี่ยในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านดีไวซ์ต่างๆ สูงถึง 82.1% โดยมีการใช้งานเฉลี่ย 5.7 ชั่วโมง/วัน

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 54.7% มีการใช้งานเฉลี่ย 5.4 ชั่วโมง/วัน

โน้ตบุ๊ก 45.2% มีการใช้งานเฉลี่ย 5.0 ชั่วโมง/วัน

แท็บเล็ต 21.1% มีการใช้งานเฉลี่ย 3.8 ชั่วโมง/วัน

สมาร์ททีวี 8.6% มีการใช้งานเฉลี่ย 3.0 ชั่วโมง/วัน

เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าอัตราเฉลี่ยในการใช้สมาร์ทโฟน และการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของผู้คนต่างๆ ในประเทศไทย ยังเป็นตัวเลขค่อนข้างต่ำ

เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน

ผลตรงนี้แสดงว่าโอกาสในการทำธุรกิจ และธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟนออนไลน์ในประเทศไทยยังมีอยู่อีกมาก เพียงแต่ใครจะมองเห็นเร็ว หรือช้าเท่านั้นเอง

ซึ่งเหมือนอย่างปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Line TV, Line Music ต่างปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปในรูปของวิดีโอ ออน โมบาย เพราะมองเห็นแล้วว่านับแต่แอพพลิเคชั่นไลน์ประสบความสำเร็จ โดยมีสมาชิกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เขาน่าจะพัฒนาไลน์ ด้วยการนำคอนเทนต์ที่มีอยู่ตามสื่อต่างๆ เข้ามาอยู่ในไลน์

ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์

สื่อสิ่งพิมพ์

หรือแม้แต่สื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ทุกรูปแบบ

เนื่องจากคนหนุ่ม-สาวในยุคปัจจุบัน มักเสพสื่อผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่า ทั้งยังมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ผลตรงนี้ จึงทำให้ผู้ผลิตสื่อทุกประเภทต่างปรับตัว เพื่อหันหัวรบทางธุรกิจเข้าไปยังช่องทางต่างๆ เหล่านี้

ใครเข้าไปเร็วก่อน ย่อมได้เปรียบ

ใครเข้าไปช้า โอกาสที่จะถูกรับรู้ในวงกว้างก็พลอยจะช้าไปด้วย เหมือนอย่างไม่นานผ่านมา เริ่มมีกระแสข่าวออกมาบางส่วนแล้วว่าร้านหนังสือที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในการเป็นตัวแทนขายหนังสือให้กับสำนักพิมพ์ต่างๆ เริ่มลดสาขาตามห้างสรรพสินค้า

และห้างค้าปลีกบางแห่งแล้ว

ทั้งยังลดสัดส่วนการวางหนังสือลง แต่กลับเพิ่มสัดส่วนการวางสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้น สำคัญไปกว่านั้น ร้านหนังสือแห่งนี้ยังส่งคืนหนังสือกลับมาให้สำนักพิมพ์ต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

จนทำให้สำนักพิมพ์เหล่านั้นเริ่มสต๊อกบวม

คำถามจึงเกิดขึ้นว่าทำไมร้านหนังสือถึงทำแบบนี้?

เขาเริ่มมองเห็นแล้วหรือว่าการที่ร้านหนังสือมีหัวหนังสือใหม่ๆ ออกวางจำหน่ายในปริมาณมากที่สุดไม่ใช่เรื่องดี หรือเขามองเห็นแล้วหรือว่าถึงเวลาปรับเปลี่ยนวิธีการขายหนังสือที่น่าจะขายได้เท่านั้น

หรือเขามองเห็นแล้วหรือว่าควรลดขนาดพื้นที่ร้านลง เนื่องจากค่าเช่าพื้นที่ในปัจจุบันค่อนข้างแพง

หรือเขามองเห็นแล้วว่าถึงเวลาที่จะดำเนินธุรกิจอี-บุ๊กส์อย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที เพราะโลกของการอ่านในฝั่งตะวันตก กับตะวันออกเริ่มหันเทรนด์ไปทางนี้เพิ่มมากขึ้นแล้ว

เขาจึงควรพลิกกลยุทธ์มาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขายผ่านจะดีกว่าไหม

ผมไม่มีคำตอบหรอกครับ

แต่ที่แน่ๆ กลุ่มประเทศที่ประสบความสำเร็จในการนำธุรกิจเข้ามารับใช้นวัตกรรมทางด้านการสื่อสารอย่างเกาหลีใต้,ญี่ปุ่น,จีน และสหรัฐอเมริกา กำลังไปไกลถึง 5 G แล้ว

ทั้งเขายังคิดเหมือน “แจ๊ค หม่า” ว่า…ฤดูหนาวไม่ได้น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเราไม่ได้เตรียมตัว

แล้วเราล่ะ

พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วหรือยัง?

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image