การเดินทางของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 มาอีกคำรบหนึ่งแล้ว สำหรับปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-28 ตุลาคม 2561
สถานที่คือศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เช่นเดิม
ผมไม่รู้ว่าแต่ละสำนักพิมพ์มีไฮไลต์อะไรกันบ้าง และก็ไม่ทราบด้วยว่าปีนี้มีสำนักพิมพ์ต่างๆ เข้าร่วมจัดงานมากน้อยแค่ไหน เพราะจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ค่อยดีนัก อาจทำให้บางสำนักพิมพ์ไม่เข้าร่วม
หรือบางแห่งอาจปิดตัวลงบ้าง
มูลเหตุเหล่านี้พอจะเข้าใจอยู่บ้างครับ เพราะผ่านมาพฤติกรรมการอ่านของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันเลือกอ่านจากสมาร์ทโฟนมากกว่าหนังสือเล่มอยู่มาก
แต่จะสนุกมากกว่า ซึมซาบมากกว่า และสัมผัสลึกซึ้งมากกว่าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรสนิยมของคน คนนั้น
อีกประการอาจเป็นเพราะงานมหกรรมหนังสือฯกับงานสัปดาห์หนังสือฯระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่เดือน จึงทำให้หนอนหนังสือบางส่วนที่เคยซื้อไปคราวที่แล้ว อาจยังอ่านไม่จบ
จึงอาจไม่มาซื้อในคราวนี้
หรืออาจเป็นเพราะร้านหนังสือออนไลน์มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมยังมีพรีออเดอร์ของแต่ละสำนักพิมพ์แย่งกันออกมาขายเป็นจำนวนมาก จึงทำให้พวกหนอนหนังสือรุ่นใหม่ไม่อยากเสียเวลามาเลือกซื้อหนังสือที่นี่
ทุกสิ่งล้วนเป็นข้อมูลที่เข้าใจได้ทั้งสิ้น
แต่ในฐานะคนทำสำนักพิมพ์ คงต้องทำหนังสือกันต่อไป เพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้อ่านอีกจำนวนหนึ่งต่างเฝ้ารอว่าสำนักพิมพ์ที่ตัวเองชื่นชอบจะขนหนังสือใหม่อะไรมากำนัลแด่ผู้อ่าน
ซึ่งเหมือนกับสำนักพิมพ์มติชนปีนี้
นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองที่ วีรพร นิติประภา เป็นนักเขียนดับเบิลซีไรต์หญิงคนแรกของประเทศไทย ที่พิมพ์งานกับมติชนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ “พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” คว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี 2561
หากเรายังหยิบงานเก่าของเธอที่เคยคว้านวนิยายซีไรต์ครั้งแรกในปี 2558 ชื่อเรื่องว่า “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต” พร้อมๆ กับนวนิยายอีก 2 เล่ม ของ 2 นักเขียนหญิงที่เข้ารอบช็อตลิสต์รางวัลซีไรต์ออกมาขายพร้อมๆ กัน
ถามว่าลดจากราคาปกเยอะไหม?
ผมว่าเยอะทีเดียว
นอกจากนั้น ยังมีหนังสือไฮไลต์อีกหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็นหนังสือในกลุ่มของการเมืองและประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเลือดสีน้ำเงิน, ปักธงอนาคต, เผด็จการวิทยา, การเมืองภาคประชาชน, การเมืองในราชสำนักฝ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5, ชันสูตรประวัติศาสตร์ ไขปริศนาพระเจ้าตาก, พระเจ้าตาก กษัตริย์นักการค้า และธนบุรีศรีมหาสมุทร
ทุกเล่มล้วนเป็นหนังสือใหม่สำหรับขายงานนี้โดยเฉพาะ
นอกจากนั้น ยังมีหนังสือขาประจำที่จะต้องพิมพ์ออกมาขายในช่วงนี้โดยเฉพาะคือ “ศาสตร์แห่งโหร 2562” ซึ่งถือเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่มีแฟนา
นุแฟนติดกันงอมแงม
ชนิดที่ว่าขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว
ส่วนหนังสืออื่นๆ ที่มีแฟนคลับเกาะติดอย่างเหนียวแน่นเช่นกัน ชนิดที่เรียกว่าพิมพ์ออกมาคราใด ต้องมีคนอ่านคือหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของวิถีคิด วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นที่มี “พิชชารัศมิ์ Marumura” เป็นผู้เขียน
ซึ่งก็จะนำมาลดราคาอีกเช่นกัน
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือการรวมตัวกันของ 1 นักเขียนหญิง อุรุดา โควินท์ 1 นักเบลนด์ชา “มุ้ง” และ 1 คนเขียนภาพประกอบ ตะวัน วัตุยา ที่จะมาสร้างสรรค์ผลงานบนคอนเซ็ปต์ “ReadVolution Tea” จนเกิดเป็นหนังสือที่ชื่อ “คำรักมาช้า”
แต่จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นต้องติดตามกันต่อไป
เพราะหนังสือเล่มนี้ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว
สำคัญไปกว่านั้น สำนักพิมพ์มติชนยังนำหนังสือแปลของ นิโคลัส สปาร์กส์ ออกมาอีกหนึ่งเล่มในชื่อภาษาไทยว่า “กันและกัน” ซึ่งมี วรางคณา เหมศุกล เป็นผู้แปล
รวมถึงหนังสือระดับโลกอย่าง “ใต้เวิ้งฟ้า” ซึ่งมี Paul Bowles เป็นผู้เขียน และ “สองปีแปดเดือน” ที่มี Salman Rushdie เป็นผู้เขียน ก็จะนำมาลดราคาในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติอีกเช่นกัน
ลองไปหาซื้ออ่านดูนะครับที่สำนักพิมพ์มติชน โซนพลาซ่า
แล้วคุณจะรู้ว่าเราทำหนังสือเพื่อแฟนานุแฟนจริงๆ
