ประติมากรรมหุ่น’รามเกียรติ์’ เมื่อ’เหล็ก’พลิ้วไหวในเวทีโลก

(จากซ้าย) รามเกียรติ์, หนุมาน, พระรามแผลงศร

ถ้าใครถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจ ผมตอบไม่ได้ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ผมมีมาตั้งแต่เด็ก ขอเรียกมันว่าเป็นพรสรรค์ เพราะไม่ได้ศึกษา ไม่ได้ดูใครมาเลย คิดเองทำเองมาตั้งแต่เด็ก แรงบันดาลใจก็คงทำต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่าจุดหมายมันอยู่ไหน และจะไม่หยุดเดิน

น้ำเสียงมุ่งมั่นบอกถึงความตั้งใจของ บรรเจิด เหล็กคง ศิลปินไทยหุ่นเหล็กคนแรก ที่ได้รับเชิญจาก อโกร่า แกลลอรี นิวยอร์ก (Agora Gallery) สุดยอดแกลลอรีชื่อดังระดับโลก ให้ไปแสดงงาน

จากประสบการณ์สั่งสมมาตั้งแต่วัยเยาว์ ประกอบกับความรู้ด้านการออกแบบที่ได้รับจากการสำเร็จการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทำให้ศิลปินหนุ่มก้าวมายืนอยู่ชั้นแนวหน้า

บรรเจิด เหล็กคง
บรรเจิด เหล็กคง

บรรเจิดเป็นชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ครอบครัวเปิดอู่ซ่อมรถ ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้วัดและโบราณสถานต่างๆ งานประติมากรรมทุกอย่างจึงถูกซึบซับผ่านสายตาและถูกบันทึกไว้ในหัวใจของเขาตลอดมาตั้งแต่วัยเด็กจวบจนทุกวันนี้

Advertisement

ความฝันถูกหล่อหลอมออกมาเป็นความตั้งใจที่ว่า จะต้องทำงานศิลปะที่มีชิ้นเดียวในโลกและต้องไม่ซ้ำใคร

เหตุนี้เองจึงเกิดเป็นงานศิลปะที่มีชื่อว่า ประติมากรรม เหล็กคง ขึ้นมา

เชื่อว่าทุกคนก็มีความฝันเพราะความฝันจะค่อยหล่อเลี้ยงหัวใจและชีวิตให้ดำเนินอยู่ในปัจจุบันได้ บรรเจิดเองก็เช่นกัน

Advertisement

ศิลปินหนุ่มเล่าว่า นานมาแล้วเคยทำงานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง คอยออกแบบสถานบันเทิง ซึ่งแต่ละงานไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลวดลายไทยแต่อย่างใด ครั้งที่เศรษฐกิจซบเซาทำให้เขาต้องออกจากงาน ระหกระเหินกลับมาหาฝันอีกครั้ง

ด้วยการที่เป็นคนไม่เคยทิ้งความฝันในงานออกแบบศิลปะแบบไทย เขาจึงหันมาจริงจังทางด้านงานประติมากรรมที่ออกแบบจากเหล็กตามแบบฉบับที่ตนเองถนัดอีกครา

ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี สามารถรังสรรค์ผลงานออกมากว่า 40 ชิ้น ในขณะที่มีเสียงดูถูกดูแคลนชิ้นงานของเขาว่าไม่ตรงตามตลาดบ้าง หากแต่ก็ไม่เคยทำให้บรรเจิดยอมแพ้แต่อย่างใด

เริ่มท้อใจแต่ไม่ถอย ช่วงนั้นคิดว่าพลาดแล้วเรา 10 กว่าปีที่ทำมา หลายคนว่าผม ทั้งคนใกล้ตัวก็ว่าทำไม่ทำงานที่ตลาดรับ มันทำให้รู้ว่าผมไม่ได้ทำเอาเงิน ผมทำด้วยใจ จะทำทรานฟอร์เมอร์ก็ทำได้ จะทำให้ทรานฟอร์เมอร์เป็นแบบไทยๆ ก็ได้ แต่ผมไม่ทำ เพราะคิดไว้เสมอว่าจะไปแย่งกับคนอื่นทำไม เนื่องจากเราหาตัวเองเจอแล้ว เราทำไมจะต้องไปแข่งกับเขา

“ผมต้องทำต่อไปให้มันประสบความสำเร็จ และเมื่อถึงตอนนั้นคนไทยก็จะได้เห็นคุณค่าชิ้นงานเอง” บรรเจิดกล่าว

วันนี้ งานประติมากรรมของศิลปินไทยคนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย

เขานำเหล็กมารังสรรค์ให้มีชีวิตผ่าน ตัวละครต่าง ๆ จากวรรณคดีที่รู้จักกันดีอย่างเรื่อง “รามเกียรติ์”

ทศกัณฑ์นั่งเจรจา
ทศกัณฑ์นั่งเจรจา

หุ่นเหล็กของเขามีจุดเด่นที่แม้จะเป็นเหล็กแต่มีดูเหมือนพลิ้วไหวได้ คงความเอกลักษณ์ลวดลายที่งดงามและอ่อนช้อย ที่แสดงออกผ่านสีหน้า แววตา และท่วงท่าของตัวละครนั้นๆ

บรรเจิดกล่าวว่า อยากให้งานชุดนี้เป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลังว่า กว่าจะสำเร็จได้ ต้องคิดให้แตกต่างจริงๆ อย่าไปเดินตามใครเขา โดยตนเลือกทำงานประติมากรรมที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เพราะว่ามันมีความคลาสสิก สื่อสารง่ายในความเป็นไทยและเอเชีย รวมถึงยังคงรักษาความเป็นโบราณในงานศิลปะแต่ละชิ้นให้คงอยู่ตลอดไป

“สำหรับการได้เดินทางไปจัดการแสดงผลงาน ต้องใช้ทุนเยอะมาก และตนได้เสนอไปหลายที่สำหรับขอทุน จนได้มาเจอกับคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ที่ท่านเห็นคุณค่าของงานศิลปะ และอยากให้คนไทยได้ไปแสดงผลงานสร้างชื่อในระดับโลก จึงได้มาช่วยสนับสนุนการเดินทางครั้งนี้

พระพิฆเนศ 16 กร
พระพิฆเนศ 16 กร

“ผมคิดว่าต่อไปข้างหน้าคนไทยควรให้โอกาสคนไทยด้วยกัน หากย้อนกลับมานั่งมองตัวเองแล้วมองดูเด็กรุ่นหลังและเชื่อว่าถ้าเห็นแววเด็กสักคนหนึ่ง มันไม่ได้ถือเป็นการข้ามผู้ใหญ่คนอื่นไป ในเมื่อเด็กคนนั้นสามารถสร้างสรรค์งานได้ เขาก็ควรที่จะได้ไปโชว์ความสามารถของเขาให้ประชาชนได้เห็น” บรรเจิดกล่าวถึงเรื่องโอกาสนที่ได้รับจาก สิงห์ ปาร์ค เชียงราย

และเผยความรู้สึกว่า…

วันนี้ทุกอย่างมันเกินฝันไปเยอะมาก ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้ ดีใจที่งานศิลปะถูกใจคนและเป็นแนวแปลกใหม่ที่สื่อถึงความเป็นไทย เหล็กไม่สลายความเป็นตัวตน เหล็กของผมต้องมีชีวิต พลิ้วไหว ความเด่นในท่วงท่าและการยืนแอ๊กชั่น ต้องคิดนอกกรอบตลอดเวลา ศิลปะไม่มีขีดจำกัด แต่ต้องใส่อารมณ์ความเป็นตัวตนของเราลงไปเท่านั้นเอง ศิลปินไทยหุ่นเหล็ก กล่าวทิ้งท้าย

จากเหล็กแข็งๆ ที่ถูกแปรสภาพเป็นงานประติมากรรมพลิ้วไหวและมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านความฝันและความตั้งใจ สิ่งเหล่านี้กำลังจะถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกให้ได้ยลโฉมในนิทรรศการเดี่ยวที่จะจัดภายใต้ชื่อ BANJERD LEKKONG A SOLO EXHIBITION ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม-9 มิถุนายน 2559 ที่อโกร่า แกลลอรี นิวยอร์ก

หนุมานสู้รบกับวิรุณจัมบัง
หนุมานสู้รบกับวิรุณจัมบัง

ผลงานที่จะนำไปจัดแสดงที่อเมริกา มีจำนวน 15 ชิ้น ซึ่งแต่ล่ะชิ้นจะมีความพิเศษเฉพาะตัว อาทิ พระพิฆเนศ 16 กร หนุมานสู้รบกับวิรุณจัมบัง หนุมานหาวเป็นดาวเดือน ทศกัณฑ์นั่งเจรจา หนุมานไทยและหนุมานบาหลีหยอกเย้า พระรามแผลงศร ฯลฯ

นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทย

หนุมานหาวเป็นดาวเดือน
หนุมานหาวเป็นดาวเดือน
หนุมานไทยและหนุมานบาหลีหยอกเย้า
หนุมานไทยและหนุมานบาหลีหยอกเย้า
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image