คอลัมน์เดินไปในเงาฝัน : ใจที่นำทางของ‘วิชัย’ : โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

หลังจากที่ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตกใกล้ๆ กับบริเวณสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อหลายวันผ่านมา จนทำให้เขาและคนอื่นๆ รวมทั้งหมด 5 คนเสียชีวิตพร้อมกัน
จึงนับเป็นข่าวเศร้าที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ
โดยเฉพาะ “วิชัย” ซึ่งถือเป็นนักธุรกิจคนสำคัญของเมืองไทย เพราะมีอาณาจักรธุรกิจอยู่ในมือทั้งหมด 8 กลุ่มธุรกิจ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท

ผลเช่นนี้ จึงทำให้เกิดคำถามตามมามากมายว่า…นับแต่นี้ต่อไปอาณาจักรธุรกิจของคิง เพาเวอร์จะอยู่ในมือใคร?

ใครจะเป็นผู้บริหารในลำดับถัดไป?

แม้คำตอบอาจยังไม่ชี้ชัดจากฝ่ายครอบครัวว่าเป็นใครกันแน่ แต่กระนั้น ก็เป็นที่ทราบในวงการธุรกิจว่าคงหนีไม่พ้นลูกๆ และภรรยา รวมถึงผู้บริหารมืออาชีพที่ทำงานคู่กับ “วิชัย” ตลอดมานั่นเอง
เฉพาะในส่วนของลูกๆ กล่าวกันว่าผู้ที่ได้รับคำสอนสั่งทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต การเจรจาธุรกิจ และการบริหาร อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายคนเล็กน่าจะถูกกรูมมากที่สุด

Advertisement

เพราะเขาไม่เพียงเข้ามาช่วยงานพ่อในหลายเรื่อง หากในส่วนของการบริหาร “สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้” เขายังถือเป็นตัวหลักในการทำให้สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้เป็นที่ยอมรับของแฟนบอล

ภารกิจที่ท้าทายเช่นนี้ เมื่อไปอ่านหนังสือ “The Fairy Tale of Under Fox” ซึ่งมี จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ เป็นผู้เขียนตามคำบอกเล่าของ “อัยยวัฒน์” ก็ทำให้เห็นภาพที่ไม่ต้องห่วงอาณาจักรคิง เพาเวอร์เลย

เพราะหลายคำสอนของ “วิชัย” ที่กล่าวกับ “อัยยวัฒน์” ล้วนเป็นคำสอนแบบลูกผู้ชาย ซึ่งเหมือนกับตอนหนึ่งที่ “อัยยวัฒน์” เล่าให้ฟังถึงตอนซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ว่า…คุณพ่อเป็นคนมีวิสัยทัศน์ประหลาด มองไกลจนผมตามไม่ทัน เวลาท่านพูดอะไร จะทำให้ได้ เอาให้ได้ วันที่ซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ท่านบอกว่าจะพลาดหรือไม่พลาดไม่มีใครรู้แล้ว แต่ต้องทำให้สำเร็จ

Advertisement

คำว่า “ทำให้สำเร็จ” ของ “วิชัย” สื่อความหมายบอก “อัยยวัฒน์” ว่าจะต้องสู้เชลซีให้ได้ และจะต้องเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ในวันหนึ่ง
ซึ่งก็เป็นจริงในเวลาต่อมา

แต่กระนั้น ความสำเร็จก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะหลังจากตระกูลศรีวัฒนประภาเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้อย่างเป็นทางแล้ว เขาทั้งคู่จึงต้องมาปรับโครงสร้างการบริหาร และการทำทีมใหม่ทั้งหมด

“อัยยวัฒน์” เล่าเรื่องนี้สั้นๆ ให้ฟังว่า…ผมกับคุณพ่อมองเหมือนกัน ถ้าระบบรากฐานทุกอย่างดี เมื่อไหร่ที่เราพร้อม เราจะเดินได้ก้าวใหญ่กว่า

เฉกเช่นเดียวกับการคัดเลือกผู้จัดการทีม “อัยยวัฒน์” เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังในการเลือก ไนเจล เพียร์สัน อดีตผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ในอดีตว่า…ผมดูคาแร็กเตอร์ ดูไอเดียฟุตบอล ผมเลือกคนที่เข้ากับคุณพ่อ และผมได้ด้วย

ดังจะเห็นว่า “อัยยวัฒน์” รู้ใจ “วิชัย” และรู้ด้วยว่าคนแบบไหนน่าจะเข้ามาบริหารทีมจิ้งจอกสยาม เพียงแต่ “ไนเจล เพียร์สัน” ทำทีมอยู่ได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น จึงจำต้องลาจากทีม
โดยไม่มีคำตอบจากผู้ใดว่าเป็นเพราะอะไร?
ทำไม?

แต่กระนั้น ถ้าดูคำพูดของ “อัยยวัฒน์” คงพอเห็นอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้น การหาผู้จัดการทีมคนต่อไป โดยเฉพาะ เคลาดิโอ รานิเอรี จึงอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ จะต้องหาคนที่เข้ากับคุณพ่อ และผมได้ด้วย
ตรงนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้จิ้งจอกสยามเดินสายผงาดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนทำให้เกิดการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประชาชนในเมืองเลสเตอร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกด้วย
ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในที่สุด

กล่าวกันว่า “วิชัย” และ “อัยยวัฒน์” ไม่เคยมองข้ามความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ของแฟนบอลเลสเตอร์ฯเลย เพราะทุกครั้งที่แฟนบอลคนใดเสียชีวิต ญาติของพวกเขา หรือเพื่อนๆ ก็จะนำกระดูกของแฟนบอลคนนั้นมาโรยที่สนาม เพราะเขาอยากอยู่ที่นี่

อยากอยู่กับทีมในดวงใจของพวกเขา
แม้จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม

ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ “วิชัย” บอก “อัยยวัฒน์” ให้ทำบุญให้พวกเขาหน่อย เพราะตั้งแต่ก่อตั้งสนามมา 100 กว่าปียังไม่เคยมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแฟนบอลเลย

และไม่เฉพาะแต่พิธีสงฆ์เท่านั้นที่พวกเขาทำบุญให้ หากทุกๆ ศาสนา พวกเขาต่างเชิญบาทหลวง, อิหม่าม และผู้นำศาสนาอื่นๆ มาทำบุญให้เช่นกัน

เพื่อพวกเขาจะได้เกิดความผูกพันกับทีมที่เขารัก

อันเป็นการมอง คิด และทำเพื่อคนอื่น
โดยใช้ใจนำทางไปสู่ทุกคน

ฉะนั้น จึงไม่แปลกเลยเมื่อ “วิชัย” และคนอื่นๆ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น จึงทำให้มีแฟนบอล และบุคคลอื่นๆ ในหลายวงการต่างไว้อาลัยแด่เขากันอย่างมากมาย

เพราะเขาต่างเป็นที่รักของทุกคน

ไม่เว้นแม้แต่วันที่เขาไม่มีลมหายใจแล้วก็ตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image