พลิกตำราสู้ ช.เจริญพาณิชย์ 2018 กลางชุมชนสันกำแพง ‘โชห่วย 4.0’ สไตล์ลอฟต์

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางญาติมิตร และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของร้าน ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ หรือร้านโชห่วย ต้นแบบ 4.0 ริมถนนที่มุ่งหน้าไปยังศูนย์ราชการ อ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

“โชห่วย” ตามความหมายในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 คือของชำ หรือร้านขายของชำ เป็นคำที่มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว อ่านว่า “โชวห่วย” โดยเป็นการรวมกันของตัวหนังสือจีน 2 ตัว แปลว่า “หยาบ พื้นๆ บ้านๆ” กับ “สินค้า สิ่งของ” รวมกันจึงหมายถึงสินค้าพื้นๆ ที่ใช้กินใช้สอยประจำวัน

ร้านขายของชำ สะดวกซื้อ สารพัดสิ่ง มักมีลักษณะอยู่ในตึกแถว มีขนาดต่างๆ กันตั้งแต่คูหาเดียวถึงหลายคูหา โดยมากเป็นกิจการเล็กๆ กิจการในครัวเรือน สร้างรายรับเล็กๆ น้อยๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีจำนวนน้อยลงไปมาก เนื่องจากไม่ได้รับการปรับรูปแบบให้ทันสมัย และต้องเผชิญกับคู่แข่งยุคโมเดิร์นเทรดที่เป็นร้านสะดวกซื้อ รูปลักษณ์ทันสมัย ติดแอร์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

แต่โชห่วยในแบบร้าน ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตึกเดี่ยว ตั้งอยู่กลางชุมชน “บ้านสันโค้ง” อ.สันกำแพง ท้าชนร้านสะดวกซื้อทุกยี่ห้อ ด้วยเอกลักษณ์พื้นถิ่นที่โดดเด่น แต่มีความทันสมัยด้วยสไตล์ ลอฟต์ (Loft) ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ สไตล์การตกแต่งห้องที่มีความกว้าง เพดานสูง ใช้วัสดุที่โชว์ให้เห็นผิวสัมผัสและสีที่แท้จริงโดยไม่ต้องปรุงแต่ง ผนังปูนเปลือย มองเห็นการเดินท่อลอยบนฝ้าเพดานและผนังที่วางระบบไฟฟ้าและประปา ที่สำคัญมีห้องน้ำให้บริการลูกค้า..

Advertisement

แรมจันทร์ มณีเกี๋ยง เจ้าของร้านโชห่วย ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ทั้งหมดเกิดมาจากการตัดสินใจเข้าร่วมประกวดการพัฒนาร้านค้าปลีก ภายใต้ “โครงการทายาทโชห่วย โชว์เสน่ห์” ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งจัดงานตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ 10 ภายใต้แนวคิด “โชห่วย 4.0 คู่คิด… เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2561

“เป็นครั้งแรกที่เข้ากรุงเทพมหานคร เพราะความต้องการที่จะพัฒนาร้านค้าเดิมให้ดีขึ้น จึงลุกขึ้นสู้ และแข่งขันกับร้านค้าจากทั่วประเทศ ซึ่งทุกคนเก่งมาก แต่ตนเองโชคดีที่ตีโจทย์แตก หลังฟังอาจารย์หลายๆ คนที่มาให้ความรู้และกลยุทธ์ต่างๆ ว่าการจะก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต้องทำอย่างไร เดี๋ยวนี้เขาจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่น มีแม่มณี เราต้องเรียนรู้ฝึกฝนตนเอง แม้จะยากแต่เราต้องปรับตัว เรียนรู้ Facebook และสื่อสารให้เร็ว มุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ทันโลกโซเชียล”

แรมจันทร์บอกอีกว่า ตนเองเป็นคนมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ คิดใหม่ ไม่จำเจ จึงภูมิใจมากกับรางวัลชนะเลิศ หลังวางแผนที่จะพัฒนาร้านอย่างไรให้เป็นที่รองรับความต้องการของลูกค้าในชุมชน เราไม่ต้องกลัวคู่แข่ง เพราะเรามีจุดขายที่มาจากรอยยิ้ม พูดจาอ่อนหวาน ไพเราะ จริงใจ รู้ใจ นั่นคือ มีสินค้าครบทุกชนิด อย่างน้อยต้อง 6-7 ชิ้น ลูกค้ามาหาต้องมีกลับไป จัดวางให้หาง่าย สรรหาแต่ของดีๆ มาให้ ร้านของเราจึงมีสินค้าพื้นถิ่น ซึ่งก็คือลูกค้าที่มาซื้อสินค้าของเรา เช่น แป้ง น้ำตาล หมู ไปผลิตสินค้าของตนเองมาฝากขายในราคายุติธรรม เป็นการอุดหนุนชุมชนให้มีรายได้ เกิดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่น แทนที่จะไปจ่ายให้ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ซึ่งเงินจะไม่กลับมาหาชุมชน

Advertisement

“สิ่งโดดเด่นของเรา คือ สินค้าราคาไม่แพงเกินไป อยากให้กำลังใจร้านโชห่วยทุกร้าน ว่าอย่าท้อถอย แต่ให้หาสิ่งแปลกใหม่มาตอบสนองความต้องการลูกค้า อาจจะมองดูยากที่ต้องแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อ แต่แค่เราปรับตัว เชื่อว่าสู้ได้แน่นอน เพราะลูกค้าร้านโชห่วยของเรา คือ คนคุ้นเคย และเราพร้อมให้คำแนะนำ เป็นต้นแบบให้กับร้านโชห่วยทุกร้าน เพราะหลังเปิดร้านโชห่วย ช.เจริญพาณิชย์ 2018 เราสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 33,000-34,000 บาทต่อวัน เป็น 45,000 บาท ซึ่งเกินกว่าแผนที่เรานำเสนอไว้ที่วันละ 5,000 บาท”

ซึ่งตรงกับที่ กวิน วิริยะพาณิชย์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในฐานะประธานเปิดร้าน ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะสำหรับคนไทยแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีกรายย่อย หรือร้านโชห่วยนับเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นสถานที่ที่คนในชุมชนมาพบปะพูดคุยกัน และยังเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่มีมาอย่างยาวนานของแต่ละท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ ความอยู่รอดของร้านค้าโชห่วย จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องคำนึงถึงและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าร้านค้าแห่งนี้จะเป็นร้านโชห่วย 4.0 ต้นแบบของชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในชุมชน ที่จะนำไปพัฒนาและปรับปรุง เพื่อให้ธุรกิจของตนเองประสบความสำเร็จ และอยู่คู่ชุมชนต่อไปอย่างยั่งยืน

ส่วน ศุภนิมิต วรกิตติ นายกเทศมนตรี ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง เสริมในฐานะผู้นำชุมชนว่า เป็นเรื่องที่ดีต่อชุมชนมาก เพราะเป็นร้านที่ค้าขายสินค้าคุณภาพจากแม็คโคร ที่มีความน่าเชื่อถือ และราคาไม่เอาเปรียบลูกค้า ชาวบ้านไม่ต้องเสียค่ารถไปในเมือง จึงน่าสนับสนุนให้เกิด 1 ตำบล 1 ร้านค้าโชห่วย 4.0 พร้อมมีสินค้าออร์แกนิคที่ผลิตเองในชุมชนของตนมาวางขาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ในขณะที่ ไพศาล รุ่งวชิรา ประธานการจัดงานตลาดนัดโชว์ห่วยครั้งที่ 10 บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า กว่า 29 ปี แม็คโครยืนหยัดเป็น “คู่คิดธุรกิจคุณ” โดยไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ของธุรกิจให้เป็นเลิศ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราตั้งโครงการ “แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย” ขึ้น เพื่อให้ความรู้ในการบริหารจัดการร้านค้าปลีกรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ เราแนะนำ “กลยุทธ์ค้าปลีก” ที่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันตลอดอายุของการดำเนินธุรกิจ ให้ความช่วยเหลือในการสร้างเครือข่ายร้านค้าปลีกอิสระที่แข็งแกร่ง โดยทีมงานพัฒนาสมาชิกของแม็คโครกว่า 400 คนทั่วประเทศ

“การจัดงานตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ 10 ภายใต้แนวคิดโชห่วย 4.0 คู่คิด… เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และจัดการประกวดการพัฒนาร้านค้าปลีกภายใต้โครงการทายาทโชห่วย โชว์เสน่ห์ ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2561 หวังเพิ่มศักยภาพ เสริมความรู้ด้านค้าปลีกอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การเขียนแผนงานธุรกิจของร้าน การคัดสรรสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไอเดียเสริมเพิ่มรายได้ การออกแบบและก่อสร้างให้เป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ จนถึงร้านสามารถเปิดดำเนินกิจการได้จริง”

ไพศาลกล่าวอีกว่า ครั้งนี้มีกว่า 80 ร้านค้าเข้าร่วมแข่งขัน คณะกรรมการคัดเลือกจนเหลือ 50 ร้าน ให้ผ่านเข้ามาอบรมให้ความรู้แบบเคี่ยวกรำ เขียนแผนธุรกิจและนำเสนอผลงาน หารือร่วมกับนักออกแบบปรับปรุงร้านโชห่วย รวม 3 รอบ จนเหลือ 5 ร้าน ที่ต้องผนึกกำลังระหว่างเจ้าของร้านโชห่วยและทีมออกแบบ สรรค์สร้างโชห่วยต้นแบบ เปลี่ยนโฉมร้านโชห่วยแบบดั้งเดิม ให้เป็นร้านโชห่วย 4.0 ที่มีเสน่ห์โดดเด่น ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงสู่ยุค 4.0

และปีนี้ผู้ชนะเลิศการประกวดได้แก่ ร้าน ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวนกว่า 600,000 บาท มาใช้ปรับปรุงและยกระดับให้เป็นร้านโชห่วยต้นแบบของชุมชน เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ตัวอย่างและต้นแบบของการทำร้านโชห่วยให้กับพี่น้องในชุมชนและผู้ที่สนใจ เพื่อให้มีความเข้มแข็ง และเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต เขาชนะเพราะเขามีแผนธุรกิจ สามารถทำงานร่วมกับนักออกแบบได้อย่างโดดเด่น เสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นได้อย่างลงตัว และทำทุกอย่างด้วยใจ

“โชห่วยที่ดี ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้า เป็นศูนย์กลางของท้องถิ่นและชุมชน คนท้องถิ่นรัก นอกเหนือจากการบริการที่ดี ตามเทรนด์ของตลาดให้ทัน ทำเลดี มีสินค้าเหมาะสมกับท้องถิ่น ซึ่งการจัดการแข่งขันจะช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ มีความแตกต่างจากโชห่วยแบบเดิมๆ”

ร้านโชห่วย ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ ของแรมจันทร์ มณีเกี๋ยง ได้ทีมนักออกแบบรุ่นใหม่ไฟเต็มร้อยวัย 26-27 ปี จากทีม ไม้ไทย-Maithai Creative Studio ประกอบด้วย อธิทัต เกิดศรีเล็ก สหวัฒน์ โรจน์พงษ์ และ อัคกร สุขภุมรินทร์ มาร่วมรังสรรค์ผลงาน ตอบโจทย์ตามหัวข้อ “มีนวัตกรรม นำสมัยยุค 4.0” และการจัดการร้านค้าปลีก 8 ขั้นตอน สู่ความสำเร็จ ซึ่งหนุ่มทั้งสามคนบอกว่า เราตีจากโจทย์ที่ได้มา ผนวกกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งก็คือ พี่แรมจันทร์ และแม็คโคร ทั้งวัน เวลา งบประมาณ และรูปแบบให้ง่ายๆ ก่อน ต้องไม่หรูเกินไป เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของลูกค้า จนปรับให้เข้ากับพื้นที่ เรียกว่างานนี้มีความกลมกล่อม ด้วยสไตล์ลอฟต์ (Loft) ที่มีความเป็นท้องถิ่น ลงตัวที่งานไม้แกะสลักของ อ.สันกำแพง ติดอยู่บนผนังร้าน สวยเก๋ เป็นจุดเด่น พวกเราพอใจในผลงานชิ้นนี้ เพราะหาโอกาสยากมากที่จะได้มาออกแบบร้านโชห่วย

ไม้แกะสลักรูปแรด 3 ตัว สัญลักษณ์ของร้าน ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ มาจาก นิมิตร มณีเกี๋ยง สามีเจ้าของร้าน ซึ่งมีอาชีพเดิมเป็นช่างไม้แกะสลัก เขาบอกว่า เงิน 3,500 บาท จากการขายไม้แกะสลักชิ้นนั้น กลายเป็นทุนขายผลไม้ตามตลาดนัดเร่ขายไปเรื่อยๆ จนสามารถซื้อที่เปิดร้านขายของชำมานานกว่า

13 ปี มี 2 สาขา โดยโชห่วยสาขาแรกที่บ้านบวกค้าง และสาขาที่สอง บ้านสันโค้ง อ.สันกำแพง ซึ่งปรับเปลี่ยนหน้าตาและภายในใหม่ทั้งหมด เป็น โชห่วย 4.0 ที่โชว์เสน่ห์ให้ลูกค้าได้จริง

ความโดดเด่นของสินค้าภายในร้าน นอกจากจะวางให้หยิบง่ายบนชั้นไม้สวยมีสไตล์แล้ว ยังครบครันตามความต้องการ มีหลายขนาดให้เลือกซื้อ มีสินค้าท้องถิ่นที่ไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นขนมแบรนด์ดังของเมืองเชียงใหม่ สินค้าโอท็อปจากชุมชน ทั้งปลาย่าง แหนม (อ้ายหมอ) ไข่ไก่อารมณ์ดี ครีมนวดผมสมุนไพร ราคาจับต้องได้ ซึ่งทุกชนิดจะลองกินและใช้ก่อนนำมาวางขาย เป็นของดี มีคุณภาพ สะอาด ถูกหลักอนามัย

เรียกว่าเป็นการทำธุรกิจที่ทำให้คนในชุมชนไม่ละทิ้งถิ่นฐานไปไหน บุคลากรในร้านโชห่วย ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่จึงมาจากลูกหลานคนสันกำแพง ล่าสุดลูกชายคนโตจบการศึกษาจากคณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เร็วๆ นี้ เตรียมที่จะนำพืชผักและเมล็ดพันธุ์ออร์แกนิคมาวางขายด้วย เพราะเชื่อว่าเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักสุขภาพ

ร้านโชห่วย ช.เจริญพาณิชย์ 2018 จังหวัดเชียงใหม่ จึงตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย ด้วยหัวใจบริการในยุค 4.0 อย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image