ห่มลมหนาวเบาๆ สูดโอโซนเต็มปอด แล้วออกไปตะลุยกัน ‘สระบุรีไม่ได้มีแต่ทุ่งทานตะวัน’

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เห็นไกลๆ คือ สะพานข้ามภาค

อาจเพราะที่ผ่านมาสระบุรีเป็นแค่ทางผ่าน ผ่านออกไปเมืองย่าโม ฯลฯ และใครๆ ก็มองว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ถ้าได้ลองเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ “มวกเหล็ก” ด้วยระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 150 กิโลเมตร จะได้พบกับสิ่งดีงามมากมายหลายหลาก ไม่เพียงแค่กะหรี่ปั๊บครูต้อ หรือทุ่งทานตะวัน

“มวกเหล็ก” เป็นแหล่งอาหาร แหล่งวัตถุดิบที่ครัวโลกกำลังต้องการ ออร์แกนิค 100% ปลูกด้วยรักคัดด้วยใจ ทั้งพืชผักและผลไม้ อย่างเมลอน แก้วมังกร น้อยหน่า มัลเบอร์รี่ องุ่น แม้กระทั่งทุเรียน สตรอเบอรี่ยังมี

ยังเป็นแหล่งฟอกปอดชั้นดี เป็นเมืองโอโซนอันดับ 7 ของโลก อากาศดีทั้งปี อุณหภูมิต่ำกว่าในเมือง 5 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางอย่างยิ่งยวด

วรรณภา ชินชูศักดิ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสระบุรี และประธานกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) และประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดสระบุรี (YEC) บอกว่า หลังจัดงานมวกเหล็กฮาล์ฟมาราธอนปีที่ 2 ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว 4,500 คน จึงมองว่าตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในโซนมวกเหล็ก

Advertisement

“มวกเหล็กมีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือเรื่องของนม นมกล่องแรกของไทยมาจาก อ.มวกเหล็ก (นมไทย-เดนมาร์ค) โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงส่งเสริมไว้”

(ที่ 2,3จากซ้าย) วรรณภา, รัศนญพร และ YEC สระบุรี

นอกจากนมแล้วมีเส้นทางน่าสนใจหลายเส้นทาง อาทิ อุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ที่ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติปีที่ผ่านมา มีน้อยหน่า ผลไม้ปลอดสารพิษ และมีโอโซนเป็นอันดับ 7 ของโลก ไม่ว่าเขาใหญ่จะประกาศว่ามีโอโซนเป็นอันดับที่เท่าไหร่ มวกเหล็กจะมีโอโซนเท่ากัน เพราะเราอยู่ติดกัน เราจะมี “โคอี้มอร์รี่” (น้องวัวลายดอกทานตะวัน มีหูเป็นกะหรี่ปั๊บ) เป็นทูตของการท่องเที่ยว

“ความสำคัญของจังหวัดสระบุรี คือเรามีรอยพระพุทธบาททั้งเบื้องขวาและเบื้องซ้าย มีท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งน้ำสำหรับพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา มีเส้นทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางแรกที่เราทำต่อเนื่อง รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว เพราะมีที่เที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอดเวนเจอร์ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปลูกผัก สวนผักเกษตรอินทรีย์ ส่วนนักท่องเที่ยวกรุ๊ปใหญ่ รถบัสคันใหญ่ๆ เรายังไม่สะดวก”

Advertisement
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ทางด้าน รัศนญพร มโนศรีบุญรัตน์ นายกสมาคมท่องเที่ยวสระบุรี กรรมการที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เล่าเสริมว่า นอกจากเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศแล้ว ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

“ตอนนี้ทางสระบุรีจะให้มีเส้นทางท่องเที่ยวสากล ที่ทุกคนมาสระบุรีแล้วอยากจะไป คือ เส้นทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส 11 จุด 14 ครั้ง เป็นไฮไลต์ทั้งหมด อาทิ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วัดพระพุทธบาท ฯลฯ”

รัศนญพร มโนศรีบุญรัตน์

ยังมีเส้นทางศรัทธามหากุศล มีวัด 9 วัด มีพระพุทธรูปทองคำ พระแก้วมรกต 3 ฤดู อยากเชิญชวนมาสัมผัส วัดพุทธบาทราชวรมหาวิหาร วัดพระพุทธบาทน้อย วัดเขาวง วัดพะเยาว์ วัดสูงเสาไห้ วัดเขาแก้ววรวิหาร วัดพระพุทธฉาย วัดป่าสว่างบุญ และวัดถ้ำโพธิสัตว์

“สโลแกนของสระบุรี มหัศจรรย์เมืองสระบุรี เที่ยวได้ทั้งปี มีดีทุกเดือน เป็นของจริงไม่ได้โม้ เมื่อก่อนคนมองว่าสระบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรม เรามองว่ารายได้จากอุตสาหกรรมพอแล้ว เราไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ก็เห็นว่าของเราก็มี ของเราก็โชว์ได้” รัศนญพรบอก

 

“มิลค์แลนด์” ดินแดนแห่งนม


และแล้วแอดเวนเจอร์เบาๆ ของเราก็เริ่มขึ้น ณ “มิลค์แลนด์” ดินแดนแห่งนม ใน อ.ส.ค. จุดเริ่มต้นของนมกล่องแรกในไทย

เบื้องหลัง “นมวัวแดง” ที่มีประวัติศาสตร์ย้อนเล่าไปถึงความสัมพันธ์ไทย-เดนมาร์ก เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จประพาสเดนมาร์ก เสด็จเยือนฟาร์มโคนมและทรงเห็นว่า นมเป็นอาหารที่ดี และเพื่อส่งเสริมให้เกิดอาชีพเลี้ยงโคนม ทรงมีดำริตั้ง อ.ส.ค.ขึ้น

ปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เรียนรู้อาชีพพระราชทานผ่านศาสตร์ของพระราชา ส่วนผลผลิตจากนมโคก็ไม่ได้มีแค่นมสด นมพาสเจอร์ไรซ์ ยังมีโยเกิร์ต นมออร์แกนิค ฯลฯ รวมทั้งมีสเต๊กหมู สเต๊กปลา ไอศกรีมหลากรสชาติ ที่เปิดให้บริการที่ “มิลค์แลนด์ สาขา 2”

สำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่เปิดบริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีกิจกรรมตั้งแต่สาธิตการทำปุ๋ยนม รีดนมแม่โค ป้อนนมลูกวัว ชมการแสดงม้าและคาวบอย วันละ 6 รอบ สอบถาม 0-3634-2053, 08-9901-8035

ล่องแก่ง

ฝึกรีดนมกันพอหอมปากหอมคอแล้ว จุดหมายต่อไปคือ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” อุทยานแห่งชาติใหม่หมาดเพิ่งประกาศเมื่อปีที่แล้ว ที่นี่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมิได้ขาดเพราะน้ำใสไหลเย็นเล่นได้ตลอดทั้งปี มาแล้วต้องได้เดินข้าม “สะพานข้ามภาค” จุดเชื่อมต่อระหว่างภาคกลาง (สระบุรี) และภาคอีสาน (โคราช)

แนะนำว่า ถ้าจะถ่ายภาพ ฝั่งโคราชสวยกว่าเยอะ!

จากนั้นโปรแกรมที่ทุกคนตั้งตารอ “ล่องแก่ง” (มีรถเอทีวีให้บริการด้วย) อยู่ในพื้นที่ของน้ำตกเจ็ดสาวน้อย บริเวณที่เรียกว่า “ภูเกาะ”

ด้วยระยะทางในการล่องประมาณ 4 กิโลเมตร กับ 16 แก่งให้แอดเวนเจอร์ แค่เริ่มปล่อยตัวลงน้ำก็พาเอานักท่องเที่ยวขาสั่นเล็กๆ โดยจะลากเรือยางขนาด 3 ที่นั่งขึ้นบนลำราง หลังเสียงระฆังดัง เรือจะถูกปล่อยลงน้ำในมุมกด 30 องศา แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังก้องไปทั่วคุ้งน้ำ

สนนค่าบริการหัวละ 350 บาท ลำละ 2 คน พร้อมมือคัดท้าย ใช้เวลาล่องแก่ง 40 นาที แต่ถ้าพายเรือเป็นจะโซโลเองก็ยังได้ “เจ๊ลำไย” สกุลวดี นาคสิงห์ (โทร 08-4650-2065) รับรองว่าปลอดภัย

“น้ำนิ่งทำยังไงเรือก็ไม่ล่ม ยกเว้นตรงแก่งหินใหญ่” เจ๊บอก โดยจะมีเรือนำคอยชี้จุด พร้อมกระโจนเข้าช่วยเหลือตลอดเวลา พอล่องถึงปลายทางจะมีรถบริการรับกลับมาส่ง ณ จุดเดิม

“ต้องบอกว่าเป็นเพราะฟ้าลิขิต” เจ๊ลำไยบอกว่าตนเองเป็นแม่บ้านทหารบกอยู่ลพบุรี ทุกปีเมื่อจะพักผ่อนจะขับรถขึ้นเหนือตลอด พอดีว่ามีอาอยู่ที่นี่ เห็นว่าอากาศดีและสงบจึงมาหาซื้อที่สร้างบ้านพัก

ตอนมาที่นี่ใหม่ๆ ธุรกิจล่องแก่งกำลังขาลง คนที่ทำอยู่จึงชวนให้มาลงทุน ส่วนใหญ่ลูกค้ามาจากกรุงเทพฯ เราทำมาปีนี้เป็นปีที่ 10 ส่วนรถเอทีวีมาทำทีหลัง หลังจากที่เราพอยืนได้ คิดว่าน่าจะมีเอทีวีเป็นอีกตัวเลือกให้ลูกค้า

“ปีนี้ลูกค้าลดลงไป 40% ปัญหาของคนทำธุรกิจท่องเที่ยวคือ ต้องรู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักเก็บตอนนั้นเพื่อมากินตอนนี้”

 

มัลเบอร์รี่ “ฟาร์มสายทอง”


เสียงชาวคณะเร่งมาแต่ไกล ต้องรีบไปทำความรู้จักกับไร่มัลเบอร์รี่ “ฟาร์มสายทอง” ของ “ป้าน้อย” สายสุณีย์ สุวรรณดี นี่ก็ปลอดสาร ป้าน้อยบอกว่าเก็บกินได้เลยจากต้น เพราะดูแลเองทุกขั้นตอน รวมถึงตัดกิ่ง เก็บผลไปขาย

เฉพาะพื้นที่ที่ใช้ปลูกมัลเบอร์รี่ หรือลูกหม่อน 5 ไร่ ป้าน้อยในวัย 69 ปี บอกว่าทยอยเก็บทีละแถว วันเว้นวัน ก็ได้วันละ 2 ตะกร้าใหญ่ (ประมาณ 11 กิโลกรัม) ทั้งขายผลสด แปรรูปเป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่ม ทำแยม ทำซอสราดเค้ก หรือจะเอาไปเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร อย่างส้มตำ ต้มยำไก่บ้าน น้ำพริกอ่อง ฯลฯ ก็อร่อย

ส่วนต้นที่เป็นพันธุ์เก็บใบไปเลี้ยงตัวไหม ได้จากกรมหม่อนไหม ใบจะใหญ่กว่าพันธุ์เก็บลูก สามารถแปรรูปเป็นชาเขียวได้ หรือจะนำไปชุบแป้งทอดก็ย่อมได้ แต่จะเก็บเฉพาะใบยอดแค่ 3 ใบเท่านั้น

ป้าน้อยบอกว่า หลังจากที่ลองผิดลองถูกมา 5 ปี เพิ่งเริ่มทำขายได้ใน 5 ปีหลัง ภายใต้แบรนด์ “มัม เบอร์รี่” (MomBerry) ทุกวันนี้มีความสุขกับต้นไม้ต้นไร่ ซึ่งนอกจากต้นหม่อน ยังปลูกพืชผักผลไม้อย่างอื่นอีกด้วย

บ้านไร่สมเกียรติ โฮมสเตย์

คืนนั้นชาวคณะพักที่ “บ้านไร่สมเกียรติ โฮมสเตย์” อีกตำนานรีสอร์ตของคนย่านนี้

สมเกียรติ และ สุภาวดี ชุมปัญญา เป็นนักธุรกิจจากกรุงเทพฯ แต่เพราะวันหนึ่งสมเกียรติป่วยและพบว่าปอดเป็นฝ้า ทั้งที่ไม่ได้กินเหล้า-สูบบุหรี่ ต้องแอดมิดอยู่ 2 เดือน หลังจากนั้นจึงมาพักฟื้นที่นี่พร้อมกับกินยาตามหมอสั่งอยู่ 3 สัปดาห์ ปรากฏว่าเอกซเรย์รอบใหม่ไม่พบฝ้าที่ปอด เป็นจุดเริ่มต้นของ “บ้านไร่สมเกียรติ” เมื่อ 13 ปีก่อน

“ต้นไม้ทุกต้นปลูกมากับมือ” สุภาวดีบอก จากเมื่อก่อนที่เป็นที่ดินว่างเปล่าพื้นที่แค่ 10 ไร่ ค่อยๆ สร้างบ้าน ปลูกป่า ทำเกษตร ทำที่พัก จนเดี๋ยวนี้มีประมาณ 40 ไร่ ขุดบ่อ ปลูกพืชผัก เลี้ยงไก่ ไว้กินใช้เอง ไม่เคยขาย แจกอย่างเดียว

ส่วนที่พักเพิ่งมาเก็บค่าใช้จ่ายจริงๆ เมื่อ 10 ปีหลัง แล้วแนะนำกันปากต่อปากมาเรื่อยๆ แม้กระทั่งโบรชัวร์ลูกค้าก็ทำให้

“มันเป็นธุรกิจที่เราไม่คิดจะทำ แต่อยู่แล้วมีความสุข” สุภาวดีบอก

 

ไร่ภูนวพันธุ์


รุ่งเช้าสูดโอโซนเต็มปอด หลังอิ่มหนำกับข้าวต้มหมูสับหอมกรุ่น กาแฟ ขนมปัง บอกลาแล้วออกเดินทาง หมุดหมายแรกที่ ไร่องุ่นไร้เมล็ดปลอดสารพิษ ภูนวพันธุ์ ของ สมชาย ผลเคน นอกจากผลผลิตจากองุ่นแล้ว ยังมีผักปลอดสาร 100% ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ขิง-ข่า-ตะไคร้ ให้หอบหิ้วกันได้อย่างสบายใจ

แล้วแวะไปเยี่ยมชม “สวนผักครูสรรเสริญ” ที่นี่เป็นผักปลอดสารพิษที่แปลง (ปลูกลง) ดินใหญ่ที่สุดในมวกเหล็ก

ครูสงบ เพียรทำดี (สามีครูสรรเสริญ) เล่าให้ฟังว่า ลาออกจากราชการตอนอายุ 59 ปี มาเป็นเกษตรกรปลูกผัก แต่การทำเกษตรไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง เพราะผันแปรด้วยปัจจัยของดินฟ้าอากาศ แต่ด้วยเราเป็นครู มีพื้นอยู่แล้วจึงเริ่มศึกษาปรับปรุงดิน พอผักเริ่มงามก็มีกำลังใจ 8-9 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มมั่นใจว่าเราอยู่ได้ แต่อยู่อย่างเกษตรกร มัธยัสถ์ พอเพียง

สวนผักครูสรรเสริญ


โชคดีที่ภาครัฐมองว่าสวนเรามีศักยภาพเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ ให้องค์ความรู้แก่เกษตรกรได้ ทำให้เรามีความหวังในอาชีพของเรามากขึ้น นอกจากการปลูกผักปลอดสารพิษ ที่นี่จึงเริ่มนำเมล็ดทานตะวันมาทำเป็นต้นอ่อนทานตะวัน เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้คุณค่ามากกว่าถั่วงอกเสียอีก

หรืออย่างการทำ “สลัดโรล” เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผักสลัดของเรา เพราะเมื่อเปรียบเทียบเมืองภูเขากับเมือง (ชาย) ทะเล เมืองภูเขามีรายได้ปีละไม่เกิน 4-5 เดือน แต่เมืองทะเลได้ตลอด

“สลัดโรล” สวนผักครูสรรเสริญ


แล้วไปต่อกันที่ “สวนบิ๊กเต้” สวนดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนเนื้อที่ 100 ไร่ ที่เป็นแม่เหล็กตัวใหญ่ของการท่องเที่ยวในย่านนี้ ตัดดอกส่งขายไปทั่วประเทศ โดยเป้าหมายเพื่อลดการนำเข้าดอกเบญจมาศจากคาเมรอนไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย ปีละกว่า 20 ล้านบาท

สวนบิ๊กเต้


ปัจจุบันหลังจากทำผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ สุดาสิริ พรหมพิทักษ์ ผู้จัดการสวนบิ๊กเต้บอกว่า สามารถลดยอดการนำเข้าดอกเบญจมาศได้แล้ว

“ดอกเบญจมาศมีทุกวันทั้งปี ผลผลิตวันละ 1 ตัน ส่งภาคกลาง ภาคอีสาน ห้างแม็คโคร ตอนนี้ไปถึงแม็คโครหัวหินแล้ว เราปลูกมา 13 ปี แต่เพิ่งเปิดสวนให้เข้าชม 3 ปีนี้เองค่ะ โดยเก็บค่าเข้าชมสวนคนละ 20 บาท”

ก่อนจะปิดท้ายด้วยการไปไหว้พระที่ วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ที่รองประธานหอการค้า สระบุรี แนะนำว่า เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ตรงสะดือของถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยลักษณะคล้ายกับดาว

“เราสามารถหลอกสาวๆ แล้วบอกว่าเอาเดือนเอาดาวมาให้คุณได้” (ฮา)

วัดถ้ำดาวเขาแก้ว
สะดือถ้ำ วัดถ้ำดาวเขาแก้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image