ที่มา | คอลัมน์ โลกสองวัย บางกอกเกี้ยน |
---|---|
ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน |
ห้วงนี้ ข้าราชการมีวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน ตั้งแต่วันฉัตรมงคล พฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม เพื่อให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน รัฐบาลจึงประกาศให้วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม เป็นวันหยุดราชการพิเศษอีกหนึ่งวัน เพื่อต่อด้วยวันเสาร์ วันอาทิตย์ที่ 7-8 และวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พืชมงคล เป็นวันหยุดของข้าราชการ
ปกติ วันหยุดของทางราชการกำหนดเป็นวันนักขัตฤกษ์ ซึ่งเป็นวันสำคัญทั้งของชาติ วันสำคัญทางศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ และสถาบันกษัตริย์
วันพืชมงคลและวันจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยราชสำนักประกอบด้วยพิธีสองอย่าง คือ พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีพุทธ กับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีพราหมณ์
ทั้งสองพระราชพิธี กำหนดเป็นวันเดียวกันคือ วันพืชมงคล และวันจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งในแต่ละปีไม่ตรงกัน แล้วแต่สำนักพระราชวังจะกำหนด ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม คือวันนี้
ด้วยเหตุที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม วันพืชมงคลจึงเป็นวันหยุดของข้าราชการ ซึ่งนับเป็นเกษตรกรของแผ่นดิน ไม่ใช่วันแรงงานที่กำหนดตามสากล คือวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “May Day” ซึ่งประเทศไทยรับมาเป็น “วันแรงงานแห่งชาติ”
พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เพื่อให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นปราศจากโรค ให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีพราหมณ์แต่โบราณ เริ่มต้นการไถนา หว่านเมล็ดข้าว เพื่อเป็นอาณัติสัญญาณว่า ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกเริ่มแล้ว
พิธีทั้งสองห่างหายไปหลายปี เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศไม่อยู่ในภาวะที่จะจัดงานใดๆ
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2503 ทางราชการพิจารณาเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม จึงฟื้นฟูทั้งพระราชพิธีพืชมงคลและจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้นมา โดยจัดในวันเดียวกัน เรียกว่า พระราชพิธีพืชมงคล
พระราชพิธีพืชมงคลจัดขึ้นเป็น 2 วัน
วันแรก พระสงฆ์ประกอบพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประกอบพระราชพิธีสงฆ์ ทรงอธิษฐานเพื่อความสมบูรณ์แห่งพืชผลของราชอาณาจักรไทย
พระมหาราชครู ประธานคณะพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีพืชมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งน้ำสังข์ พระราชทานใบมะตูมแก่พระยาแรกนา คือปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทรงเจิมแก่เทพีผู้เข้าในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จนเสร็จพิธี
ส่วนวันที่สอง เช้า ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่พระยาแรกนาออกจากพระบรมมหาราชวังไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งขบวนแห่อิสริยยศตามพระราชพิธี ถวายสักการะเทวรูปสำคัญในโรงพิธีพราหมณ์ แล้วตั้งสัตยาธิษฐานหยิบผ้านุ่งแต่งกายทับผ้านุ่งเดิมอีกชั้นหนึ่ง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯถึงพลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทรงเป็นประธานในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
พิธีแรกนาขวัญจึงดำเนินไปตามกระบวนการ หลังจากหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วเสร็จ เป็นอันเสร็จพิธี
บรรดาเกษตรกรและประชาชนจึงพร้อมกันวิ่งเข้าไปในบริเวณพิธีหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว จัดเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวนั้นเพื่อนำไปเป็นมงคลเริ่มทำนาหลังจากนั้น
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่บรรดาเกษตรกรต่างจับจ้องคือ การเสี่ยงทายของกิน 7 อย่างที่พระโคเลือกกิน เพื่อให้โหรหลวงทำนายว่า พระโคกินสิ่งใด จะได้ทราบว่าปีนั้นน้ำมากน้ำน้อย พืชพันธุ์ธัญญาหารได้กี่ส่วน เสียกี่ส่วน และที่สำคัญคือ บรรดาเกษตรกรดีเด่นเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณด้วย