เดินไปในเงาฝัน : เดินไปในเงาอดีต : โดย สาโรจน์ มณีรัตน์

ไม่รู้เป็นเพราะอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มากไปหรือเปล่าไม่ทราบ จึงทำให้ผมชอบเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในประวัติศาสตร์

โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ช่วงสมัยกรุงธนบุรีต่อเนื่องกับต้นรัตนโกสินทร์

ทั้งนั้นเพื่ออยากดูสถานที่จริงที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเหล่านั้น ซึ่งบางหลักฐาน บางข้อมูลจากจดหมายเหตุฉบับ

ต่างๆ อาจไม่ได้ลงรายละเอียดลึกลงไปถึงเหตุการณ์ และตัวละครจริงทั้งหมด

Advertisement

แต่กระนั้น จากการตีความของนักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ก็ทำให้ผู้อ่านอย่างเรา ซึ่งมีความรู้เพียงหางอึ่งรู้สึกอยากเดินตามรอยประวัติศาสตร์สถานที่เหล่านั้น

ผมว่าเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งทีเดียว

เพราะแค่นำตัวเองเข้าไปซึมซาบกับเรื่องราวสมัยนั้น โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ขอเพียงแค่ย้อนอายุตัวเองให้เข้าไปอยู่ในช่วงต่างๆ ของประวัติศาสตร์ขณะนั้น

Advertisement

ผมว่าสนุกแล้ว

แต่กระนั้น ก็ระคนไปด้วยความกริ่งเกรงต่างๆ ประกอบกัน เพราะสถานที่ที่เราเดินทาง ครั้งหนึ่งเคยมีบรรพบุรุษโบราณทั้งหญิง ชาย และเด็กเคยเดินสวนไปสวนมาในสถานที่เหล่านั้นมาก่อน

เราจึงต้องถ่อมตนอย่างมีสัมมาคารวะ

อย่าไปเที่ยวแสดงกิริยาไม่ดีเด็ดขาด ดีไม่ดีอาจฝันร้ายตอนกลางคืนได้ (ฮา)

ช่วงปีใหม่ผ่านมา แม้ผมจะไม่ได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ตามประวัติศาสตร์แต่ละช่วง แต่ผมก็ใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวไปตามสถานที่ต่างๆ ที่ผมคุ้นเคยในวัยเด็ก

ผมว่าเป็นการย้อนรอยความทรงจำที่น่าสนใจทีเดียว

ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนผมบ้าง ยิ่งตอนหลังๆ ถ้ามีเวลาผมมักจะหาโอกาสเดินทางไปในที่ต่างๆ ที่เราเคยมีความทรงจำดีๆ เกิดขึ้น

เป็นเพราะเราอายุมากขึ้นหรือเปล่าไม่ทราบได้

แต่ผมรู้สึกว่าแต่ละสถานที่ที่เราเข้าไป ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก บางครั้งทำให้นึกถึงเพื่อน บางครั้งทำให้นึกถึงวีรกรรมต่างๆ ที่เคยทำมา

หรือบางครั้งทำให้เรารู้สึกเห็นภาพของคนบางคนผุดพรายขึ้นมาเตือนความทรงจำอีกครั้ง จนทำให้รู้สึกว่าแต่ละสถานที่ แต่ละช่วงวัย และแต่ละกลุ่มเพื่อนที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุ ล้วนทำให้เรามองเห็นอดีตผ่านมา

อดีตที่อาจมีความสุข
อดีตที่ระคนกับความทุกข์
และอดีตที่ทำให้เรารู้สึกทุกครั้งว่า…ตรูไม่น่าทำเลย
ไม่เช่นนั้นคงดีกว่านี้เป็นแน่

แต่อย่างว่า ทุกการกระทำผ่านมาสิ้นแล้ว เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ สู้นำสิ่งต่างๆ ในอดีตมาเป็นบทเรียนสอนใจเพื่อเตือนตัวเองให้อย่าทำเช่นนั้นอีกจะดีกว่า

เพราะตลอดช่วงปีใหม่, ผมนั่งทบทวนเรื่องราวผ่านมาตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ ก็รู้สึกขอบคุณตัวเองที่มาถึงวันนี้ได้อย่างไม่มีบาดแผลเท่าไหร่นัก

ไม่ใช่เพราะเอาตัวรอดเก่ง

แต่คิดว่าคงเป็นเพราะโลกของหนังสือที่ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะทุกเล่มที่เกิดจากการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมไทย และต่างประเทศ

หนังสืออัตชีวประวัติบุคคลสำคัญ

และหนังสือประวัติศาสตร์ต่างๆ

ล้วนทำให้เรามองเห็นสิ่งละอันพันละน้อยจากตัวอักษรเหล่านั้น จนทำให้เรานำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่ต้องปากกัดตีนถีบตลอดเวลา

ฉะนั้น จึงไม่แปลกหรอก เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เราจึงนำคุณค่าของตัวอักษรที่ถูกอ่านผ่านตาวันแล้ววันเล่ามาสร้างสรรค์เป็นอักษรใหม่ในหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่เขียนอยู่

เพราะทุกอย่างล้วนมีรากทั้งสิ้น

เพียงแต่รากของผม ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย หากเป็นรากที่ค่อยๆ หยั่งลึกลงไปในตัวตน จนทำให้มองเห็นแล้วว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม

ยากดีมีจน

ล้วนแต่มีอดีตซ่อนอยู่ทั้งสิ้น

เพียงแต่อดีตของผม อาจไม่เลิศหรูสำหรับบางคน เพราะอดีตของผมต่างเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ เพราะฉะนั้น การเดินทางเข้าไปหาอดีตในช่วงปีใหม่ผ่านมา

จึงเป็นการเดินทางที่มีความสุขยิ่ง

วันหลังมีโอกาสจะนำมาบอกเล่าสู่กันฟังนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image