| ที่มา | คอลัมน์ โลกสองวัย |
|---|---|
| ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน |
ใกล้เปิดภาคเรียนของน้องหนู จากกลางเดือนนี้-พฤษภาคม ถึงต้นเดือนหน้า-มิถุนายน โรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ตอนปลาย) จะทยอยเปิดทุกแห่ง จากนั้นจึงถึงวาระไหว้ครูประจำปี
สำหรับน้องหนูเด็กเล็กและอนุบาลมักเปิดก่อนหน้านี้ เด็กเล็กจะเปิดก่อนตั้งแต่ปิดภาคเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าเรียนในชั้นอนุบาล
วิชาหนึ่งที่โรงเรียนต้องเน้นย้ำเป็นประจำคือ วิชาสุขศึกษา ไม่ว่าจะเรียกใหม่วิชาอะไรก็ตาม แต่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้ทั่วถึงกันหมดคือ สุขอนามัย หรืออะไรทำนองนี้ ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ลืมไปแล้ว ทั้งยังค้นหาไม่เจอะเจอ ด้วยสมัยนี้เขาใช้คำตรงไปตรงมา เช่นอนามัยในช่องปาก เป็นต้น
น้องหนูทุกวันนี้รู้จักการแปรงฟัน การอาบน้ำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งได้รับการปฏิบัติจากพ่อแม่ผู้ปกครองตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก และการบอกกล่าวจากคุณครูเมื่อเข้าโรงเรียน
เรื่องการแปรงฟัน ทันตแพทย์รณรงค์เรื่องนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และการแปรงฟันหลังมื้ออาหาร ทุกวันนี้ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) มักพบเห็นเพื่อนที่ที่ทำงานไม่ว่าหน้าที่ใด ทั้งอายุไม่มากและอายุมาก หลังอาหารเช้า อาหารเที่ยง มักถือแปรงสีฟันพร้อมยาเข้าห้องน้ำแปรงฟันแทบทุกคน
หลายครั้งที่ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เห็นรุ่นน้องในสำนักงานปฏิบัติเช่นนั้น มักแกล้งเย้าไปว่า เมื่อเช้าไม่ได้แปรงฟันมาหรือจ๊ะ
วันก่อนอ่านพบในไลน์ บอกว่าเวลาไหนไม่ควรแปรงฟัน เพราะทำให้ฟันสึกเร็วกว่าที่ควร ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ทั้งที่ทราบดีแล้วว่าทุกวันนี้ความรู้นี้ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด ใครๆ ก็รู้แล้ว
แต่ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ยังไม่รู้ จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อเตือนตัวเองอีกครั้งและอีกครั้ง
ไลน์บอกว่าการแปรงฟันที่ถูกวิธีซึ่งหลายคนยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทำให้เกิดคำถามในแต่ละวันว่าเราควรแปรงฟันกี่ครั้งจึงจะดี แล้วมีช่วงเวลาไหนที่ไม่ควรแปรงฟันบ้างไหม
โดยพื้นฐานเราควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย แต่บางคนแอบแถมโดยแปรงหลังมื้ออาหารเพื่อความสะอาดของช่องปากด้วย ซึ่งไม่ใช่วิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง
ถ้าอย่างนั้นจริงๆ แล้ว เวลาไหนที่ไม่ควรแปรงฟัน
แปรงฟันก่อนรับประทานอาหารทันที หมายถึงแปรงฟันแล้วไปรับประทานอาหาร เช่นหลังตื่นนอน กิจวัตรประจำวันของทุกคนคืออาบน้ำและแปรงฟัน จึงไปรับประทานอาหารเช้า
ทันตแพทย์ประทีป พันธุมวนิช ให้เหตุผลไว้ในนิตยสารหมอชาวบ้านว่า หากเรารับประทานอาหารหรือดื่มน้ำหลังแปรงฟันหมาดๆ อาหารและเครื่องดื่มจะไปชะล้างฟลูออไรด์ที่เคลือบฟันจนหมด คราวนี้จะเสี่ยงต่อโรคฟันผุมากขึ้น
แต่หากไม่ชิน แนะนำให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดสัก 1-2 แก้วก่อน อาจทำให้รู้สึกสะดวกใจขึ้น
แปรงฟันหลังรับประทานอาหารทันที โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกรดสูง เช่น น้ำส้ม น้ำผลไม้ซิตรัส โซดา หรือน้ำสลัด ความเป็นกรดจะทำให้เคลือบฟันอ่อนลง เมื่อแปรงฟันจะเปิดโอกาสให้ฟันสึกง่าย ดังนั้น จึงไม่ควรแปรงฟันทันที แต่ควรปล่อยให้สารละลายน้ำลายลดความเป็นกรดของอาหารที่กินเข้าไปประมาณ 30-60 นาที
สำหรับผู้เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรง ทันตแพทย์อาจแนะนำให้แปรงฟันบ่อยครั้งขึ้นเป็นกรณีพิเศษ จึงควรแปรงฟันด้วยความระมัดระวัง ใช้ขนแปรงอ่อนนุ่ม เพื่อป้องกันการทำลายเคลือบฟันจากขนแปรงที่แข็ง
แล้วเวลาดีที่สุดของการแปรงฟันคือเวลาไหน
ปกติควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หรือก่อนนอน เพียงพอแล้วสำหรับผู้มีเหงือกและฟันปกติ ทั้งขึ้นกับทักษะและฟันปกติดี (พรุ่งนี้ขอต่อเนื่องอีกวันนะจ๊ะ น้องหนู)
