เมื่อทูตมาเป็นลูกเสือ

“….การลูกเสือนั้นเป็นกิจการที่ผู้ใหญ่จัดขึ้นสำหรับเด็ก และฝึกฝนให้เติบโตเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ และเป็นผู้สามารถเหมาะสมที่จะอยู่ในสังคม ดังนั้น จึงเป็นที่เข้าใจและเป็นที่หวังว่า ต่อไปข้างหน้า ลูกเสือจะเป็นคนสำคัญของชาติ คือเป็นผู้บริหารปกครองบ้านเมืองได้ ขอให้ลูกเสือทราบถึงสิ่งสำคัญในการปกครองไว้ว่า

“ในบ้านเมืองนั้นมีคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้าน เมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้

“ลูกเสือทุกคนจงหมั่นฝึกฝนตนเองให้มาก เพื่อให้พร้อมและให้เหมาะแก่ภาระหน้าที่อันจะมีข้างหน้า..”

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2512

Advertisement

วันนี้ ประเทศไทยมีสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคล อยู่ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ มีรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ

มีคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการโดยตำแหน่งระดับปลัดกระทรวงจำนวนหนึ่ง กับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 15 คน

คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ มีคณะกรรมการฝ่าย อาทิ ฝ่ายต่างประเทศ ซึ่งมี ดร.อาณัฐชัย รัตตกุล เป็นประธาน

หน้าที่หนึ่งของฝ่ายต่างประเทศคือติดต่อประสานงานกับคณะลูกเสือต่างประเทศ และเข้าเป็นคณะกรรมการในองค์การลูกเสือโลกและลูกเสือภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก

คณะอนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อไปเป็นผู้ประสานงานระดับชาติของโครงการ Messengers of Peace Initiatives องค์การลูกเสือโลก ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (APR) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ ค.ศ.2016-2018 คือ นายพลเดช วรฉัตร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ และมัลดีฟส์

ท่านทูตพลเดชบอกถึงการมาเป็นผู้ประสานงานระดับชาติของลูกเสือสันติภาพ หรือ Messengers of Peace (MoP) ขององค์การลูกเสือโลก APR ว่า

“หลังเกษียณราชการจากกระทรวงการต่างประเทศในตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ศรีลังกา และมัลดีฟส์ ได้รับเชิญเข้าอบรมบุคลากรทางลูกเสือระดับผู้นำขั้นความรู้ชั้นสูง ATC ต่อมาได้เป็นที่ปรึกษาในอนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ คือที่มาของการเสนอชื่อไปยังองค์การลูกเสือโลก ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เพื่อเป็นผู้ประสานงานในโครงการนี้”

คุณพลเดชให้ความรู้เรื่อง Messengers of Peace ว่า

โครงการนี้เป็นโครงการระดับโลกขององค์การลูกเสือโลก เริ่มจากโครงการ Gift for Peace ใน 110 ประเทศ มีลูกเสือกว่า 10 ล้านคนร่วมกิจกรรม โครงการนี้ขอใช้เป็นภาษาไทยว่า “ลูกเสือผู้นำสันติภาพ” เป็นโครงการระยะที่สอง ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มจำนวนลูกเสือผู้นำสันติภาพให้ได้ 20 ล้านคน

ลูกเสือผู้นำสันติภาพ (ในพากย์ไทย) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนลูกเสือใน 220 ประเทศ ให้ร่วมกันสร้างสรรค์สันติภาพ ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกเสือและเยาวชนได้ทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์กับตนเองและชุมชน โดยตั้งวิสัยทัศน์ว่าในช่วง 10 ปี ระหว่าง ค.ศ.2011-2021 อย่างน้อยสองในสามของลูกเสือ 30 ล้านคน จะเป็นลูกเสือสันติภาพ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น และส่งต่อสันติภาพแก่คน 200 ล้านคน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์การลูกเสือโลก ผู้สนับสนุนรายใหญ่คือ กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย และกษัตริย์แห่งสวีเดน จัดงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมลูกเสือที่ตรงเป้าหมายของโครงการให้เกิดผล นำสันติสุขมาสู่โลกด้วยความร่วมมือของลูกเสือทั่วโลกผ่านเว็บ www.scout.org ยูทูบ เฟซบุ๊ก (พรุ่งนี้มาว่ากันต่อ)

หน้า 18

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image