คอลัมน์ นอกลู่ในทาง : เทคโนโลยีในทุกสิ่ง

ยังครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนโลกเอาไว้ได้ สำหรับ “ซัมซุง” ขณะที่อันดับสอง และสามบี้กันหนักหน่วง ระหว่าง “แอปเปิล” และ “หัวเว่ย” จนในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้วนี้เองแม้ว่าจะเผชิญมรสุมหนักหน่วงยิ่งแต่มังกรจีน “หัวเว่ย” ก็สามารถขยับขั้นมาเป็นที่สองได้สำเร็จ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 15.4% (ณ ไตรมาส 2/2561) อ้างอิงข้อมูลจาก International Data Corporation หรือ IDC ด้วยยอดขาย 54.2 ล้านเครื่อง มากกว่า “แอปเปิล” ที่ขายได้ 41 ล้านเครื่อง ทำให้ส่วนแบ่งตลาดหล่นลงมา 12.1%

ส่วนเบอร์หนึ่งขายไปได้ 71.5 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งตลาด 20.9% แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน “ซัมซุง” ไม่ได้มีแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น หากมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของจำเป็นภายในบ้านทั้งสิ้น

ในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2019” ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย ที่ประเทศสิงคโปร์ ปลายมีนาคมที่ผ่านมา “ซัมซุง” ขนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Consumer Electronics) มาโชว์เต็มพิกัด หลังจากเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูลกาแลคซี่ใหม่ในรุ่น S10 และไลน์สมาร์ทโฟนใหม่เอี่ยมอย่าง “สมาร์ทโฟนแบบพับได้” ไปแล้วเมื่อต้นปี

โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่นำมาเปิดตัวในงานนี้ยังคงตอกย้ำแนวความคิด “Connected Living” ที่ต้องการเชื่อมโยงการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

Advertisement

จาก “สมาร์ทโฟนสู่สมาร์ทโฮม” ซึ่งจะทำให้เกิดขึ้นได้จริงต้องมีความพร้อมในหลายด้านด้วยกัน ทั้ง Device ต่างๆ อย่างสมาร์ทโฟน, ทีวี, ตู้เย็น และการมีแพลตฟอร์ม IoT แบบเปิด (Internet of Thing) ที่จะเป็นตัวกลางเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้สื่อสารกันได้

ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ของ “ซัมซุง” เอง และอุปกรณ์ของพันธมิตรอื่นๆ ในอนาคต รวมเข้ากับการนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ตลอดจนโซลูชั่นบนแพลตฟอร์มที่เรียกว่า “นิวบิ๊กซ์บี้” (New Bixby) หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น

เรียกว่า ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ, ทีวี, ตู้เย็น ยันเครื่องซักผ้าต้อง “ฉลาด” ขึ้นด้วย “เทคโนโลยี” ที่อยู่ข้างใน

Advertisement

“ยูจีน โก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ สิงคโปร์ บอกว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซัมซุงมีบทบาทสำคัญในการทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งในชีวิตคนเรา ในขณะที่ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น และเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเอไอ, ไอโอที หรือล่าสุด 5G โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดยุคใหม่ของนวัตกรรม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจต่างๆ

จากเครือข่ายไปยัง “ชิปเซ็ต” จากอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งอุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เรื่อยไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์

“ในปี 2019 จะเป็นปีที่ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์มีอายุครบ 50 ปี สิ่งที่จะยังเหมือนเดิมคือการมุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อขยายการเชื่อมต่อการใช้ชีวิตนอกบ้าน และในบ้านให้ดียิ่งขึ้น”

ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในงาน “ซัมซุง ฟอรั่ม 2019” จึงมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ และนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ตั้งแต่ “คิวแอลอีดี ทีวี” 8K รุ่นใหม่, “สมาร์ททีวี” ทุกรุ่นที่ออกมาใน 2019 จะรองรับแอพพลิเคชั่น iTunes Movie&TV Shows และ Apple AirPlay 2 ทำให้ผู้ใช้ซื้อหรือเช่าคอนเทนต์ผ่าน iTunes Library และ iTunes Store ได้

และถือเป็นครั้งแรกที่ Apple iTunes สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์สื่อสารที่ไม่ใช่แบรนด์ “แอปเปิล” ทั้งยังควบคุมได้ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงของ Amazon Alexa และGoogle Assistant อีกด้วย

เช่นกันกับตู้เย็น “แฟมิลี่ ฮับ” (Family Hub) เจเนอเรชั่นใหม่ที่นอกจากรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นด้วยเทคโนโลยี IoT และระบบสั่งงานด้วยเสียง “นิว บิ๊กซ์บี้” (New Bixby) แล้วยังมาพร้อมหน้าจออัจฉริยะหรือ “แฟมิลี่ บอร์ด” (Family Board) ทำให้สมาชิกในครอบครัวสามารถควบคุมการสั่งงานในแบบที่ตนเองต้องการได้

ไม่เว้นแม้แต่ “เครื่องซักผ้า” รุ่นใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี “ควิกไดรฟ์” (QuickDrive) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการซัก มีระบบผู้ช่วยซักผ้าอัจฉริยะ (Q-rator) และ Super Speed ช่วยลดระยะเวลาในการซักลง 50% และประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 20%

ทั้งหมดจะทยอยนำเข้ามาทำตลาดในไทยด้วยเช่นกัน นำร่องก่อนที่ ทีวีไฮเทคสุดหรู (ถ้าดูจากราคา) “คิวแอลอีดี ทีวี” ความละเอียด 8k (QLED TV) ที่ใช้ชิปประมวลผล “ควอนตัม” และเทคโนโลยี “เอไอ” ทำให้สามารถตรวจจับ และปรับความละเอียดของภาพให้คมชัดขึ้นได้แม้คอนเทนต์ต่างๆ ที่ผลิตออกมาจะอยู่ในระดับแค่ 4K แต่อัพสเกลให้คมชัดในระดับ 8K ได้

และนั่นทำราคาของ “QLED TV” ซีรีส์นี้ไม่ธรรมดา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 199,990 บาท ในรุ่นที่มีขนาด 65 นิ้ว และอัพไปสูงสุดถึงราว 3 ล้านบาท ในรุ่น 98 นิ้ว

“เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ” รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของซัมซุงทั้งหมดจะเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยปรับปรุงฟีเจอร์และฟังก์ชั่นต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อเจาะตลาดพรีเมียม เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นแม้จะไม่ได้มีราคาแพงระยับระดับ “QLED TV” แต่ก็มุ่งไปยังการขยายฐานลูกค้าพรีเมียมด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโต โดยเฉพาะในตลาดพรีเมียมกว่า 20%

การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ของบรรดาผู้ผลิตสินค้าทั้งหลายจึงไม่ใช่แค่การทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของตนเอง “ฉลาดขึ้น” และ “แตกต่าง” ไปจากคู่แข่งเท่านั้นแต่ยังมองไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในแง่ยอดขายและรายได้ไปพร้อมกัน

หน้า 14

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image