8 วันหรรษาในเรือสำราญ ‘คอสตา นีโอ โรแมนติกา’

ถ้าพูดถึงการไปท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ อาจไม่ใช่วิธีการที่คนไทยนิยมเท่าไร เพราะคิดว่าราคาคงสูง และหวั่นใจในเรื่องการไม่ชินกับการใช้ชีวิตในทะเล แต่เอาจริงๆ ถ้าได้ลองสัมผัส หลายอย่างไม่ใช่อย่างที่คิด

คอสตา นีโอ โรแมนติกา (Costa Neo Romantica) คือ เรือสำราญลำยักษ์ที่แล่นอยู่บนท้องทะเลของทวีปเอเชีย นำพาคนทั่วโลกสัมผัสความสุขในความเวิ้งว้าง เกาะ และเมืองต่างๆ ในหลายประเทศของทวีปเอเชียมาแล้วกว่า 7 ปี ภายใต้การสร้างความสุขของคอสตา กรุ๊ป บริษัทนำเที่ยวทางเรือสำราญยักษ์ใหญ่ของประเทศอิตาลี

คอสตา นีโอ โรแมนติกา รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 1,800 คน ภายในมีห้องพักให้บริการ 789 ห้อง ทั้งแบบห้องสูทสุดหรู “ซัมซาร่า สูท” (Samsara Suit) ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา ระเบียงชมวิวภายนอกส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อนแบบชวนฝัน หรือห้องพักในระดับรองลงมา ทั้งห้องสูท, คลาสสิก, พรีเมียม แต่ให้การพักผ่อนได้สบายใกล้เคียงกัน

Advertisement

จุดเด่นของของเรือลำนี้ คือ การเตรียมความสนุก อิ่มอร่อย และความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวไว้อย่างพร้อมสรรพ เหมาะกับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ที่สำคัญด้วยขนาดที่รองรับนักท่องเที่ยว 1,800 คน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการต่างๆ ที่ทางเรือจัดไว้ให้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว

คอสตาให้บริการการท่องเที่ยวในเอเชียในหลายเส้นทาง โดยทริปที่ได้ไปสัมผัสรวมระยะเวลา 8 วัน 7 คืน เป็นเส้นทางจากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไปยังเมืองจี้หลง ของไต้หวัน แวะเมืองน่าเที่ยวอีกหลายเมือง ทั้งโกเบ, มิยาโคจิมะ, โคชิ และปิดฉากที่โยโกฮามา

Advertisement

สัมผัสแรกกับนีโอ โรแมนติกา

หลังจากที่เข้าถึงท่าเรือในกรุงโตเกียวแล้ว การบริการเช็กอินเพื่อเข้าพักในเรือสำราญเป็นไปอย่างมีระบบ มีเจ้าหน้าที่ของคอสตาคอยให้บริการเรื่องการดูแลเอกสาร และกระเป๋าเดินทาง สัมภาระ เรียกได้ว่าเมื่อผ่านการตรวจสอบเอกสารแล้ว สามารถถือบัตรประจำตัว “คอสตา การ์ด” เดินเข้าไปยังห้องพักได้เลย

ในห้องพักแบบ 2 เตียงนอนนั้น มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งชุดรับแขกที่พอเหมาะ โต๊ะทำงาน โทรทัศน์ โคมไฟ ห้องน้ำที่ขนาดไม่ได้เล็กอย่างที่คิด พร้อมทั้งผลไม้และน้ำดื่มที่มาให้บริการทุกวัน

เดินเล่มชมบรรยากาศภายในเรือ

คอสตา นีโอ โรแมนติกา มีทั้งหมด 14 ชั้น นอกจากห้องพักแล้ว ยังมีสถานให้ความบันเทิงมากมาย แกรนด์ บาร์ เปียซซ่า อิตาเลีย (Grand Bar Piazza Italia) และ คาบาเรต์ เวียนนา (Cabaret Vienna) ที่ชั้น 8 เป็นเหมือนจัตุรัสของเรือลำนี้ กิจกรรมและปาร์ตี้ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความบันเทิง จะจัดขึ้นที่สองจุดนี้

บนดาดฟ้าชั้น 11 เป็นจุดพักผ่อนที่ได้ใกล้ชิดกับความเวิงว้างของทะเลและท้องฟ้ามากที่สุด โดยจะมีเก้าอี้สำหรับนั่งหรือนอนอาบแดดจำนวนมาก มีสระว่ายน้ำ 2 สระ ให้ได้คลายร้อน หรือใครชอบมุมพักผ่อนอ่านหนังสือสบายๆ หลบแดด รับลมก็มีเช่นกัน

เดินขึ้นบันไดไปอีกนิดจะเป็นสนามวิ่งระยะ 200 เมตร ให้ได้ออกกำลังกายกันได้ทั้งวัน เพราะระหว่างการเดินทาง ลมทะเลค่อนข้างเย็น วิ่งไปชมวิวเกาะระหว่างทาง หรือมองท้องทะเล ท้องฟ้า นับเป็นสนามวิ่งที่บรรยากาศที่สวยแห่งนี้ในโลกนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากนั้นยังมีสิ่งให้ความบันเทิงทั้งคาสิโน ห้องอาหารหลากหลาย ดิวตี้ฟรีสำหรับนักช้อป และ Sqouk Club คลับสำหรับเด็กๆ รวมไปถึงฟิตเนสวิวทะเล 180 องศา สปาซัมซาร่า (Samsara Spa) ศูนย์รวมความผ่อนคลาย ทั้งอ่างน้ำวน ห้องเซาว์น่า สตรีม ที่ถูกใจผู้รักการดูแลตัวเองอย่างมาก

อิ่มท้องแบบอร่อยและหรูหรา

การใช้ชีวิตในคอสตา นีโอ โรแมนติกา อาจจะทำให้คุณน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ เพราะที่นี่มีอาหารให้เลือกอิ่มได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเกือบ 24 ชั่วโมง ทั้งในแบบที่รับประทานได้รวมในค่าเดินทางแล้ว และเมนูพิเศษที่ทางคอสตาได้เลือกมาไว้ให้ได้ลิ้มลอง

ห้องอาหารบอตติเชลลี่ (Botticelli Ristorante) บริเวณชั้น 8 ในช่วงเช้า จะเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติ มีทั้งอาหารตะวันตก เอเชีย ผลไม้ ขนมหวาน ครบครัน และในช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ จะเป็นการเสิร์ฟแบบฟูลคอร์ส ที่มีให้เลือกทั้งอาหารอิตาเลียนหรืออาหารญี่ปุ่น ที่ถูกปาก ถูกใจนักท่องเที่ยวแบบยิ้มแก้มปริกันทุกคน

ส่วนชั้น 10 ห้องอาหารจอร์ดิโน่ (Giordino Ristorante) เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติเช่นกัน ต้องบอกว่าที่นี่อาหารหลากหลาย เอาใจชาวเอเชียกันเต็มที่ ทั้งอาหารจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และขาดไม่ได้ คือ อาหารอิตาเลียนที่สลับหมุนเวียนแทบไม่ซ้ำเมนูในแต่ละวัน จอร์ดิโน่จะอยู่ท้ายเรือ ทำให้เวลาที่กำลังอิ่มเอมกับอาหาร จะมีวิวทะเลให้นั่งชมไปด้วย จะหาโต๊ะอาหารบรรยากาศแบบนี้ได้ที่ไหนอีก

การบริการอาหารของเรือลำนี้เปิดให้เกือบ 24 ชั่วโมง สลับเวลาและเมนูอาหารกับขนมกันไป หิวเวลาไหนก็มีของอร่อยให้อิ่มท้องได้เสมอ

ชิมจานเด็ดในร้านอาหารสุดพิเศษ

นอกจากอาหารที่บริการให้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้ว คอสตา นีโอ โรแมนติกา ยังให้บริการอาหารอิตาเลียนรสเลิศอีกหลายเมนู เช่นที่ พิซซ่า นาโปลี (Pizza Napoli) ร้านพิซซ่าที่เสิร์ฟพิซซ่าอบด้วยเตาถ่าน ความพิเศษ คือ เตาถ่านที่ว่านี้มีเพียงแห่งเดียวในเรือ 17 ลำของคอสตา กรุ๊ป และมีเชฟ ปาสกวาเล่ ซิอาร์มิเอลโล่ (Pasquale Ciarmiello) พ่อครัวมือดีจากเมืองเปเปิ้ลส์ มาควมคุมการผลิตด้วยตัวเอง

ที่ห้องอาหารคาซาโนว่า ก็มีเมนูของเชฟ อุมแบร์โต้ บอมบาน่า (Umberto Bombana) เชฟมิชลิน 6 ดาวจากอิตาเลียน ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอิตาลี แต่มีให้ลิ้มรสกันทีนี่ หรือเมนูระดับมิชลิน 2 ดาว ก็มีเชฟที่ทำให้ได้อิ่มกันกลางทะเลลึก

ลา ฟิออเรนตินา สเต๊กเฮ้าส์ (La Fiorentina Steakhouse) ร้านที่เสิร์ฟอาหารทะเลแจ่ม และสเต็กเลิศรส ขอเน้นไปที่ “ลา ฟิออเรนตินา” เนื้อวัวที่ปรุงรสในสไตล์ฟิออเรนตินา เนื้อนุ่ม หอม และใหญ่เป็นพิเศษ กินคนเดียวอาจจะไม่หมด นอกจากนั้นยังมีล็อบสเตอร์ตัวยักษ์ที่ยัดมาด้วยชีส นึกถึงวันนั้นแล้วหิวขึ้นมาเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่นี้ ที่นี่ยังมีไวน์บาร์ บริการไวน์ชั้นเลิศในบรรยากาศสงบๆ ช็อกโกแลตบาร์ และมุมกาแฟที่มีเพลงให้ฟังไปด้วย

กิจกรรมแน่นทั้งกลางวันและกลางคืน

ไม่ใช่ว่ามาอยู่ในเรือสำราญกลางทะเลแล้วจะแค่มากินแล้วก็นอนพักผ่อน เพราะคอสตาได้จัดกิจกรรมรองรับให้กับทุกคนบนเรืออย่างพร้อมสรรพ ช่วงกลางวันบริเวณชั้น 8 จะมีเกมต่างๆ ให้ได้สนุกกัน หรือคลาสสอนเต้นรำ สอนทำอาหาร ที่มีผู้สูงอายุมาร่วมสนุกกันแน่นทุกวัน

ช่วงกลางคืนก็อัดแน่นไปด้วยปาร์ตี้ ทั้ง กาล่า ไนท์ ที่จะได้พบกับกัปตันเรือ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ไวท์ ไนท์ ปาร์ตี้ ที่ทุกคนจะใส่ชุดขาวมาร่วมฟังเพลงจากนักร้องมืออาชีพ และแดนซ์กระจายในช่วงดึก เลดี้ส ไนท์ ปาร์ตี้ งานสังสรรค์สำหรับสาวน้อย สาวใหญ่โดยเฉพาะ และงานใหญ่ที่สุด คือ ปาร์ตี้คาร์นิวัลสไตล์เวนิส ที่ทุกคนจะสวมชุดหรู มีหน้ากากบนใบหน้า จิบค็อกเทล ร่วมดูโชว์และสนุกสนานกับกิจกรรมไปจนดึก

ตื่นเช้าแวะเที่ยวไม่ซ้ำเมือง

ในแต่ละวันเรือสำราญจะจอดแวะตามเมืองท่าต่างๆ เพื่อให้ได้ลงไปเยี่ยนเยียมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองกันหลายที่ทีเดียว เรียกได้ว่าตื่นมาในแต่ละวันได้เที่ยวในเมืองไม่ซ้ำกันเลย

เส้นทางโตเกียว-จี้หลง ที่ได้ไปสัมผัสมา เริ่มต้นจากโตเกียว ไปจอดที่เมืองโกเบ เมืองแฟชั่นและเนื้อวัวสุดอร่อย แวะเที่ยวหมู่บ้านชาวต่างชาติในสมัยอดีต บ้านเวเธอร์ค็อก เฮ้าส์ ที่เคยเป็นที่อยู่ของชาวเยอรมันในอดีต ได้รับการอนุรักษ์ทั้งภายในและภายนอกบ้านเป็นอย่างดี ต่อด้วยสวนสาธารณะเมริแกน ริมอ่าวโกเบ ที่มีสีสันของชาวโกเบในวันพักผ่อน ก่อนจะขึ้นไปบนโกเบ เทาเวอร์ ชมเมืองจากมุมสูงครบ 360 องศา ช่วงพระอาทิตย์ตก

ตื่นมาอีกวันไปอยู่ที่จี้หลง เมืองท่าสำคัญของไต้หวัน ที่มีจิ่วเฟิ่น หมู่บ้านโบราณชื่อดัง ที่คนทั่วโลกต่างพากันมาเยือน ไฮไลต์สำคัญ คือ โรงน้ำชาอาเม่ย โลเกชั่นที่นำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างฉากของเอนิเมชั่น “สปิริตส์ อะเวย์” ของญี่ปุ่น และถนนคนเดินที่มีของกินให้เลือกอร่อยละลานตา

ท่าที่ 3 คือ มิยาโคจิมะ เกาะหนึ่งในจังหวัดโอกินาวา ที่นี่มีท้องฟ้าใส ทะเลสวย สะพานที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่น เกลือที่เป็นปุยหิมะ ดอกไม้ แมลง อุดมสมบูรณ์ และอควาเรียมใต้ทะเลที่ใครมาก็ต้องแวะมาชม

ท่าที่ 4 เมืองโคชิ ที่มีปราสาทโคชิ ปราสาทโบราณของญี่ปุ่นที่ไม่เคยโดนพิษสงครามมาข้องแวะ ทำให้ยังมีสภาพที่สมบูรณ์ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกแวะเวียนขึ้นไปเยี่ยมชม

ปิดท้ายกันที่โยโกฮามา เมืองอุตสาหกรรมใหญ่ของญี่ปุ่น แถมยังใกล้กับสนามบินฮาเนดะ เหมาะที่จะนั่งรถเดินทางไปในเมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นได้อย่างสบายทีเดียว

เรือสำราญที่เหมาะกับคนทุกวัย

ถึงแม้จะดูว่าการมาล่องเรือสำราญไม่น่าตื่นเต้นนัก แต่ก็เป็นการท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนทุกวัย จำนวนมากอาจจะเป็นผู้สูงอายุ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายที่จัดไว้ให้ทุกคนแล้ว

วัยรุ่นก็สามารถโฟกัสกับการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือในยิมได้อย่างเต็มที่ เด็กๆ มีคลับที่เต็มไปด้วยกิจกรรมตลอดวัน ใครอยากช้อปปิ้งก็มีสินค้าแบรนด์เนมในเรือขายมากพอสมควร

ค่าใช้จ่ายไม่สูงอย่างที่คิด ค่าเดินทางไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ในระดับทั่วไปไม่เกิน 25,000 บาทต่อคน มีค่าทัวร์ในกรณีที่ต้องการรถและไกด์ไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ หรือค่าอาหารในร้านที่จัดไว้พิเศษ

การติดต่อสื่อสารมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบริการ เพียงแค่ซื้อแพคเกจและล็อกอินก็ติดต่อกับครอบครัวหรือเพื่อนบนฝั่งได้ทั่วโลกแล้ว

คอสตา นีโอ โรแมนติกา เปลี่ยนมุมมองการเที่ยวด้วยเรือสำราญตลอด 8 วันไปโดยสิ้นเชิง เพราะกินอร่อย ปาร์ตี้สนุก เที่ยวหลายที่ มีเงินเหลือติดกระเป๋ากลับบ้าน

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปที่ www.costaasia.com

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image