เริงโลกด้วยจิตรื่น : เคราะห์กรรมกับวาสนา : โดยจันทร์รอน

ชีวิตที่ดำเนินไปได้อย่างโปร่งเบา คือชีวิตที่ไร้แรงกดดัน ฉุดกระชากลากถู และไร้แรงต้าน เสียดทาน
ก็เหมือนรถ จะให้เป็นความเร็วสูง ต้องออกแบบหรือหาทางให้ไร้แรงต่างๆ ในทางตรงกันข้ามเหล่านั้นให้มากที่สุุด

ชีวิตที่ไร้แรงต้านต้องเป็นไปอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง ในความหมายของสัจธรรม คือที่เป็นอยูู่ ณ ปัจจุบันขณะ

ความเป็นจริงจากอดีตที่ยึดถือไว้ หากหมดความสอดคล้องกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ย่อมเป็นแรงฉุดรั้ง

ความเป็นจริงในอนาคตอันเกิดจากจินตนาการด้วยความต้องการให้เป็นไป หากคาดเดาผิดพลาด ประเมินปัจจัยไม่ครบถ้วน โอกาสที่จะเสี่ยงกับพลังต้านย่อมมีอยู่

Advertisement

แม้จะคิดแค่เคลื่อนชีวิตไปตามเหตุแห่งปัจจุบันขณะ หากว่าเป็นการเคลื่อนไปอย่างฝืนสภาวะแห่งปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นคือแรงเสียดทาน

การเคลื่อนชีวิตไปอย่างไร้แรงต้าน เพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งเบานั้น อาจจะพิจารณาในมุมของ “อำนาจ” ได้อยู่บ้าง

“พลัง” คือปัจจัยที่จะพาชีวิตเคลื่อนไป

Advertisement

หากขาด “พลัง” ชีวิตไม่เพียงหยุดนิ่งอยู่กับที่่ แต่ยังจะถูกกระทำให้แปรเปลี่ยนไปตามอำนาจของชีวิตอื่น สิ่งอื่น

“พลัง” จึงคืออำนาจ และ “อำนาจ” จึงคือพลัง

การใช้พลังได้อย่างลื่นไหล หรือตีบตัน

การใช้อำนาจได้อย่างสงบ สันติ หรืออย่างวุ่นวาย เดือดร้อน

ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดของพลัง หรือที่มาของอำนาจ

พลังที่เกิดด้วยบารมีแห่งเมตตา เอื้ออาทร ช่วยเหลือ แบ่งปัน ยุติธรรม ไม่ได้ไร้แรงต้าน แต่ยังได้รับการเสริมส่งเพิ่มพลังด้วยชีวิตอื่น สิ่งอื่นที่รายล้อม

ส่วนพลังที่เห็นแก่ได้ ไร้ยุติธรรม คับแคบและบังคับเอา ย่อมเกิดแรงต้าน และร่วมทำลาย

อำนาจที่แผ่บารมีมาจากคุณธรรม สะท้อนถึงจิตใจที่งดงาม เปี่ยมปัญญาเพื่อความสุขสงบของส่วนรวม ย่อมลื่นไหลและร่วมหนุนส่ง

ขณะอำนาจที่ได้จากการใช้กำลังกดข่ม ประกาศกติกาไม่เป็นธรรมขึ้นบังคับ ไร้คุณธรรมต่อส่วนรวม มุ่งเสริมสร้างการเอารัดเอาเปรียบของผู้เหนือกว่า ย่อมก่อความสลด หดหู่ อันเป็นที่มาของแรงต้าน

ชีวิตจะเคลื่อนไปอย่างสันติ สงบ ลื่นไหล ปลอดโปร่งหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่มาของพลังและอำนาจ

อดีตที่เคยชินกับการใช้กำลังบังคับ แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มความรุนแรงของกำลัง ถูกปลูกฝังไว้ในทัศนคติทำลายล้าง เดินหน้าฝ่าฟันอุปสรรคด้วยการเพิ่มความรุนแรง และขยายจิตใจที่เหี้ยมโหด ย่อมนำมาสู่การยึดถือในสิ่งที่ทำให้มืดบอด หมดความสามารถที่จะเห็นหนทางไปสู่สันติและสงบสุข

มีแต่จะนำพาไปสู่การไล่ล้างทำลาย ต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้านไม่รู้จบรู้สิ้น

อนาคตที่มุ่งหวังด้วยกระแสแห่งความอยากให้เป็น อย่าฝืนธรรมชาติของปัจจุบันขณะ ย่อมยากที่จะเป็นจริง

อนาคตที่ก่อรูปมาจากความคิดอันเกิดจากพลังแห่งตัณหา เป็นได้แค่มายาภาพที่เลยพ้นความเป็นจริงที่ปัจจัยแห่งปัจจุบันขณะจะประกอบกันขึ้นเพื่อให้เป็นไป

ผู้ใช้อำนาจอันแตกหน่อมาจากพฤติกรรมไร้คุณธรรม ย่อมสัมผัสถึงภาระอันแสนสาหัสที่จะทำสิ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ให้เป็นจริงขึ้นมา

ความสลดหดหู่ สิ้นหวัง และเสียงสาปแช่ง ก่นประณามของผู้คนจะแผ่กระจายรายทางสู่ความสำเร็จของพวกบ้าการใช้กำลังทำลายล้างเหล่านั้น

หากเป็นผู้มีอดีตที่หล่อหลอมมาจากเส้นทางแห่งการฝึกฝนเพื่อปัญญาก่อเกิด มองเห็นความเท่าเทียม เป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพชีวิต ได้รับการปลูกฝังด้วยทัศนคติเปี่ยมคุณธรรมเพื่อสร้างสรรค์ความสุขสงบ อยู่ร่วมกันอย่างสันติภาพ

จะเป็นอำนาจที่ก่อจากบารมีแห่งคุณธรรม

อนาคตที่จะนำไปย่อมกระจ่างทุกปัจจัยที่ประกอบขึ้นจากความเป็นจริงในปัจจุบัน สิ่งที่จะใช้ขับเคลื่อนหลอมรวมให้ส่วนรวมไปด้วยกันย่อมเปี่ยมด้วยเมตตา คิดแก้ไขด้วยจิตใจอ่อนโยน โดยเห็นการอยู่ร่วมในสันติภาพกระจ่างที่เบื้องหน้า

เคราะห์กรรมของแผ่นดินย่อมเกิดด้วยการอุบัติแห่งพลังไร้คุณธรรมที่สร้างอำนาจมืดบอดขึ้นมามุ่งจัดการนำพาด้วยทรรศนะทำลายล้าง

วาสนาของแผ่นดินย่อมเกิดด้วยการอุบัติขึ้นของพลังแห่งเมตตาธรรมที่เนรมิตอำนาจที่ทรงปัญญา เห็นความสอดคล้องแห่งปัจจุบันขณะ นำพาสู่อนาคตที่เหมาะควรกับความเปลี่ยนแปลง

ทว่า เคราะห์กรรมหรือวาสนาล้วนเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุ

ผู้คนสรรพสิ่งในอดีตของแผ่นดินสร้างไว้อย่างไร

ผลที่เกิดขึ้นย่อมเป็นไปตามเหตุที่สร้างสมไว้นั้น

เปลี่ยนเคราะห์กรรมเป็นวาสนา เปลี่ยนวาสนาเป็นเคราะห์กรรม ได้หรือไม่ อย่างไร

เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ย่อมเป็นเรื่องของคนและสรรพสิ่งแห่งปัจจุบันขณะ จะสร้างเหตุให้เป็นปัจจัยไปในทางใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image