ในบรรดามเหสีทั้ง 3 นาง สุมิตราดูเหมือนจะสวยที่สุด แม้กระนั้นก็อยู่กันอย่างสงบ ไม่มีข้อรังเกียจเดียดฉันท์ผิดพ้องหมองใจกัน เพียงแต่ว่าไม่มีโอรสให้สืบสุริยวงศ์ต่อไปเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของนางเป็นบาปที่เกิดแต่ราชาทศรถมากกว่า
คราวหนึ่งเกิดฝนแล้งในกรุงอโยธยา มนุษย์และสัตว์ได้รับความเดือดร้อน ในครั้งนั้นพระอินทร์เป็นผู้บันดาลให้ฝนฟ้าตกได้ ราชาทศรถจึงไปต่อว่าพระอินทร์ฯ ก็ว่าไม่ใช่ความผิดของพระองค์ แต่เหตุมาจากดาวเสาร์เข้าไปอยู่ร่วมกับราศีพฤษภ (Saturn in Taurus) เท่าที่ทราบดาวเสาร์นั้นเป็นดาวใหญ่มีอิทธิพลมากเข้าไปในที่ใดก็เดือดร้อนที่นั่น เมื่อราชาทศรถทราบเช่นนั้นก็ขึ้นรถไปหาพระเสาร์ เป็นที่ทราบกันดีว่าพระเสาร์มีตาร้าย มองอะไรเป็นมีเหตุทุกครั้งไป ม้าแปดตัวที่เทียมรถก็ลอยละล่องลงไปกองอยู่บนพื้นดิน ขณะที่ราชรถหมุนคว้างอยู่กลางอากาศนั้นไม่มีใครเข้าไปช่วยพระราชาทศรถ มีแต่ราชาแห่งนกตัวหนึ่งชื่อชฎายุ (Jatayu) แลเห็นราชรถหมุนคว้างอยู่นั้นก็คิดว่าคนในรถก็คงต้องตายแน่ๆ เมื่อตกถึงพื้นดิน เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วชฎายุก็กางปีกออกร่อนถลาเข้าโอบอุ้มราชรถไว้ได้ ราชาทศรถก็พ้นจากอันตราย
เมื่อไถ่ถามกันขึ้น จึงรู้ว่านกชฎายุช่วยชีวิตของพระองค์ไว้ พระราชาจึงตรัสว่า “ท่านเป็นเพื่อนของฉัน เพราะได้ช่วยชีวิตฉันไว้“
นกชฎายุนี้ถ้าเขียนตามรามเกียรติไทยก็เป็นนกสดายุ แต่รามเกียรติไทยไม่มีเรื่องที่เล่ามานี้ กล่าวแต่ว่าเป็นสัมพันธมิตรกับพระราม ได้เข้าต่อสู้กับทศกัณฐ์เพื่อช่วยนางสีดา แต่พลาดท่าตกลงมา พระรามมาพบเมื่อใกล้จะตายถึงไม่ทราบเรื่องนางสีดา พระรามได้จัดการเผาศพให้ เมื่ออ่านในรามายณะภาษาอังกฤษจะพบว่าเขียนชื่อนกนี้ต่างกันเช่น Jatayu, Jatayu และ jathayu ตามประวัติกล่าวเป็น 2 อย่าง อย่างหนึ่งว่าเป็นของพญาครุฑ พาหนะของพระวิษณุ อีกอย่างหนึ่งว่าเป็นบุตรของพระอรุณ (Aruna) ส่วนในเรื่องเบงกาลีที่เล่าอยู่นี้ว่าชฎายุเป็นสหายของท้าวทศรถ
บางท่านอาจไม่ทราบเรื่องของพระอรุณจึงขอเล่าแทรกไว้สักนิด อรุณเป็นเทพนิการคือมีเพียงครึ่งองค์ ด้วยเหตุนี้จึงมีนามอีกนามหนึ่งว่าอนอุรุ คือไม่มีต้นขา เหตุที่จะเป็นเช่นนี้เพราะนางวันตาผู้เป็นแม่ออกไข่ 2 ฟอง ด้วยความใจร้อนอยากเห็นหน้าลูกเร็วๆ จึงทุบไข่ใบหนึ่งออกดู เนื่องจากเกิดก่อนกำหนดจึงมีร่างเพียงครึ่งองค์เรียกกันว่าอนอุรุ การกระทำของนางลินตาทำให้อนอุรุโกรธมากเพราะทำให้ตนเป็นคนพิการ จึงสาปนางลินตาให้เป็นทาสนางกัทรุ (แม่ของพวกนาก) เป็นเวลาห้าร้อยปีต่อเมื่อมีลูกคนที่สอง (คือพญาครุฑ) มาช่วยจึงจะพ้นคำสาป เมื่อกล่าวคำสาปแล้วก็เหาะขึ้นไปเป็นสารถีขับรถให้พระอาทิตย์
โดยเหตุที่อนอุรุนั่งอยู่หน้ารถเมื่อพระอาทิตย์แรกขึ้นเห็นสารถีก่อน จึงได้นามว่าอรุณเทพบุตร
