แดดเดียว : เมื่อความจริงกลับมาไล่ล่า

การประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของ ครม.ใหม่ ในการประชุมวันแรก 25 ก.ค. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ หรือนักข่าวเรียกกันว่า “อาจารย์วันนอร์” ได้เล่านาทีสำคัญจากวันรัฐประหาร 22 พ.ค. กลายเป็นประเด็นมาจนวันนี้

อจ.วันนอร์เล่าว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ขณะนั้นประกาศยึดอำนาจ ได้ชี้หน้าบรรดา รมต.และ ส.ส.ที่ไปร่วมประชุมแก้ปัญหาวิกฤตที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี ว่า อย่าสู้ผม ถึงสู้ก็สู้ไม่ได้ผมเตรียมการมา 3 ปีแล้ว

คำว่า “เตรียมการมา 3 ปี” เป็นถ้อยคำสำคัญ เพราะเท่ากับเปิดประเด็นว่าม็อบต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมอยู่ในการเตรียมการนั้นด้วยหรือไม่

หลายๆ คนเชื่อไปแล้ว ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่หลายๆ คนอยากเห็นข้อมูลหลักฐานว่า เกิดการสมคบคิดกันสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การยึดอำนาจหรือไม่

Advertisement

ซึ่งคำบอกเล่าของ อจ.วันนอร์ ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อสันนิษฐานว่ามีการเตรียมการจัดฉากความวุ่นวาย

เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงในสภาว่า เตรียมการคือฝึกกำลังพลให้พร้อมรับสถานการณ์ ก็รับฟังกันไป

อีกคนที่ออกมาเล่าเรื่องนี้ คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

Advertisement

อดีต กกต.สมชัยเล่าในเฟซบุ๊กว่า ไม่ได้ยินประโยคดังกล่าว จึงไม่มีบันทึกไว้ แต่อาจเป็นไปได้ว่าในอารมณ์ฉุกละหุก อาจจะหูอื้อ

แต่ประโยคว่า “อย่าคิดสู้ พวกคุณสู้ผมไม่ได้หรอก” ที่ท่านวันนอร์ถ่ายทอดมา มีอยู่ แต่ไม่อยู่ในบันทึกผม เพราะมัวแต่เก็บของออกจากห้องประชุมแล้ว

โดยระบุว่าหลังจากประชุมบรรดาคู่ขัดแย้งและผู้เกี่ยวข้องรวม 7 ฝ่ายวันแรก 21 พ.ค.2557 ไม่ได้ข้อสรุป จึงมาประชุมอีกครั้งตอนบ่ายสองวันที่ 22 พ.ค.

นายสมชัยระบุว่า ทางฝ่ายรัฐบาลมีการเปลี่ยนตัวผู้เข้าร่วมประชุม โดย นายพงศ์เทพ เทพกาจญนา ไม่มา แต่ให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม มาแทน โดยมอบให้ นายชัยเกษม นิติสิริ รมต.ยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะเจรจาในฝ่ายรัฐบาล

และระบุว่า เวลา 13.30 น. วันนั้น คณะของ กกต.เดินทางมาถึงห้องรับรองชั้นล่างของสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้เข้าร่วมประชุมทยอยกันเดินทางเข้ามา มีกาแฟและของว่างเล็กๆ น้อยๆ คอยต้อนรับ

บรรดาคู่ขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองต่างขั้ว กลุ่มผู้ชุมนุมที่ด่ากันแบบไม่เผาผีกันบนเวที ยิ้มแย้มจับมือทักทายกันชื่นมื่น มีแยกโต๊ะทานกาแฟในพวกเดียวกันบ้าง ข้ามโต๊ะมาคุยทักทายกันในเรื่องส่วนตัวดูสนิทสนมกันดี

ก่อนเริ่มประชุมประมาณ 15 นาที มีการแจ้งว่าวันนี้ ห้ามทุกคนนำโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องบันทึกเสียงทุกชนิดเข้าห้องประชุม

การประชุมเริ่ม พลเอกประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะทักทายที่ประชุม “วันนี้ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง ต้องพูดกันให้จบ ไม่จบผมมีที่นอนหมอนมุ้งรอไว้เรียบร้อยแล้ว” ที่ประชุม เฮ ด้วยคำพูดของท่าน ที่กึ่งจริงจังกึ่งขี้เล่นหยอกล้อ

“เอ้า ที่ผมฝากการบ้านไว้เมื่อวาน ใครมีอะไรว่าไป” ท่านเริ่มเปิดประเด็น

นายชัยเกษมในฐานะตัวแทนรัฐบาล กล่าวว่า “รัฐบาลยอมตามข้อเสนอของ กกต.คือ 1) ยอมให้มีการเลือกตั้งใน 4-5 เดือนนับจากนี้ 2) ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีก่อนไปสู่การเลือกตั้ง โดยเน้นปฏิรูปเล็ก คือการปฏิรูปเลือกตั้งก่อน ส่วนการปฏิรูปเรื่องอื่นๆ ไปว่ากันหลังจากมีสภาผู้แทนราษฎร 3) รัฐบาลไม่ลาออก แต่จะไม่ขอรักษาการในระหว่างการเลือกตั้ง โดยให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้รักษาการแทน”

พล.อ.ประยุทธ์ถามความเห็นผู้เข้าประชุม พรรคเพื่อไทยเห็นด้วย ก่อนถามพรรคประชาธิปัตย์

“คงเท่านั้นไม่ได้ครับ ถึงให้ปลัดกระทรวงรักษาการแต่รัฐมนตรีไม่ยอมลาออก รัฐมนตรีก็ยังมีอิทธิพลสั่งการผ่านปลัดกระทรวงได้ ปลัดกระทรวงก็เหมือนนอมินีของฝ่ายการเมืองอยู่ดี ยืนยันว่าขอให้รัฐบาลลาออก” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคกล่าว โดยนายสมชัยระบุด้วยว่า “กล่าวแบบเฉียบขาด”

ที่ประชุมก็อื้ออึงด้วยการอภิปรายในเชิงเหตุผลทางกฎหมายว่า รัฐบาลลาออกได้หรือไม่ มีกฎหมายอะไรรองรับ จะขัดกับกฎหมายหรือไม่

เมื่อถามไปถึง นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสนออีกหนทางให้ทำประชามติว่า จะเลือกตั้งก่อนปฏิรูปหรือปฏิรูปก่อน เมื่อบิ๊กตู่ถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. คำตอบคือ “อย่างไรเสีย กปปส.ก็ไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ยืนยันว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” นายสุเทพกล่าวด้วยเสียงอันดัง

พลเอกประยุทธ์ออกอาการหงุดหงิด นายสุเทพขอเปิดเจรจา ประชุมแยกเฉพาะ กปปส. และ นปช. โดยพักประชุมครึ่งชั่วโมง

นายสมชัยเล่าว่า มีการเคลื่อนไหวแปลกๆ ทหารในชุดพรางอาวุธครบมือ บางคนมีเป้หลังวิทยุสนาม วิ่งประจำตามจุดต่างๆ บางคนลากเสาวิทยุขนาดเล็ก

เวลา 15.30 น. ทุกคนกลับมาอยู่ในห้องประชุม นายสมชัยเล่าว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังปล่อยมุขให้ฮากันอีกประปราย ก่อนถามย้ำรัฐบาลอีกครั้งว่าจะลาออกไหม

นายชัยเกษม นิติสิริ ตัวแทนรัฐบาล ตอบว่า “คงไม่ลาออกละครับ”

ทุกคนในที่ประชุมเริ่มนิ่งเงียบ กับคำถามเชิงรุกฆาตของ ผบ.ทบ. และเริ่มเดาเหตุการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา

พลเอกประยุทธ์ โยนคำถามไปรอบวงอีกครั้ง ก่อนย้อนกลับไปที่นายชัยเกษม

“ว่าไง รัฐบาล จะยอมลาออกหรือเปล่า” คำถามรุกฆาตถูกถามออกไปเป็นครั้งที่สอง

นายชัยเกษมเอนตัวไปข้างหลังเป็นภาษาท่าทางเชิงป้องกันตัว แล้วตอบว่า “นาทีนี้ก็ยังคงไม่ลาออกหรอกครับ”

พลเอกประยุทธ์ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะโน้มกายไปข้างหน้า “ถ้าเช่นนั้น ผมก็ไม่มีทางออก เพื่อให้บ้านเมืองสงบ นาทีนี้ผมขอยึดอำนาจ ทุกคนในห้องอยู่ในห้องนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน กกต.ไม่เกี่ยว ส.ว.ไม่เกี่ยว ออกไป”

ทีมของ กกต.ออกมาได้ในที่สุด ส่วนคนอื่นๆ เป็นไปตามข่าว คือถูกแยกคุมตัวในเขตทหารต่างๆ

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความจริงก็คลี่คลายออกมาเรื่อยๆ

จะชอบหรือไม่ชอบ แต่เรื่องของ “ความจริง” มักเป็นเช่นนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image