เริงโลกด้วยจิตรื่น : ฟ้าลิขิต : โดย จันทร์รอน

อาจจะเป็นเพราะเรื่องราวในชีวิต มักมีมากมายที่ไม่นึกไม่ฝัน หรือคาดไปไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น บ่อยครั้ง หลายเรื่องนึกไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ทั้งเรื่องที่สร้างความยินดี ที่อธิบายว่าเป็นบุญพาวาสนาส่ง และเรื่องที่สร้างความโศกเศร้า หม่นหมอง อันบอกกันว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด

เช่นนี้เองทำให้คำว่า “ฟ้าลิขิต” หรือทำนอง “ฟ้าดินกำหนดมา” ถูกทำให้เป็นความเชื่อว่าเป็นสัจธรรมหรือความเป็นจริงของชีวิตตลอดมา

“ฟ้าลิขิต ดินกำหนด” เป็นความเชื่อที่จะต้องคงอยู่ตลอดไป เหตุเนื่องจากมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพื่ออธิบายโดยอ้างอิงเหตุผลไม่ได้ สำหรับมนุษย์เราที่เคยชินกับการอธิบายด้วยเหตุด้วยผลย่อมต้องหาอะไรสักอย่างมาเป็นที่พึ่ง เพื่อให้สามารถอธิบายได้

Advertisement

และนั่นทำให้เกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้น

ความหมายของ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่มนุษย์นำมาใช้ก็คือ “คำอธิบายที่ไม่ต้องมีเหตุผล” แค่อ้างถึงทุกอย่างก็จบ

“ฟ้าดิน” ถูกยกเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาว่าเป็น “ผู้กำหนดชะตากรรมของมนุษย์ขึ้นมา” เรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกลิขิตไว้แล้ว

Advertisement

ความน่าประหลาดของเรื่องมีอยู่ว่า ความเชื่อเรื่อง “ฟ้าลิขิต” นี้เกิดขึ้นกับมนุษย์พวกที่ใช้สมองคิด เป็นพวกที่เคยชิน หรือมีชีวิตอยู่ด้วยเหตุผล เป็นคนเชื่อในเหตุผล ชื่นชอบหรือเชื่อเฉพาะเรื่องที่อธิบายได้

ทว่าในความรักเหตุผลนี้กลับมีฝ่ายหนึ่งที่หยิบยก “ลิขิตฟ้า” มาเป็นคำอธิบาย

ใช้ “ลิขิตฟ้า” เป็นเหตุผลในเรื่องที่อธิบายไม่ได้

และด้วยความเชื่อในเหตุผลนี้เอง จึงเกิดความเห็นที่แตกต่างขึ้น

ในพวกเดียวกันคือมีชีวิตอยู่ด้วยการหาเหตุผลให้กับปรากฏการณ์ต่างๆ กลับแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่เชื่อว่า “ฟ้าดินลิขิต” เรื่องที่หาเหตุผลมาอธิบายการเกิดขึ้นไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่ายไม่เชื่อ
แต่เป็นความไม่เชื่อ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า การยกเอา “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” มาอ้างเป็นเหตุผลนั้น เกิดขึ้นจากหมดความสามารถในการอธิบายด้วยเหตุผล

ฝ่ายไม่เชื่อใน “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” นี้พยายามจะหาเหตุผลอื่นมาอธิบาย อย่างเช่นเป็นกรรมที่คนคนนั้นก่อขึ้นมา ไม่เกี่ยวอะไรกับฟ้าดิน หรือเหตุผลอื่นๆ

แต่ถึงที่สุดแล้วก็ยังเป็นคำอธิบายที่ไม่สามารถหยิบยกเหตุผลที่ชัดเจนมาแสดงให้เห็นได้อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นว่า ปรากฏการณ์ที่อธิบายไม่ได้นั้น แท้จริงแล้วยังอธิบายได้ เพียงแต่มนุษย์ไม่มีความสามารถพอที่จะเห็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับสิ่งต่างๆ

ความเป็นจริงที่ว่า “สรรพสิ่งล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยเหตุปัจจัยหลากหลาย แยกย่อยไปเรื่อยๆ แทบไม่รู้จบ” และ “ความแปรไปของปัจจัยย่อยต่างๆ ย่อมส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของภาพรวม เมื่อคนเราไม่สามารถเป็นปัจจัยทั้งหมดที่มาประกอบกัน และมองไม่เห็นความแปรเปลี่ยน สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องอธิบายไม่ได้”

เหตุที่อธิบายไม่ได้ เพราะ “ไม่รู้ในทั้งหมด”

“ฟ้าลิขิต” จึงเป็นเหตุผลที่นำมาใช้อ้างแทนความไม่รู้เท่านั้น

แต่เมื่อ “ความไม่รู้” กลายเป็นเรื่องยากจะหลีกเลี่ยงสำหรับคนธรรมดาทั่วไป

“ฟ้าลิขิต ดินกำหนด เทพเจ้าบัญชา” จึงเป็นกลายเป็นเหตุผลที่ยากจะหาข้ออ้างมาหักล้าง ให้ไม่เชื่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image