ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับโครงการ “ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน” ครั้งที่ 1 เมื่อพุทธศักราช 2560 นำมาซึ่งความแน่นแฟ้นในดินแดนสุวรรณภูมิที่เชื่อมร้อยหัวใจแห่งความศรัทธาด้วยพระพุทธศาสนาอันมั่นคงสถาพรมาเนิ่นนานนับพันๆ ปี
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการสานต่อโครงการดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14-31 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ด้วยความร่วมใจของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ชมรมโพธิคยา 980 และมูลนิธิวีระภุชงค์
กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย รวม 5 ประเทศในเขตแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พร้อมใจกันร่วมโครงการอีกครั้งนับแต่ พระมหาผ่อง สะมาเลิก อดีตประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว รูปที่ 4 มีแนวคิดสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว กระทั่งกลายเป็นประวัติศาสตร์ร่วมสมัยครั้งสำคัญ โดยในครั้งนี้จะมีการเปิดงาน ณ วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประเทศไทย
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ส่วนพิธีปิดจะจัดขึ้นที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยมี สมเด็จเทพวงศ์ สังฆราชแห่งกัมพูชา เป็นประธานฝ่านสงฆ์ และ พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
27 กันยายนที่ผ่านมา ในงานแถลงข่าวการจัดงานครั้งนี้ ณ ห้องประชุมชั้น 6 บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด ย่านงามวงศ์วาน นนทบุรี มีบุคคลสำคัญจากประเทศต่างๆ ทั้งแวดวงสงฆ์และฆราวาสเข้าร่วมอย่างล้นหลาม อาทิ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล, นายวินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์, นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการมูลนิธิวีระภุชงค์, นางสาวทิพย์วรรณ วีระภุชงค์ กรรมการมูลนิธิวีระภุชงค์, ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา, นายคิน ฉ่วย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมโพธิคยา 980 หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศเมียนมา และ นายแก้วเจริญ เชียยิ่งยาง อธิบดีกรมโฆษณาศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ สปป.ลาว เป็นต้น
ศาสนาพุทธ ‘การทูตภาคประชาชน’
“การจัดธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย เพราะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งจากผู้นำสงฆ์ ผู้นำประเทศ ผู้นำท้องถิ่น และชาวพุทธทั้ง 5 ประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง การจัดครั้งที่ 2 นี้จึงได้มีการเตรียมการเอาไว้เป็นอย่างดีโดยนำเอาประสบการณ์จากครั้งแรกมาแก้ไขเพิ่มเติมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จากครั้งแรกซึ่งเปิดโครงการในภาคอีสานที่ จ.อุบลราชธานี แล้วปิดโครงการที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตีในไทย แต่ครั้งที่ 2 นี้มีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่เพื่อให้ชาวพุทธของภาคต่างๆ ในแต่ละประเทศได้มีส่วนร่วม”
คือคำกล่าวของนายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการมูลนิธิวีระภุชงค์ ผู้มุ่งหวังให้ชาวพุทธในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอยู่ร่วมกันอย่างสันติดังเช่นที่เคยเป็นมา
ในขณะที่นายแก้วเจริญ เซี่ยยิ่งยาง อธิบดีกรมโฆษณาศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ เล่าถึงความคืบหน้าล่าสุดว่า ขณะนี้ทาง สปป.ลาวเตรียมความพร้อมสำหรับงานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุดรับผิดชอบด้านพิธีการ สถานที่ การดูแลรักษาความสงบ การประสานงานต่างประเทศ และการประชาสัมพันธ์
“ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน” ครั้งที่ 2 เป็นงานที่ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นงานการเมืองที่เป็นการทูตภาคประชาชน ศาสนาพุทธ เป็นการทูตภาคประชาชน ปัจจุบันมีชาวลาวนับถือศาสนาพุทธกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติจึงตระหนักว่า ศาสนาพุทธสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาเซียนและประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา ซึ่งมีการใช้มิติด้านศาสนาเชื่อมความสัมพันธ์ สปป.ลาว-ไทย และ สปป.ลาว-กัมพูชา แม้บางครั้งจะเกิดความตึงเครียดด้านชายแดน แต่การเมืองภาคประชาชนนั้นไม่มีปัญหาระหว่างกัน”
สำหรับงานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินครั้งแรกเมื่อปี 2560 นั้น จัดเฉพาะที่ “แขวงจำปาสัก” แต่งานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินครั้งที่ 2 จะมีการจัดกิจกรรมทั้งที่นครเวียงจันทน์ และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของพุทธศาสนา โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวลาวเข้าร่วมงานให้มากที่สุด
สร้าง ‘ศรัทธา’ เสริมความเข้มแข็ง จับมือร่วมภูมิภาค
ด้าน ดร.คิน ฉ่วย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชมรมโพธิคยาฯ และหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศเมียนมา เล่าว่า จากประสบการณ์การเดินทางไปในประเทศลุ่มน้ำโขง พบว่ายังไม่มีศาสนสถานกลางที่เป็นศูนย์กลางของชาวพุทธเหมือนกับศาสนาอื่นๆ ประกอบกับสถานการณ์ในเมียนมาขณะนี้แม้จะมีพระสงฆ์กว่า 5 แสนรูป แต่ในระยะหลังประชาชนชาวเมียนมามีการเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลเมียนมาจึงเห็นความสำคัญของการก่อตั้ง “สมาคมชาวพุทธ” และร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเดียวกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับศาสนาพุทธ ดังเช่นมีการลงนามร่วมระหว่าง สมาคมพุทธเมียนมา กับ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดตั้ง ABC หรือ Asian Buddhist Community โดยการจัดงานที่พระธาตุอินทร์แขวน มีพุทธศาสนิกชนให้ความสนใจร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ดร.คิน ฉ่วย เชื่อว่า การจัดงานธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยอริยสงฆ์ลุ่มน้ำโขงจะทำให้ผู้ที่นับถือพุทธศาสนามีศรัทธาที่แรงกล้าและไม่เปลี่ยนศาสนา โดยสำหรับการจัดงานธรรมยาตราครั้งที่ 2 ในดินแดนพม่าจะจัดขึ้นที่ ท่าขี้เหล็ก และ เชียงตุง ในรัฐฉาน โดยขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ และจากนี้ไปจะเป็นการเตรียมการในขั้นสุดท้าย โดยคาดหวังว่าจะทำให้ผู้คนในพื้นที่เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
ขบวนแห่ยิ่งใหญ่ สื่อความหมายอันลึกซึ้ง
สำหรับในฝั่งไทย ผศ.ดร.วรินทรีย์ เยาว์ธานี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดริ้วขบวนในพิธีเปิด บอกว่า งานครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัย อีกทั้งจังหวัดมีส่วนร่วมโดยสร้างสรรค์การแสดงต่างๆ รวมถึงขบวนแห่แบบล้านนาเพื่อให้งานยิ่งใหญ่และมีความหมาย
“ในขบวนแห่ต้องใช้นักศึกษาชายหญิงกว่า 100 คน ร่วมขบวน รวมทั้งนักศึกษาที่ได้รับตำแหน่งดาว-เดือน, นักศึกษาที่เคยเข้าประกวด รวมทั้งที่ได้รับตำแหน่ง CRRU model พร้อมด้วยมิสแกรนด์เชียงราย 2019 ร่วมนำขบวนด้วย เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ สำหรับค่าใช้จ่ายได้รับการสนับสนุนโดย ดร.นิวัตน์ แจ้งอริยวงศ์ ซึ่งต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้” รองอธิการบดี ม.ราชภัฏเชียงรายกล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการแถลงข่าวในประเทศไทยแล้ว สถาบันโพธิคยาฯได้จัดแถลงข่าวธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขงยังประเทศเพื่อนบ้านที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย โดยในประเทศกัมพูชามีการจัดแถลงที่โรงแรม Sofitel Phnompenh Phokeethra นำโดย รมว.กระทรวงข่าวสาร, รมช.กลาโหมและอุปนายกสมาคมมิตรภาพกัมพูชา-ไทย อีกทั้งปลัดกระทรวงศาสนากัมพูชา
รวมถึง นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อุปนายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา เป็นต้น
นับเป็นโครงการแห่งศรัทธาที่แผ่นดินทั้ง 5 ได้มีส่วนร่วมในการสืบสานพระพุทธศาสนาอย่างจริงแท้ มั่นคง และยั่งยืน
ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินครั้งที่ 2
โครงการที่เชื่อมร้อยจิตใจชาวพุทธลุ่มน้ำโขงเข้าด้วยกัน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-31 ตุลาคม 2562 โดยมีพระสงฆ์ ฆราวาส และสื่อมวนชนจาก 5 ประเทศ เดินทางไปจาริกแสวงบุญร่วมกันใน 5 ดินแดนสุวรรณภูมิ อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช และตัวแทนพระสงฆ์ จาก 4 ประเทศ อาทิ พระอาจารย์ใหญ่มหาบุนมา รองประธานสงฆ์ สปป.ลาว, พระคุณเจ้า Baddanta Sandimar Bivumsa จากประเทศเมียนมา, พระคุณเจ้า Thich Thien Tam จากประเทศเวียดนาม
พิธีเปิดจัดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม ที่วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประเทศไทย และพิธีปิดจะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม ที่เสียมราฐ กัมพูชา