ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | กฤตยา เชื่อมวราศาสตร์ |
เผยแพร่ |
การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของ 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเป็นที่จับตามองของทั่วโลก เพราะเป็นภาคพื้นที่มีทรัพยากรมหาศาลทั้งทรัพยากรทางบก-ทางทะเล มีทั้งประเทศผู้นำเศรษฐกิจโลกอย่างสิงคโปร์ หรือพม่า ที่อุดมด้วยทรัพยากร
และชาติซึ่งเป็นที่จับตามองไม่เพียงจากเพื่อนร่วมภูมิภาค แต่รวมถึงสหรัฐอเมริกาประเทศผู้นำโลกเสรีของศตวรรษที่ 20 โดย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เป็นผู้นำมะกันคนแรกที่เยือนเวียดนามหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
ทั่วโลกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสัญญาณอันดีในการกระชับความสัมพันธ์ทั้งทางเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง และที่ไม่ควรมองข้ามคือลดอิทธิพลจากจีน ประเทศสังคมนิยมยักษ์ใหญ่ของศตวรรษที่ 21
เวียดนามมีดีอะไร? อาจเป็นการยากหากจะตอบให้ถูกใจเจ้าของคำถาม
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่น คือ ทรัพยากรธรรมชาติ-ประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม
“แม้ว่าสหรัฐจะสร้างบาดแผล กลายเป็นรอยแผลเป็นให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงความขัดแย้งที่สร้างความเจ็บช้ำ แต่ปัจจุบันสหรัฐเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของเวียดนาม” หว่าง หวู ไกด์หนุ่มชาวเวียดนามที่พูดไทยคล่องปร๋อ เปิดฉากเล่าเรื่อง ก่อนบอกว่า รองลงมาคือนักลงทุนจากญี่ปุ่นและเกาหลี
อย่าง ดานัง ที่อยู่ตอนกลางของประเทศนั้นมีทั้งท่าเรือ ชายหาด ทะเล บรรยากาศค่อนข้างดี ที่สำคัญยังมีท่าอากาศยานถึง 2 แห่ง แห่งหนึ่งคือท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม รองรับทั้งเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ
อีกแห่งคือท่าอากาศยานของกองทัพตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลตะวันออก สร้างโดยกองทัพอากาศสหรัฐสมัยทำสงครามเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันกองทัพอากาศของเวียดนามก็ได้ใช้ประโยชน์ในการฝึกอบรมต่างๆ
หว่าง หวู บอกว่า ทุกวันนี้เรายังเห็นเงาของอดีตในสายตาของคนรุ่นปู่ย่า ซึ่งสะท้อนความยากลำบากและขื่นขมจากสงครามได้
ดานัง อยู่ไม่ห่างจาก ฮอยอัน และ เว้ เท่าใดนัก – “ถนน 5 ดาว” ถนนเลียบชายฝั่งที่เชื่อมระหว่างดานัง-ฮอยอัน ยาว 30 กม. สองข้างทางเรียงรายด้วยโรงแรม 5 ดาวมากมาย – และ 97 กม. จากดานังสู่เว้ ซึ่งปัจจุบันมีอุโมงค์ลอดเขา เพื่อย่นระยะ ย่อเวลาให้สั้นลง
ชิ เหวียน (Chi Nguyen) พนักงานฝ่ายการตลาดขององค์กรภาคเอกชนที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวแถบชายฝั่งของเวียดนามกลาง (Central Coast Vietnam) เกริ่นว่า ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติดานัง 6.7 ล้านคน และคาดว่าปี 2016 จะมีผู้โดยสารถึง 7.6 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี รองลงมาคือญี่ปุ่น และจีน ตามลำดับ เพราะมีเส้นทางบินตรงของเวียดนามแอร์ไลน์
ดานังล้อมรอบด้วยแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมถึง 3 แห่ง คือ
เมืองโบราณฮอยอัน มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากจีนและญี่ปุ่น ทั้งสถาปัตยกรรม, ของเล่นทำมือ และเทศกาลไหว้พระจันทร์ ในวันขึ้น 14 ค่ำของทุกเดือน จะมีการประดับโคมไฟตลอดสองข้างทาง และมีการลอยกระทงดอกบัวในแม่น้ำ – เมืองโบราณนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางการค้าระดับนานาชาติ เมืองยังคงมีเสน่ห์เช่นวันวาน คนที่มาเยือนเวียดนามไม่ควรพลาด
พระราชวังเมืองเว้ เผยให้เห็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามเฉพาะตัวของราชวงศ์เหงียน Nguyen ราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม ด้วยพระราชวังมากมาย วัด เจดีย์ และสุสานในเขตพระราชวัง
และ ปราสาทหมีเซิน มีวัดและสุสานโบราณของศาสนาฮินดูมากกว่า 70 แห่ง ที่สร้างโดยกษัตริย์ Champa เมืองนี้อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 4-14 ศูนย์กลางของอาณาจักรจามปา (Champa Kingdom) ด้วยธรรมชาติที่รายล้อมซากอารยธรรมโบราณ
“ที่นี่ไม่เหมือนเมืองที่เจริญแล้วอย่างฮานอยเมืองเอกทางตอนเหนือ หรือโฮจิมินห์เมืองเอกทางใต้ ที่การจราจรวุ่นวาย ยังคงความสงบตามธรรมชาติ” ชิ ยืนยัน
การเดินทางสู่ศูนย์กลางเวียดนามกลางอย่าง “ดานัง” ใช้เวลาไม่นานนัก เพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที จากกรุงเทพฯเท่านั้น
เที่ยวบินปฐมฤกษ์กรุงเทพฯ-ดานัง ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สทะยานสู่จุดหมายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนแล้วยังมีผู้โดยสารทั้งชาวเวียดนาม อินเดีย และไทย ที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย
พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บอกว่า การแข่งขันด้านธุรกิจการบินในเวียดนามนั้นสูงมาก มีสายการบินที่บินตรงสู่มาโฮจิมินห์เยอะมาก รวมถึงสายการบินยุโรปที่แวะกรุงเทพฯ ก่อนไปโฮจิมินห์ด้วย ฉะนั้น ในด้านราคาจึงมีการแข่งขันสูง เมื่อประสบภาวะน้ำมันแพงบางกอกแอร์เวย์สจึงยกเลิกเส้นทางบินกรุงเทพฯ-โฮจิมินห์ ในปี 2554
“เรายังไม่ละเลยแนวทางการบินให้ครอบคลุมภูมิภาคโซนนี้ มองว่าดานังยังไม่มีใครบิน ก็พยายามวางเป็นเครือข่าย คุยกับพันธมิตรในเวียดนามว่าหากเราร่วมมือกันแล้วจะสามารถสร้างเครือข่ายการบิน และเป็นเส้นทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว” กัปตันพุฒิพงศ์ กล่าว และย้ำว่า
นี่เป็นหลักการที่เราพยายามทำอยู่ตอนนี้ คือสร้างเครือข่ายและทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อสร้างให้เกิดความแข็งแกร่งและความน่าสนใจของเส้นทางบินในภูมิภาค ปัจจุบัน บางกอกแอร์เวย์สมีเส้นทางบินสู่ประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ครบแล้ว
“เราเองเชื่อว่าดานังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง การท่องเที่ยวเติบโตขึ้น จากหลายปีที่ผ่านมาดานังมีการโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นเมืองที่แยกจากฮานอย และโฮจิมินห์ บริเวณนี้จึงมีความเป็นธรรมชาติ ความสดใส ความสบาย ไม่แออัดเหมือนเมืองใหญ่ น่าจะเป็นเมืองที่น่าสนใจและเชิญชวนให้มาเที่ยว”
“ส่วนศักยภาพของเวียดนามโดยรวมนั้น คิดว่ามีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของเวียดนามเองที่เราเห็นการพัฒนาของประเทศ แนวทางที่เขาพยายามที่จะเปิดมากขึ้นๆ รวมถึงการที่นักท่องเที่ยวไม่เฉพาะภูมิภาคนี้ จะเดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ซึ่งกรุงเทพฯเป็นจุดที่เขาผ่าน มีสายการบินเข้ากรุงเทพฯเยอะ จากกรุงเทพฯเข้ามาดานัง จึงน่าจะเป็นเส้นทางเชื่อมที่สะดวกสบายมากที่สุด” กัปตันพุฒิพงศ์กล่าว
นี่เป็นต้นเรื่องว่าทำไมต้อง “ดานัง”
นอกจากจะเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแล้ว นักท่องเที่ยวแถบยุโรปยังนิยมเดินทางมาอีกด้วย
“ปกตินักเดินทางชาวยุโรปจะมาดานังอยู่แล้ว แต่เป็นการเข้าที่ไม่ได้ผ่านกรุงเทพฯ แต่ผ่านสิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ โฮจิมินห์ ฮานอย และฮ่องกง ตลาดเขามีอยู่แล้ว ซึ่งกว่าจะต่อเครื่องถึงดานังนั้นใช้เวลานานมาก แต่เที่ยวบินของเราจะเปลี่ยนภาพตรงนั้น ทำให้การเดินทางสั้นลงมาก”
“จริงๆ แล้วเราไม่ต้องเปิดตลาดใหม่ แค่หยิบจาก “ตะกร้า” ของคนอื่นมา เพราะว่าถ้าเดินทางผ่านกรุงเทพฯแล้วใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯ-ดานัง ไม่เกิน 2 ชั่วโมง อย่างผู้โดยสารที่ใช้บริการสิงคโปร์แอร์ไลน์จากสวิตเซอร์แลนด์โดยมีปลายทางคือดานัง เขาต้องบินไปสิงคโปร์ก่อน ซึ่งอยู่ใต้ไทยประมาณ 2 ชั่วโมง”
“แต่ถ้าบินกับเราจะลดเวลาได้ 3-4 ชั่วโมง แต่ถ้ารวมเวลา Flight time แล้วอาจช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 5-6 ชั่วโมง ขณะที่กรุงเทพฯอยู่ตรงกลาง มีความได้เปรียบด้านลักษณะทางภูมิศาสตร์อยู่แล้วสำหรับการบินในภูมิภาค ไม่ว่าจะบินไปยังเวียดนาม กัมพูชา พม่า หรือลาว ถ้าเทียบกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ อย่างไรเราก็ใกล้กว่ามาก”
“เราคาดว่าได้นักท่องเที่ยว และคาดว่าจะได้นักท่องเที่ยวที่นี่จะไปเมืองไทย ซึ่งส่วนนี้ต้องลองดูอีกที เหมือนตอนเปิดเส้นทางกรุงเทพฯ-พนมเปญ เราก็ไม่คาดว่าจะมีคนกัมพูชาขึ้นกับเราเยอะขนาดนี้” พุฒิพงศ์ทิ้งทาย
ลองวีกเอนด์คราวหน้า
ลองไปเยือนดานังสักครั้ง