ได้ติดสอยห้อยตามคณะทัวร์ประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกกับคณะทัวร์ของ “มติชน อคาเดมี” ที่พาไปเที่ยวเมืองชัยภูมิกับขอนแก่น เป็นทัวร์ที่ย้อนเวลากลับไปดูการผสมผสานของวัฒนธรรมตั้งแต่ยุคสมัยทวารวดีอีสานรุ่งเรือง ต่อมาเป็นวัฒนธรรมเขมร และสุดท้ายกลายเป็นล้านช้าง บอกได้คำเดียวว่าสนุก และความรู้แน่นจริงๆ
มากับทัวร์มติชน อคาเดมี ไม่ใช่แค่ได้ความรู้ความสนุกนะคะ ร้านอาหารแต่ละจุดที่พาไปก็เด็ดจริงๆ โดยเฉพาะที่ขอนแก่น ได้ลองกินแล้วแซ่บอีหลี ใครผ่านไปผ่านมาขอนแก่นอยากให้ลองแวะชิมกันค่ะ เป็นร้านอาหารอีสาน ชื่อร้าน “ครัวโอมเพี้ยง”
พิกัดร้าน “ครัวโอมเพี้ยง” อยู่ที่ ซอยประชาสโมสร 20/1 ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ลองปักหมุดเปิดจีพีเอสมาได้ไม่ยาก
วันนั้นเราสั่งกัน 6 อย่าง ทั้งแบบกินเล่นและเป็นกับข้าว มี แหนมซี่โครงหมูทอด เป็ดย่าง ลาบหมู ต้มยำพวงไข่ ต้มแซ่บซี่โครงหมู และ ปลาเนื้ออ่อนทอด
ซิกเนเจอร์ไม่สั่งไม่ได้ คือ “เป็ดย่าง” ตัวละ 245 บาท เป็ดย่างที่นี่มีเอกลักษณ์ คือ ต้องย่างกับสมุนไพรใบมะกรูด ใช้เป็ดไซซ์ไม่ใหญ่มาก เป็นเป็ดไล่ทุ่งตัวย่อมๆ ตัวหนึ่งหนักประมาณกิโลนิดๆ ย่างด้วยเตาถ่านแบบใจเย็นๆ ทำให้หนังเป็ดจะมีความแห้งกรอบ ส่วนเนื้อก็จะนุ่มและหอมสมุนไพรมาก
“แหนมซี่โครงหมูทอด” 80 บาท เอามานั่งกินเล่นระหว่างรออาหารเรียกน้ำย่อยดี “ลาบหมู” 70 บาท จานนี้จัดจ้านและเผ็ดพอสมควร ใครไม่แน่จริงต้องกระซิบแม่ครัวขอเผ็ดน้อยหน่อยนะจ๊ะ
ประเภทต้ม แนะนำให้ลอง “ต้มยำพวงไข่” 80 บาท รสชาติจัดจ้าน ไม่ได้หากินง่ายๆ หรือใครชอบแบบแซ่บๆ รสเผ็ดเปรี้ยวสดชื่น ก็ต้องจัด “ต้มแซ่บซี่โครงหมู” 70 บาท และสุดท้าย กินเพลินสุดต้องยกให้ “ปลาเนื้ออ่อนทอด” 120-150 บาท ที่นี่ใช้ปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กหน่อย แต่ทอดมาเคี้ยวกรอบได้ทั้งตัว
นอกจากเมนูที่ชิมกันวันนั้นแล้ว จริงๆ ยังมีอีกหลายรายการที่เห็นแล้วยั่วน้ำลายมาก ที่ขึ้นเป็นอาหารแนะนำเลย คือ ลาบปลาตะเพียนไข่ แค่ชื่อก็กลืนน้ำลายแล้ว เพราะปลาตะเพียนไข่ของที่นี่เขาจะคัดตัวที่ไข่แน่นๆ แล่เนื้อคว้านไข่ เอามาทำลาบ ส่วนตัวปลาที่เหลือจะนำไปทอด เวลาเสิร์ฟจะวางปลาทอดมาด้วยกับลาบดูน่ากิน
จานที่ดูธรรมดาแต่รสชาติหรูหราอย่าง “หมกหม้อปลาเนื้ออ่อน” 130 บาท “หมกหม้อปลาคัง” 130 บาท เป็นสูตรหมกหม้อแบบอีสานแท้ อร่อยนัวและสมุนไพรเพียบ! ส่วนจำพวกต้มแกงใครชอบปลาลองสั่ง “แกงอ่อมปลาเนื้ออ่อน” 130 บาท หรือ “แกงหน่อไม้ส้ม” 130 บาท หรือพวกแกงลาว อย่าง แกงยอดหวาย แกงเห็ดโคน แกงเห็ดระโงก แกงผักหวานไข่มดแดง แกงเห็ดเผาะ ก็มีให้ลองชิมหมด แต่ผักบางอย่างอาจมีตามฤดูกาลเท่านั้น
ส่วนขนมหวานแนะนำ จะมีผลไม้ลอยแก้ว มีทั้งลูกตาล สละ มะพร้าว ลิ้นจี่ ขนุน มะม่วงหาวมะนาวโห่ สารพัดลอยแก้ว และขนมใหม่ล่าสุด กล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน
ร้าน “ครัวโอมเพี้ยง” นี้เปิดมาได้ประมาณ 10 ปีแล้ว ตอนแรกจะอยู่ปากซอยเลย แต่ 4 ปีหลังร้านขยับเข้ามาในซอย ใครไม่เคยมาก็ต้องเพ่งปากซอยกันนิดนึง ด้านในมีที่จอดรถสะดวกสบาย
คุณสมร ฉิมกลาง อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน “ครัวโอมเพี้ยง” บอกว่า แรกเริ่มเดิมทีทำเป็นร้านขายต้นไม้ ขายดีมากในช่วงบ้านจัดสรรบูม แต่พอช่วงฟองสบู่แตกก็เริ่มซบเซา ลองหันมาขายอาหารผสมด้วย เริ่มทำเป็นซุ้มๆ ขายดีขึ้นจนทำร้านอาหารอย่างเดียว เดิมทีร้านอยู่หน้าปากซอย แต่ตอนนี้ย้ายเข้ามาด้านในซอยแล้วประมาณ 100 เมตร
“ชื่อร้านใครๆ ก็ชอบถาม เลยบอกว่าลูกชายชื่อโอม พระท่านเลยบอกว่าชื่อโอมเพี้ยงก็แล้วกัน”
ใครที่มากินร้านนี้แล้วอาจจะรู้สึกคุ้นๆ กับเมนูอาหารหลายอย่างเหมือน “ร้านเฮือนกาฬสินธุ์” ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะ เพราะคุณสมร เป็นพี่น้องกับร้านเฮือนกาฬสินธุ์นั่นเอง
คุณสมรบอกว่า ร้านเดิมคือร้านของพี่สาวชื่อร้านเฮือนกาฬสินธุ์ มี 2 สาขา คือที่ รามอินทราคู้บอน 27 และสาขา พระยาสุเรนทร์ อาหารก็จะเป็นสูตรเดียวกัน แต่บางอย่างของที่นู้นเราอาจจะไม่มี
“อาศัยเป็นคนชอบทำอาหารและชอบชิม” คุณสมรบอกถึงที่มาของสูตรอาหารต่างๆ แล้วแนะนำเราว่า ซิกเนเจอร์ จะเป็นเป็ดย่าง และลาบปลาตะเพียนไข่ และที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด คือ ส้มตำ
“ส้มตำของเรา พี่เขยเฮือนกาฬสินธุ์บอกว่า ส้มตำของเราอร่อยกว่าทุกร้าน โดยเฉพาะส้มตำลาว เพราะปลาร้าเราต้มและปรุงเอง”
และแน่นอน เราพลาดไปแล้ว (ฮา) นึกแล้วเสียดายที่สุด เอาเป็นว่าใครได้มาลองกินแล้ว อย่าพลาดแบบเราค่ะ
สนใจไปชิม ร้านครัวโอมเพี้ยง เมืองเสียงแคนดอกคูน โทร 08-9713-8913, 08-8572-7179, 08-6353-6593
