คอลัมน์ แท็งก์ความคิด : ส่องทางออกประเทศ

มติชนจัดสัมมนา “2020 ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทย” ขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา

สถานที่จัดยังคงเป็นห้องอินฟินิตี้ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กทม.

วิทยากรที่ให้เกียรติมาร่วมงาน มีทั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ

ทั้งสองคนขึ้นปาฐกถาพิเศษขณะเดียวกันยังมีเวที 2 ช่วง จัดขึ้นเพื่อให้ภาครัฐ และภาคเอกชน

Advertisement

ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง “ลงทุน” ซึ่งเป็นแนวทางออกของเศรษฐกิจไทยในปี 2563

เวทีช่วงแรก มี นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ

ผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Advertisement

และประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เวทีช่วงที่สอง มี คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด

ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ คงเห็นภาพของทางออกทางเศรษฐกิจไทยเพราะทั้งนายสมคิด และวิทยากรคนอื่นๆ ต่างฉายภาพของปัญหาทางเศรษฐกิจ และแนะแนวทางออกเอาไว้ให้เห็น

โฟกัสไปที่การลงทุนที่มีทั้งเม็ดเงินและโอกาสมหาศาล รายละเอียดต่างๆ คนที่ได้ไปฟังสด คนที่ได้ฟังการถ่ายทอดสด และคนที่อ่านหนังสือพิมพ์มติชนรายวันคงได้รับทราบไปกันแล้ว

ทราบกันว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎร โดยวันที่ 20 มกราคม วุฒิสภาจะพิจารณา คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นั้น

งบปี 2563 มีงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท มีเวลาใช้จากเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคมเพียงแค่ 7-8 เดือน

นายสมคิดจึงผลักดันให้เบิกจ่ายงบประมาณลงไปในระบบ เทงบประมาณที่ภาครัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เข้าไป ปลุกเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอยู่ในขณะนี้ให้กระเตื้องขึ้นมา

มีแผนใช้เงินงบประมาณเข้าไปในระบบในช่วงต้นปีนี้ 1 ล้านล้านบาท

ขณะที่ภาครัฐ นายสุวิทย์ นำเสนอ BCG เป็นทางออกของประเทศ

B ย่อมาจาก Bioeconomy หมายถึง เศรษฐกิจชีวภาพ

C ย่อมาจาก Circular Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียน

G ย่อมาจาก Green Economy คือ เศรษฐกิจสีเขียว

พินิจพิเคราะห์แล้วจะเห็นว่า นี่คืออุตสาหกรรมยุคใหม่

สำหรับ กสทช. นายฐากรประกาศความพร้อมในการเปิดประมูลคลื่น 5จี

ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้

5G เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมที่สำคัญ และมีผลต่อการตัดสินลงทุนของนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

เชื่อว่าหากการประมูลเป็นไปตามเป้าหมาย 5จี จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นมหาศาล

นายฐากรจึงมั่นใจว่า หาก 5จี เกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยเติบโตแน่นอน

เช่นเดียวกับ น.ส.ดวงใจ ที่ขยับดึงดูดนักลงทุนด้วยแพคเกจต่างๆ ที่กำลังจะมีมา

ผนวกกับการโรดโชว์ที่จะมีขึ้นในเร็ววัน มีความเชื่อว่าต่างชาติจะสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี

นอกจากนี้ นายอาทิตย์ยังนำเสนอการลงทุนที่น่าสนใจ อาทิ การลงทุนจัดบริหารจัดการน้ำของไทย

การลงทุนเรื่องบริหารจัดการน้ำ แตกต่างจากการเยียวยาผู้ประสบภัย

เพราะการเยียวยา ทำให้ทั้งคนให้และคนรับไม่สบายใจ

แต่การลงทุนในเรื่องจัดการน้ำ จะทำให้ทุกอย่างได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน

คนไทยจะลงทุนก็ได้ คนต่างชาติจะลงทุนก็ไม่เป็นไร

นั่นเป็นตัวอย่างที่ได้ฟังในที่ประชุม

สำหรับเวทีสุดท้ายในการสัมมนาคือ มุมมองของนักธุรกิจที่เป็นตัวจริงทั้ง 2 คน

ทั้งนายสารัชถ์ และนายปณต คนในแวดวงคงรู้จักดีอยู่แล้ว

และถือเป็นเกียรติที่งานในวันนั้น ทั้งนายสารัชถ์ และนายปณต ขึ้นเวทีให้คำแนะนำ สนับสนุนการลงทุน

พร้อมนำประสบการณ์เรื่องจริงในโลกมาฉายภาพให้เห็น

สอดแทรกความเป็นห่วงรากหญ้า

ฟังแล้วประเทศไทยจะพบทางออก ต้องทำการบ้านอีกมาก

แต่อย่างน้อยการสัมมนาครั้งนี้ทำให้รู้ว่ารัฐบาลมีเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศเช่นไร

ภาครัฐและภาคเอกชนมีแผน และพร้อมช่วยเหลือประเทศอยู่แล้ว

เมื่อยุทธศาสตร์ชัด เป้าหมายแจ่มแจ้ง และพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

โอกาสที่ไทยจะพบความสำเร็จย่อมมีให้เห็น

การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ต้นปีไทยมีความเคลื่อนไหว

สอดส่ายค้นหาทางออก

ทางออกภาครัฐ ทางออกภาคประชาชน

รวมถึงทางออกของประชาชน ซึ่งก็คือทางออกของประเทศไทยเรานี่เอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image