| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | เบญจพร ถูระวรรณ์ |
| เผยแพร่ |
ในโอกาสครบรอบ 75 ปี โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ฤกษ์ดี เปิดโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา
ถือเป็นก้าวสำคัญของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และวงการการแพทย์แผนไทย ที่จะได้นำทฤษฎีการแพทย์แผนไทยมาใช้ในการตรวจ วินิจฉัย ตลอดจนเก็บรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการใช้ยาสมุนไพรอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ป่วย ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน และอนุรักษ์ซึ่งภูมิปัญญาและทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพได้อย่างยั่งยืน
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้การพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็น 1 ใน 13 สาขาหลักตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการมุ่งเน้นการใช้ภูมิปัญญาไทย การแพทย์แผนไทยในการพัฒนาสุขภาพ ผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน
โดยให้โรงพยาบาลศูนย์เเละโรงพยาบาลทั่วไป จัดบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกรักษาโรคทั่วไปและเฉพาะโรค เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต ไมเกรน ข้อเข่าเสื่อม ภูมิแพ้ อย่างน้อย 1 คลินิก ร้อยละ 80 มีบริการการแพทย์แผนไทยคู่ขนานแผนกผู้ป่วยนอกร้อยละ 70 และตั้งเป้าหมายในปี 2568 ให้โรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป/ชุมชนพัฒนาโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย มีบริการคลินิกผู้ป่วยนอกและหอผู้ป่วยด้วยแพทย์แผนไทยครบทุกแห่ง และมีแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลครบทั้ง 9,000 แห่ง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ผสมผสานมากขึ้น
“โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการเเพทย์ทางเลือกอภัยภูเบศร เป็น 1 ใน 14 แห่งเป้าหมายการพัฒนาโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยตัวอย่าง เป็นการบูรณาการการแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพให้ครบทุกมิติ และยกระดับมาตรฐานและขยายประโยชน์จากการแพทย์แผนไทย รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความเป็นเลิศด้านบริการสุขภาพสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งนอกจากจะเป็นการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพแล้ว ยังช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย” นพ.โสภณกล่าว
ซึ่งการดำเนินงานตลอด 75 ปี ที่ผ่านมาของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ตอกย้ำให้เห็นว่า โรงพยาบาลแห่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคในการปฏิบัติงาน โดยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานด้านการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ที่ครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่การพัฒนายาจากสมุนไพร การบริการและส่งเสริมสุขภาพในชุมชน การบริการผู้ป่วยนอก ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้ออกไปในวงกว้าง นอกจากนี้ยังส่งมอบบริการผ่านทางการแพทย์ให้อยู่ในใจของคนไทยและคนในอาเซียน ภายใต้วิสัยทัศน์ “บริการสุขภาพแบบผสมผสานที่เป็นเลิศและเป็นผู้นำด้านการแพทย์แผนไทยในอาเซียน”
แต่การดำเนินงานที่ผ่านมายังไม่มีโครงสร้างและแนวทางที่ชัดเจนในการบูรณาการการแพทย์ทางเลือกกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เเละระบบการให้บริการยังไม่สามารถดึงศักยภาพของการแพทย์แผนไทยมาใช้อย่างเต็มที่ ประกอบกับประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อการแพทย์แผนไทยที่มีอยู่
นับตั้งแต่ปี 2556 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงได้เตรียมการด้านบุคลากร อาคารสถานที่ โรคและอาการที่จะบูรณาการ มาตรฐานการตรวจวินิจฉัย การให้การรักษา การประเมินผล การบริหารความเสี่ยง การส่งต่อระหว่างการแพทย์ทั้ง 2 ระบบ เพื่อทำให้การแพทย์แผนไทยมีการพัฒนามาตรฐานและสามารถขยายการใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ
สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์แผนดั้งเดิมขององค์การอนามัยโลก พ.ศ.2557-2566 ที่ส่งเสริมการบูรณาการการแพทย์ดั้งเดิมเข้าในระบบการดูแลสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงการเปิด “โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกอภัยภูเบศร” อย่างเป็นทางการ ในวันครบรอบ 75 ปี ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี
นพ.จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกว่า การมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยนี้จะเป็นการก้าวกระโดดของการพัฒนาการแพทย์แผนไทยจากจุดอ่อนเดิมของการแพทย์แผนไทยที่ไม่เคยมีโรงพยาบาล มีเพียงหมอที่เป็นผู้ไปรักษาคนไข้ที่บ้านในรายที่คนไข้หนักเนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวกที่จะนำคนไข้มา ทำให้ไม่มีการบันทึกวิธีการรักษา การใช้ยา ผลการรักษาอย่างเป็นระบบ จึงขาดข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ พัฒนาปรับปรุงให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นการมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยจึงเป็นการสร้างความมั่นคงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีมาตรฐาน มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยยกระดับและคุ้มครองภูมิปัญญาไทยซึ่งเป็นมรดกของชาติให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก
“ขณะนี้ถือว่าเป็นการนำร่อง จึงมีตึกผู้ป่วยในสำหรับรองรับผู้ป่วยเพียง 18 เตียง โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยสามัญ 12 เตียง ห้องพักผู้ป่วยพิเศษเดี่ยว 5 ห้อง ห้องแยกผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน 1 ห้อง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการต่อยอดและขยายผลไปสู่การพัฒนาพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง”
“ส่วนด้านการให้บริการ ก็ได้เน้นโรคที่เป็นจุดแข็งของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีแนวทางการรักษา(CPG) ชัดเจน ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคสะเก็ดเงิน การดูแลมารดาหลังคลอด โรคกระดูกและข้อ โรคตับแข็ง และโรคพาร์กินสัน โดยแพทย์แผนไทยจะตรวจวินิจฉัยระบบธาตุทั้ง 4 และตรีโทษ ดูเส้นสิบ ดูสีผิว ลิ้น และการบำบัดรักษาด้วยการนวด การอบ การประคบ การกดจุดปรับสมดุลแต่ละที่ การเผายา ย่างยา รวมทั้งมีการใช้ยาสมุนไพรที่ปรุงยาตามทฤษฎีแพทย์แผนไทยและตามคัมภีร์ เฉพาะผู้ป่วยแต่ละรายด้วย”
ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เผยถึงยุทธศาสตร์ต่อจากนี้ว่า เพื่อให้เกิดบริการสาธารณสุขแบบทางเลือกให้กับประชาชน โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรพร้อมที่จะก้าวเป็นผู้นำในอาเซียนด้วยการสร้าง “อภัยภูเบศรเวชนคร เฮลท์คอมเพล็กซ์ เขาใหญ่” หรือ “เฮิร์บ ซิตี้” บนพื้นที่เกือบ 200 ไร่
โดยตั้งเป้าไว้ว่าภายในเฮิร์บ ซิตี้ จะมีทั้งโซนผู้ป่วยใน คีโมเทอราปี โรคเรื้อรัง และการวิจัย โดยเหล่านี้จะเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการบริการที่สอดรับกับแผนแม่บทกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ก็ได้อยู่ระหว่างการวางแผน ปรับพื้นที่ แต่จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เพราะต้องใช้งบประมาณถึงสองร้อยล้านบาท
เป็นโครงการการแพทย์แผนไทยยุคใหม่ ที่จะพลิกโฉมการดูแลสุขภาพและสาธารณสุขของไทยที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง
