ที่มา | คอลัมน์ ประสานักดูนก มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | นสพ.ไชยยันต์ เกษรดอกบัว [email protected] |
เผยแพร่ |
วันที่ 9-10 กรกฎาคม 2559 คนเขียนเดินทางไป “ดอยช้างมูบ” อีกครั้งเพื่อเก็บข้อมูลการเลี้ยงลูกของ “นกปีกแพรสีเขียว” คู่ “ฟ้าประทาน”
ที่ขานชื่อให้เช่นนี้ เพราะพ่อแม่นกคู่นี้เลือกทำรังรูปถ้วยบุด้วยไลเคนส์และมอสบนง่ามไม้สูงจากพื้นดินเพียง 3 เมตร ในป่าดิบเชิงเขา ดังนั้นถ้าสังเกตพฤติกรรมในบังไพร สามารถมองเห็นในระดับสายตา ทำเลของรังจึงเหมาะต่อการเก็บข้อมูลการทำรังเลี้ยงลูกของนกป่าหาดูยากชนิดนี้อย่างยิ่ง และจนบัดนี้ยังไม่มีข้อมูลบันทึกเรื่องระยะเวลาการกกไข่ เลี้ยงลูกของนกในเอกสารทางวิชาการเลย ในขณะที่รังของนกปีกแพรสีเขียวในอดีตที่ดอยอินทนนท์และดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ล้วนทำรังบนต้นไม้สูง 4-5 เมตรขึ้นไป จะเฝ้าส่องดูก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง จึงมองไม่เห็นรายละเอียดมากนัก
ครอบครัวปีกแพรที่ดอยช้างมูบ แม่นกเริ่มวางไข่ตั้งวันที่ 10 มิถุนายน 2559 รวม 3 ฟอง ไข่ใบแรกฟักเป็นตัวเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน รวมระยะเวลากกไข่ 18 วัน ลูกนกตัวแดง ตาปิด ตัวเปลือยไม่มีขนปกคลุม อันเป็นลักษณะของลูกนกป่ากลุ่มนกเกาะคอน ที่ลูกนกจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปจนกว่าจะออกจากรัง ต้องพึ่งพาพ่อและแม่นกนำอาหารมาป้อนตลอดระยะเวลาที่กำลังเติบโตในรัง
หลังจากนั้นลูกนกตัวที่สองก็ฟักเป็นตัวตามพี่คนโต แต่น่าเสียดายว่าไข่ใบที่ 3 ไม่มีโอกาสได้ฟักเป็นตัว หากลูกนก 2 ตัวก็นับว่าโชคดีแล้วเพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน แต่ละวันบนดอยปกคลุมด้วยม่านฝนหนักนานนับชั่วโมง ทำให้แม่นกต้องนั่งกกไข่ให้ความอบอุ่นกับไข่และลูกนกตลอดทั้งวัน ส่วนคุณพ่อก็เหนื่อยหน่อย บินเข้าบินออกรังแทบจะทุก 20 นาที นำหนอน แมลง และลูกไม้ขนาดเล็กที่บดบี้ให้เล็กลง นำมาป้อนทั้งแม่นกและลูกนก แต่ละครั้งที่เข้าป้อน พ่อนกจะอมอาหารไว้ในช่องปากและลำคอจนโป่งนูนออกมาชัดเจน ลางทีก็คาบลูกไม้ป่าขนาดพอคำไว้ด้วย
เมื่อลูกนกมีอายุมากกว่า 7 วัน ขนปีกและขนหางที่เรียกขนหลอด เริ่มงอกทะลุปลอกขนออกมา ขนกลุ่มนี้เป็นขนสำหรับบิน แม่นกก็วางใจ ละลูกนกไว้ในรังอันอบอุ่น ไปเกาะพักผ่อนบนกิ่งไม้ ใกล้รัง แม้จะห่างลูกแต่ก็ยังไม่ยอมละสายตาว่างั้นเถอะ ส่วนคุณพ่อคนดีทำหน้าที่ตัวเป็นเกลียว นำอาหารมาป้อนลูกนก 2 ตัวตามปกติตลอดทั้งวัน เมื่อฝนตกหนัก แม่นกจะบินเข้ามาป้องลูกนก ไม่ให้เปียกฝน เมื่อฝนหยุด แม่นกก็ละรัง บินออกไปเกาะกิ่งประจำ ไซ้ขน ตากปีกให้แห้ง
ส่วนพ่อนกเมื่อป้อนลูกแล้ว ยังต้องคาบถุงอึ หรือ fecal sac สีขาวน้ำนมที่ภายในบรรจุเศษอาหารย่อยไม่ได้ หลังจากลูกนกกินอิ่มแล้วจะยกก้นขึ้น เบ่งถุงอึออกมา พ่อนกก็ไม่รีรอ ใช้จะงอยปากคาบแล้วบินออกไปทิ้งนอกรัง นับว่าเป็นคุณพ่อรักความสะอาด นับเป็นวาสนาของแม่นก
“และวันที่ 12 กรกฎาคม ลูกน้อยสองตัวก็ลารัง นับเป็นข่าวดีที่ป่าไทยจะมีนกปีกแพรตัวงามเพิ่มขึ้นอีก 2 ตัว และได้ข้อมูลใหม่ว่านกปีกแพรสีเขียวเลี้ยงลูก นาน 16 วัน”